เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เวลาราว 15.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พิธีครั้งนี้ คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน 160 คน จาก 105 ประเทศ ทั้งที่พำนักในประเทศไทยและในต่างประเทศ ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จครั้งนี้ด้วย
ประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จจาก 16 จุดริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ บริเวณสะพานพระราม 8 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯลฯ
การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ครั้งนี้ ประกอบด้วยเรือ 52 ลำ กำลังพลประจำเรือ 2,399 นาย การจัดรูปขบวนพยุหยาตราทางชลมารค แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ ริ้วสายกลาง เป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ตามเสด็จขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ยังพระที่นั่งสันติชัยปราการ เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และทรงบันทึกภาพริ้วขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
นอกจากนี้ มี เรืออีเหลือง (เรือกลองนอก) เรือแตงโม (เรือกลองใน) ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ พร้อมด้วยเรือตำรวจ 3 ลำ และเรือแซง 1 ลำ รวมเป็นจำนวน 10 ลำ
ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรี ไปยังท่าราชวรดิฐ ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือพระที่นั่งของพระมหากษัตริย์ อยู่ทางทิศตะวันตกของพระบรมมหาราชวัง รวมระยะทางประมาณ 3.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 42 นาที
ที่มาภาพ: LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP, REUTERS/Soe Zeya Tun
Tags: พระราชพิธีบรมราชาภิเษก, ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค, เห่เรือ