ราคาน้ำมันเมื่อต้นสัปดาห์ดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1991 จนเหลือ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จนเกรงกันว่าจะยิ่งทำให้ตลาดน้ำมันตกต่ำลงไปอีกในปี 2020
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ทีสุดของโลกพยายามปกป้องอิทธิพลของตัวเองในตลาดน้ำมันที่มีคู่แข่งอย่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม มีรายงานว่า ซาอุดีอารัมโก บริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี จาก 12 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็น 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพียงวันเดียวหลังจากที่บริษัทประกาศว่าจะเพิ่มปริมาณน้ำมันในตลาดให้มากขึ้นเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด
อามิน นัซเซอร์ ซีอีโอของบริษัทซาอุดี อารัมโก กล่าวว่า บริษัททุ่มเทความพยายามเพื่อให้แผนนี้เป็นจริงให้เร็วที่สุด โดยจะลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต แม้ตอนนี้จะไม่ระบุกรอบเวลาก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ราคาน้ำมันลดลงมา 1.2% เหลือ 36.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้มีการเจรจาตัดกำลังการผลิตระหว่างโอเปกและรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน ซาอุดีอาระเบียเสนอให้ลดกำลังการผลิตลง แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิต 300,000 บาร์เรลต่อวันทำให้เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ซาอุดีอาระเบียก็ประกาศแล้วว่าจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทำลายสถิติในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
เรื่องนี้จึงเป็นการยกระดับสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย การปะทะกันของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียทำให้ราคาน้ำมันลดลงทันที 25% ในวันที่ 9 มีนาคม จนกลายเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นประเทศต่างๆ พากันตระหนกจนทำให้หุ้นตก ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ่นของอารัมโกพุ่งกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตกลงไป 10% ต่ำกว่าราคาเดือนธันวาคมที่บริษัทเพิ่งเข้าตลาดหุ้น
การเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้มากกว่า 10 ปีก่อน เมื่อปี 2009 ที่ซาอุดีอาระเบียเคยเพิ่มกำลังการผลิตเกือบ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะนั้น ผู้บริหารของบริษัทและทางการซาอุดีอาระเบียได้หารือกันเพื่อหาความเป็นไปได้ในการเพิ่มกำลังการผลิตให้ถึง 15 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2020 แต่แผนนี้ก็ไม่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการน้ำมันที่ลดลง
ซาอุดีอาระเบียสามารถผลิตน้ำมันด้วยต้นทุนที่ถูกที่สุดในโลก ทำให้อารัมโกสามารถทำราคาต่ำกว่าบริษัทน้ำมันอื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียพึ่งพารายได้จากน้ำมันมากเกินไป ส่วนรัสเซียซึ่งมีต้นทุนการผลิตแพงกว่ามีรายได้จากช่องทางอื่นด้วย ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่างเดียวในช่วงเวลาที่ตลาดน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง
ที่มา:
https://www.theguardian.com/world/2020/mar/11/saudi-arabia-oil-price-war-production-increase-aramco
https://edition.cnn.com/2020/03/11/business/oil-prices-saudi-arabia/index.html
REUTERS/Maxim Shemetov
Tags: ซาอุดีอาระเบีย