เมื่อวานนี้ (9 พฤศจิกายน 2025) ทิม เดวี (Tim Davie) ผู้บริหารสูงสุดของ BBC และเดโบราห์ เทอร์เนสส์ (Deborah Turness) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBC ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากหนังสือพิมพ์ Daily Telegraph ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สารคดีที่ชื่อว่า Panorama ของสำนักข่าวสาธารณะชื่อดังของอังกฤษอย่าง BBC ซึ่งสารคดีปล่อยออกมาก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพียง 1 สัปดาห์เมื่อปีที่แล้วว่า มีการนำถ้อยปราศรัย 2 ส่วนของทรัมป์ ที่ขึ้นกล่าวปราศัยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 บริเวณใกล้กับทำเนียบขาว มาตัดต่อเข้าด้วยกัน โดยส่วนแรกคือวลีที่กล่าวว่า “We’re going to walk down to the Capitol” และส่วนที่ 2 “We fight like hell” ส่งผลให้คำปราศัยที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสารคดีมีลักษณะปลุกปั่นให้ประชาชนก่อเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020
หนังสือพิมพ์ Daily Telegraph ระบุว่า สิ่งนี้คือปัญหาร้ายแรงที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางของ BBC และนำไปสู่การสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้รับสาร
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ Daily Telegraph ถูกทำเนียบขาวและกลุ่มนักการเมืองฝ่ายขวาของอังกฤษยกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นกลางของ BBC อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งผู้บริหารทั้งสองตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
“ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผม เพื่อแสดงการรับผิดชอบอย่างสูงสุด” เดวีกล่าว ในขณะที่เทอร์เนสส์เขียนจดหมายถึงทีมงานระบุว่า “ในตอนที่ความผิดพลาดได้เกิดขึ้น แต่ฉันยังขอยืนยันว่า คำกล่าวที่อ้างว่าสำนักข่าว BBC ไม่เป็นกลางนั้นไม่ใช่เรื่องจริง” สำนักข่าว Reuters ยังยืนยันว่า คณะกรรมการบริหาร BBC ยังรู้สึกตกใจกับการตัดสินใจของเทอร์เนสส์
สำหรับสารคดีของ BBC ในช่วงหนึ่งมีการตัดประโยคของทรัมป์ที่กล่าวว่า “อย่างสันติ” ออก และนำมาตัดต่อใหม่จนกลายเป็นประโยคว่า
“เราจะไปที่รัฐสภากัน และผมจะอยู่กับพวกคุณ เราจะสู้จนสุดใจ” (We’re going to walk down to the Capitol and I’ll be there with you. And we fight. We fight like hell) ซึ่งกลายเป็นคำปราศรัยที่คล้ายกับการปลุกใจให้ก่อการจลาจล
อย่างไรก็ตามหลักฐานจากวิดีโอในวันดังกล่าวพบว่า คำปราศรัยเต็มของทรัมป์กลับกล่าวว่า “เราจะไปที่รัฐสภากัน และเราจะไปเชียร์วุฒิสภาและสมาชิกรัฐสภาที่กล้าหาญของพวกเรา ในอีกไม่ช้าทุกคนที่นี่จะเดินทางไปรัฐสภาเพื่อทำให้เสียงของพวกคุณได้รับการได้ยินอย่างสันติ”
(We’re going to walk down to the Capitol, and we’re going to cheer on our brave senators and congressmen and women…everyone here will soon be marching over to the Capitol building to peacefully and patriotically make your voices heard.)
ในเวลาต่อมา ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ส่วนตัวของเขาเพื่อกล่าวขอบคุณหนังสือพิมพ์ Daily Telegraph ที่ออกมาเปิดโปงนักข่าว ‘คอร์รัปชัน’ และยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “บุคคลเหล่านี้พยายามที่จะขึ้นมาบนตาชั่งของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แย่สำหรับระบบประชาธิปไตยอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้ แคโรไลน์ ลีวิตต์ (Karoline Leavitt) โฆษกทำเนียบขาว ยังแสดงความคิดเห็นบน X โดยโพสต์ภาพหน้าจอบทความที่มีหัวข้อว่า “ทรัมป์ทำสงครามกับ ‘ข่าวปลอม’ ของ BBC” เคียงคู่กับภาพหน้าจอบทความการประกาศลาออกของเดวีและเทอร์เนส
ทั้งนี้สำนักข่าว BBC เป็นสำนักข่าวที่อยู่คู่กับสหราชอาณาจักรมามากกว่า 100 ปีและได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในช่วงหลังนี้ BBC มักถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกตั้งคำถามถึงความเป็นกลางและจรรยาบรรณของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคนข้ามเพศ หรือการรายงานข่าวสงครามในกาซาอย่างไม่เป็นกลาง
ในอีกด้านหนึ่ง หลุยส์ แซนเดอร์-โจนส์ (Louise Sandher-Jones) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร ออกมาแย้งในประเด็นถึงความไม่เป็นกลางของสำนักข่าว BBC โดยเธอได้กล่าวกับสำนักข่าว Sky News ว่า “เมื่อพิจารณาประเด็นภายในประเทศ ประเด็นท้องถิ่น หรือประเด็นต่างประเทศก็ตาม ฉันก็ยังคิดว่า BBC นั้นมีความน่าเชื่อถือมาก”
ที่มา:
– https://www.dw.com/en/bbc-bosses-resign-amid-fury-over-trump-documentary-edit/a-74680557
Tags: Trump, โดนัลด์ ทรัมป์, BBC, ทรัมป์, บีบีซี, Tim Davie, Deborah Turness




