คณะกรรมาธิการเชิญ ‘ธานี อ่อนละเอียด’ พร้อมน้องชาย ‘ประวิตร’ ให้ข้อมูล เพราะตั้งสิบตำรวจโทหญิงนั่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

วันนี้ (31 สิงหาคม 2565) ที่รัฐสภา ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรรมาธิการฯ มอบให้ตนเองเป็นเจ้าของเรื่องเพื่อสอบสวนกรณี สิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ซึ่งมีคดีทำร้ายร่างกายทหารหญิง และถูกเปิดโปงว่าเป็น ‘เด็กฝาก’ ของ ส.ว. เพื่อเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการประจำสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมถึงยังมีข่าวว่าได้รับแต่งตั้งให้เป็นสิบตำรวจโทหญิงด้วยระบบอุปถัมภ์และวิธีผิดปกติ อีกทั้งยังถูกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งประจำกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ประจำสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อรับเบี้ยเลี้ยง

ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีข่าวออกมาว่าที่วัดแห่งหนึ่งมีชื่อ ธานี อ่อนละเอียด ส.ว. ชุดปัจจุบัน กับสิบตำรวจโทหญิงท่านนี้ เป็นผู้ทำบุญร่วมกันติดไว้ ซึ่งชื่อดังกล่าวบังเอิญไปตรงกับชื่อของอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรม สนช. และเกี่ยวเนื่องกับคดี วรยุทธ อยู่วิทยา บุตรชายนักธุรกิจดังซึ่งหลบหนีคดีขับรถเฟอร์รารีชนตำรวจเสียชีวิต โดยเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ความเร็วรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 79.23 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ธีรัจชัยกล่าวอีกว่า จากนั้นจึงได้ตรวจสอบไปยังกรรมาธิการกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย สนช. จนพบคำสั่งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2561 แต่งตั้ง กรศศิร์ บัวแย้ม เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ลงชื่อ พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมาธิการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าสนใจว่าเป็นบุคคลในกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ขณะเดียวกัน พลเรือเอกศิษฐวัชรยังเป็นน้องชาย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ส.ส.พรรคก้าวไกลยังระบุอีกด้วยว่า ในการตรวจสอบของกรรมาธิการจะไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะคดีทำร้ายร่างกาย แต่จะตรวจสอบการแต่งตั้งสิบตำรวจโทหญิงทั้งที่อายุเกินว่า แต่งตั้งได้อย่างไรและใครเป็นผู้แต่งตั้ง ขณะเดียวกัน กรรมาธิการยังได้เชิญปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวะศึกษา มาตรวจสอบเรื่องวุฒิการศึกษา และจะเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาตรวจสอบว่าข้าราชการตำรวจขาดแคลนจริงหรือไม่

นอกจากนี้ ในเรื่องของการเอาชื่อไปไว้ที่ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า หรือที่เรียกว่าเป็น ‘บัญชีผี’ คือมีชื่อแต่ตัวไม่ได้อยู่จริงนั้น มีข่าวออกมาหลายกระแสว่า บัญชีผีมีถึง 30 เปอร์เซ็นต์บ้าง 50 เปอร์เซ็นต์บ้าง จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ และตรวจสอบว่ามีชื่อใครบ้าง ทั้งตำรวจและทหารว่าใครอยู่หรือไม่อยู่ เพราะเป็นการนำภาษีประชาชนไปให้กับคนที่ไม่ได้เสี่ยงภัยจริง แต่เอาภาษีประชาชนไปให้เป็นเบี้ยพิเศษ

“เราจะใช้เรื่องนี้ เป็นตัวอย่างขยายไปถึงโครงสร้างกองทัพที่ทำลายความเข้มแข็งของกองทัพ กินภาษีประชาชน และเป็นโครงสร้างอุปถัมภ์ที่ละเอียดที่สุดให้ปรากฏออกมา”

สำหรับรายชื่อที่กรรมาธิการฯ จะเชิญเข้ามาเพื่อให้อธิบายว่าความจริงเป็นอย่างไร และเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ได้แก่

1. ธานี อ่อนละเอียด ส.ว. และอดีต สนช. ที่ปรากฏชื่อร่วมกับสิบตำรวจโทหญิงกรศศิร์ที่วัด และเป็นหนึ่งในกรรมาธิการกฎหมาย

2. พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ น้องชายพลเอกประวิตร ส.ว. และ อดีต สนช. ที่เป็นผู้แต่งตั้งสิบตำรวจโทหญิงกรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สนช.

3. พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายพลเอกประวิตรอีกคน ซึ่งอยู่ในกรรมาธิการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สนช.

“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรเกิดระบบเด็กฝาก ระบบอุปถัมภ์แบบนี้ ที่ใช้ทหารเกณฑ์หรือทหารเข้ามาไว้ตามบ้าน ไม่ควรทำบัญชีผีที่ใช้ภาษีประชาชนไปเป็นทหาร แล้วได้รับบำเหน็จบำนาญมากกว่าคนอื่น”

ทั้งนี้ พลเรือเอกศิษฐวัชรและพลตำรวจเอกพัชรวาทเป็นน้องชายของพลเอกประวิตร ซึ่งทั้งคู่ดำรงตำแหน่งเป็น สนช. ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้แต่งตั้ง โดยพลเอกประวิตรมีน้องชายทั้งสิ้นรวม 4 คน ได้แก่ พลเรือเอกศิษฐวัชร, พลตำรวจเอกพัชรวาท, พงษ์พันธุ์ วงษ์สุวรรณ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลทีโอที และพันธุ์พงษ์ วงษ์สุวรรณ