เคยไหม เวลาที่เราอยู่ใกล้กับคนรัก ครอบครัว หรือคนที่เรารู้สึกสนิท สบายใจ แล้วมีความรู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ อยากเอาตัวพิง เอาแขนไปพาด หรือแม้กระทั่งใช้เท้าเขี่ย แค่การสกินชิพหรือสัมผัสกันเพียงนิดเดียว ทำให้รู้สึกดีได้ขนาดนั้นเลยหรือ?

คำว่า ‘สกินชิพ’ หรือ Skinship ไม่ได้มาจากคำศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงการสัมผัสกันระหว่างแม่และลูก แต่เมื่อคำนี้เข้าสู่เกาหลีใต้ บริบทของคำนี้แปรเปลี่ยนความหมายสู่การสัมผัสแตะเนื้อต้องตัวกันระหว่างคู่รักหรือเพื่อน อีกทั้งอิทธิพลของซีรีส์เกาหลีที่แพร่หลาย ทำให้คำว่า ‘สกินชิพ’ ดูเป็นการแสดงออกทางความรักที่น่ารัก และไม่ได้มีความหมายในแง่ลบ

เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเราเวลาสกินชิพ?

การสัมผัส เป็นวิธีการแสดงออกทางความรักที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ เราสามารถกำหนดปริมาณความรักของเราผ่านการสัมผัสเพียงอย่างเดียว ยิ่งสนิทชิดใกล้กันมากเท่าไร ยิ่งมีแนวโน้มในการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

ในเชิงวิทยาศาสตร์เรียกการสัมผัสเหล่านี้ว่า ‘ระบบประสาทรับความรู้สึกทางกาย’ (Somatic Sensory System หรือ Body Sensing System) ซึ่งเป็นส่วนของระบบรับความรู้สึกที่ทำหน้าที่รับรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ประกอบด้วยตัวรับความรู้สึก ปลายประสาทรับความรู้สึก และศูนย์ประมวลผลต่างๆ ที่ระบบประสาทกลาง ทำให้รับรู้ตัวกระตุ้นได้หลายแบบ รวมทั้งสัมผัส อุณหภูมิ อากัปกิริยา และความเจ็บปวด

เมื่อเราได้ทำการสัมผัสบางอย่าง ข้อมูลจะถูกส่งตรงจากตัวรับความรู้สึกผ่านเส้นประสาท ผ่านลำเส้นใยประสาทในไขสันหลัง และตรงเข้าไปยังสมองเพื่อทำการประมวลข้อมูลว่า การสัมผัสนั้นเป็นอันตรายหรือไม่ และจะมีปฏิกิริยาต่อการสัมผัสนั้นอย่างไร

มีการวิจัยว่าการสัมผัสทางร่างกายในเชิงสกินชิพนั้น ทำให้ร่างกายเราผลิตสารเคมีสื่อประสาทอย่าง โดปามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ออกมามากขึ้น ทำให้เรามีสภาวะทางอารมณ์ที่ดีขึ้น หายจากอาการเครียด และปราศจากความกังวล อีกทั้งมีการศึกษาวิจัยว่า ‘การกอด’ ซึ่งถือว่าเป็นสกินชิพอย่างหนึ่ง สามารถทำให้ความดันเลือดลดลง รวมถึงลดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย

มีการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมว่า การบำบัดรักษาด้วยวิธีการ ‘นวด’ ที่ต้องมีการ ‘ลูบ’ ‘ยืด’ และ ‘บีบ’ ทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลายขึ้น รวมถึงเพิ่มปริมาณสารเซโรโทนิน และโดปามีนในร่างกายด้วย

มนุษย์ตระหนักถึงความสำคัญของการสัมผัสทางกายในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่การจับมือทักทายกับคนแปลกหน้า ไปจนถึงการโอบกอดคนที่เรารัก นอกจากนั้นการสกินชิพยังเป็นประตูบานแรกที่นำไปสู่การสัมผัสระดับสูงสุดอย่างการมีเพศสัมพันธ์

การสกินชิพไม่ใช่เรื่องผิด เพราะมันคือการแสดงออกทางความรักที่มนุษย์คนหนึ่งมีให้กับอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ควรลืมว่า การสกินชิพเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการยินยอมจากทั้งสองฝ่าย และต้องคำนึงถึงเวลา สถานที่ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู้ข้อถกเถียงในเรื่อง ‘การแสดงออกทางความรักในที่สาธารณะ’ (Public Display of Affection) ต่อไปได้

ดังนั้น ถ้าอยากทำให้คนที่เรารักรับรู้ถึงความรู้สึกที่มีให้ บางทีการ ‘สกินชิพ’ อาจเป็นวิธีสื่อสารความรักที่ดียิ่งกว่าการพูดคำว่า “รัก” ออกไปตรงๆ เสียอีก

ที่มา

https://www.newsreview.com/chico/content/the-significance-of-skinship/9000329/

https://plushcare.com/blog/advantages-of-human-touch-hugs/

https://www.thespruce.com/etiquette-of-public-affection-1216896

https://www.tokyoweekender.com/2019/09/skinship-japan-touchy-subject/

https://www.mendetails.com/women/

Tags: , , ,