วันนี้ (11 พฤษภาคม 2022) เจ้าหน้าที่ของเซี่ยงไฮ้ออกมาเผยว่า ครึ่งหนึ่งของเมืองปลอดโควิด-19 แล้ว แต่ข้อจำกัดต่างๆ ที่เข้มงวดยังคงอยู่ภายใต้นโยบายระดับชาติ Zero COVID หรือ ‘โควิดเป็นศูนย์’ หลังจากประชาชนในเมืองศูนย์กลางการเงินของจีนแห่งนี้ต้องเก็บตัวอยู่แต่บ้านมานานกว่าหนึ่งเดือน ขณะที่ ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้จีนเปลี่ยนแนวทางการจัดการโควิด-19 เนื่องจากเมืองต่างๆ ในจีนยังคงล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด และเตือนว่านโยบายดังกล่าวไม่ยั่งยืน

ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2022 ดร.เทดรอสได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความพยายามของจีนในมาตรการที่เข้มงวดเพื่อจัดการโควิด-19 ซึ่งเป็นการตำหนิที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนักต่อผู้นำจีนอย่าง สี จิ้นผิง (Xi Jinping) โดยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนนั้นไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาจากลักษณะพฤติการณ์ของเชื้อไวรัส

“เราได้หารือถึงปัญหานี้กับผู้เชี่ยวชาญชาวจีนแล้ว และเราอยากชี้ให้เห็นว่าแนวทางนี้ไม่ยั่งยืน ผมคิดว่าการเปลี่ยนแนวทางจะส่งผลที่สำคัญมาก” ดร.เทดรอสกล่าว ขณะที่ ไมค์ ไรอัน (Mike Ryan) ผู้อำนวยการด้านเหตุฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวเสริมว่า จำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนที่มีต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน ควบคู่ไปกับการพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

“เราจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างมาตรการควบคุมกับผลกระทบต่อสังคม ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ ซึ่งนั่นไม่ใช่การปรับตัวที่ง่ายดายเสมอไป” ไรอันกล่าว

ไรอันยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า จีนมีผู้เสียชีวิต 1.5 หมื่นราย นับตั้งแต่เชื้อโควิด-19 ปรากฏตัวครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2019 ซึ่งเป็นจำนวนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับจำนวน 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และมากกว่า 5 แสนคนในอินเดีย ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และต้องใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า การระบาดอย่างต่อเนื่องยังเป็นการขีดเส้นใต้ถึงความยากลำบากในการหยุดการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ที่สามารถแพร่เชื้อได้ง่าย

หลายเมืองในจีน ตั้งแต่ศูนย์กลางการเงินอย่างเซี่ยงไฮ้ ไปจนถึงเมืองหลวงปักกิ่ง ต้องอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเซี่ยงไฮ้เข้าสู่สัปดาห์ที่หกของการล็อกดาวน์แล้ว และทางการก็บังคับใช้นโยบายที่เข้มงวด ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความโกรธแค้นของประชาชนที่ไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ สี จิ้นผิง ย้ำในแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลของเขาไม่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแนวทางการจัดการโควิด-19 และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป รวมถึงเตือนไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อสงสัยในนโยบายนี้

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า จีนกำลังอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เกี่ยวกับวิธีการจัดการกับโควิด-19 โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ในจีนและสหรัฐอเมริกาได้เผยรูปแบบจำลองใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า จีนเสี่ยงต่อการมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 1.5 ล้านคน หากยกเลิกนโยบายปัจจุบันโดยไม่มีการป้องกัน เช่น การเพิ่มวัคซีนและการเข้าถึงการรักษา

นักวิจัยกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวอาจลดลงได้มาก หากจีนเน้นไปที่การฉีดวัคซีน โดยปัจจุบันมีเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปในจีนที่ได้รับการฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับการให้ยาต้านไวรัสแก่ประชาชน โดยที่ยังคงข้อจำกัดบางประการไว้

สำหรับรายงานล่าสุดในเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง 50.7 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 วัน โดยมีผู้ติดเชื้อ 1,487 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในหลักต่ำกว่าหมื่นเป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่แสดงอาการลดลง 2.6 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 228 ราย และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย

ที่มา

https://www.theguardian.com/world/2022/may/10/china-zero-covid-policy-world-health-organization

https://www.scmp.com/business/china-business/article/3177274/coronavirus-shanghais-daily-covid-19-infections-halve-below

Tags: , , ,