วันนี้ (15 เมษายน 2025) รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดงบช่วยเหลือมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) หลังมหาวิทยาลัยปฏิเสธคำสั่งรัฐบาลของทรัมป์ โดยไม่ยอมให้คนภายนอกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของมหาวิทยาลัย
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม รัฐบาลทรัมป์โจมตีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐฯ ว่า ปลูกฝังให้เกลียดชังชาวยิว (Antisemitism) หลังประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในสงครามอิสราเอล-กาซา ขณะที่พยายามเข้าแทรกแซงสถาบันศึกษาด้วยการสอบสวนจากรัฐบาลกลาง พร้อมกับขจัดนโยบายการเรียนการสอนที่มีความหลากหลาย เป็นเหตุให้สถาบันศึกษาหลายแห่งถูกระงับเงินช่วยเหลือมูลค่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ส่งจดหมายถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่า ‘ล้มเหลว’ ในเงื่อนไขที่รัฐบาลกลางใช้พิจารณาในการให้ทุนคือ การให้ความรู้และสิทธิพลเมือง โดยออกนโยบายใหม่ที่สั่งลดอำนาจนักศึกษาและบุคลากร บังคับให้มหาวิทยาลัยต้องรายงานพฤติกรรมที่ละเมิด ‘ค่านิยมของชนชาติอเมริกัน’ ของนักศึกษาต่างชาติ อีกทั้งยังสนับสนุนให้นำ ‘คนนอก’ เข้ามา เพื่อตรวจสอบดูว่า การเรียนการสอนภายในมีความหลากหลายจริงๆ และยุติระบบโควตาที่คัดเลือกบุคลากรหรือนักศึกษา ที่ใช้เกณฑ์สีผิว เชื้อชาติ และชาติกำเนิดเข้าพิจารณา
อย่างไรก็ตาม อลัน การ์เบอร์ (Alan Garber) ประธานกรรมการมหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์คัดค้านคำสั่งของรัฐบาลทรัมป์เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ว่าจะพรรคการเมืองใด ไม่มีสิทธิบังคับให้ฮาร์วาร์ดสอนอะไร ควรรับใครเข้าเรียน เข้าทำงาน จนถึงสามารถสอบสวน หรือตรวจเช็คได้ว่า ผู้เรียนเลือกจะเรียนอะไร และคำสั่งของรัฐบาลทรัมป์กำลังควบคุมผู้คนในฮาร์วาร์ด พร้อมทั้งทำลายความเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนของรัฐ
“มหาวิทยาลัยจะไม่ยอมจำนนต่อความเป็นอิสระ หรือสละสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าฮาร์วาร์ดหรือมหาวิทยาลัยเอกชนอื่นๆ ไม่ควรยอมให้รัฐบาลกลางเอาอำนาจจากเราไป”
แต่ปรากฏว่า ภายหลังไม่กี่ชั่วโมงที่ฮาร์วาร์ดแสดงจุดยืน รัฐบาลทรัมป์ระงับงบประมาณเงินทุน 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสัญญาระหว่างรัฐบาลกับมหาวิทยาลัย โดยทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า มาตรการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย Make Higher Education Great Again ด้วยการยุติขบวนการสร้างความเกลียดชังชาวยิว และการันตีประชาชนผู้เสียภาษีว่า เงินทุกบาททุกสตางค์จะไม่สนับสนุนฮาร์วาร์ด ที่หนุนหลังการเหยียดเชื้อชาติ และการเลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ดี บุคลากรของมหาวิทยาลัยได้ยื่นฟ้องรัฐบาลทรัมป์ จากกรณีแทรกแซงกิจกรรมของมหาวิทยาลัยตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับให้เหตุผลว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งขั้นตอนการตัดเงินทุน และการแจ้งให้สภาคองเกรสทราบ
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะเครือ Ivy League กำลังเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ จากนโยบายดังกล่าว โดยรายงานของ Reuters เผยว่า มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) อาจเป็นเป้าหมายถัดไป ที่ต้องลงนามและปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลทรัมป์
อ้างอิง
– https://www.nytimes.com/2025/04/14/us/harvard-trump-reject-demands.html
– https://edition.cnn.com/2025/04/14/us/harvard-rejects-policy-changes/index.html
Tags: สหรัฐอเมริก, โดนัลด์ ทรัมป์, Harvard University, มหาวิทยาลัย, ฮาร์วาร์ด, สหรัฐฯ, Trump 2.0, รัฐบาลสหรัฐอเมริกา