วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2565) สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตัวเอง ภายหลังจากที่ ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร ออกมาให้ข้อมูลว่า มีผู้ร้องเรียนว่าขณะที่สุชัชวีร์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตและประพฤติมิชอบ

สุชัชวีร์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตอนหนึ่งว่า รู้สึกได้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม รู้สึกได้ว่าถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และมีกระบวนการที่จะบั่นทอนความน่าเชื่อถือ และความตั้งใจของผมในการออกมาทำงาน ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องความไม่เป็นธรรมเหล่านี้

“ผมอยากเรียนกับทุกท่านว่า กล้าอาสาออกมาทำงานเพื่อประชาชน ไม่ปฏิเสธการตรวจสอบ พร้อมให้มีการตรวจสอบ จึงมายื่นจดหมายให้กับ ปปช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระใต้รัฐธรรมนูญ มายื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ของผมและภรรยา มั่นใจว่ากระบวนการตรวจสอบของปปช.ให้ความเป็นธรรมกับผมและครอบครัวได้”

สุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี สจล. นั้น ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และไม่ทุจริต ทำตามความจริง และไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งนี้ ไม่ปฏิเสธการตรวจสอบ และยอมรับการตรวจสอบ แต่ต้องเป็นการตรวจสอบโดยปปช. ที่เป็นองค์กรอิสระ ที่มีอำนาจและหน้าที่โดยตรง

“ผมอยากกราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เฉพาะพี่น้องประชาชนกทม.เท่านั้น แต่เป็นพี่น้องประชาชนจากทั่วประเทศ ที่ส่งกำลังใจให้ผมและครอบครัวผ่านทุกช่องทาง ผมไม่ท้อ แต่อยากจะขอความเป็นธรรมและกำลังใจ และกำลังใจนี้ไม่ใช่แค่ให้ผม แต่ให้คนรุ่นผม รุ่นน้องผม ไม่ให้ถูกสกัดกั้นทางการเมืองอีก”

สุชัชวีร์ ยังระบุอีกด้วยว่า เชื่อมั่นใน ปปช. ว่ามีกระบวนการตรวจสอบที่ชัดเจน ที่สามารถให้ความเป็นธรรมกับตัวเอง และครอบครัวได้ และการยื่นให้ ปปช. ตรวจสอบ แสดงให้เห็นว่าพร้อมเป็นตัวอย่างที่ดี ให้มีการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่ถูกต้อง รวมถึงเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องๆ ที่พร้อมมากกว่า ที่เก่ง และมีความสามารถมากกว่า จะได้เห็นว่าการเมือง ไม่ควรเป็นการเมืองในรูปแบบเดิมๆ และไม่ควรมีการสกัดกั้นทางการเมืองอีก

ขณะเดียวกัน จากที่ได้ลงพื้นที่มา คิดว่าเรื่องดังกล่าวไม่กระทบกับการหาเสียง โดยที่เดินลงพื้นที่ทุกวันนี้ คิดอยู่ตลอดว่า ได้ลงพื้นที่ในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เดินแจกๆ ข้อมูลตัวเอง แต่ทุกวัน คือการลงไปสัมผัสปัญหาจริงๆ และได้เดินเจอปัญหาจริงๆ 10-15 กิโลเมตร ทุกวัน จึงมั่นใจว่ามีความพร้อมเป็นอย่างมาก

Tags: , , , , ,