วิกฤตการณ์การเมืองเกาหลีใต้ที่ยืดเยื้อ กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ หลังนักท่องเที่ยวบางส่วนยกเลิกเที่ยวบินและการจองโรงแรม ด้านนายกเทศมนตรีกรุงโซลออกมาสร้างความมั่นใจ ย้ำกรุงโซล ‘ปลอดภัย’
วันนี้ (14 ธันวาคม 2024) สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ปม ‘กฎอัยการศึก’ ที่นำไปสู่วิกฤตทางการเมืองเกาหลีใต้ครั้งใหม่ ‘ชะลอ’ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางและที่พัก ขณะที่บางส่วนมีแนวโน้มที่จะยกเลิก โดยกำลังประเมินและจับตาดูความคืบหน้าของสถานการณ์ทางการเมือง
เบื้องต้นกลุ่มสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ (Korea Tourism Start-up Association) เปิดเผยว่า จำนวนการจองที่พักในช่วงครึ่งปี 2025 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่แหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนเล่าว่า นักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพักโรงแรมในกรุงโซลจำนวนหนึ่ง เป็นเหตุให้ที่พักหลายแห่งมีโปรโมชันพิเศษเช่นลดราคา เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาเข้าพัก
ปัญหาดังกล่าวยังกระทบกับอุตสาหกรรมความงามและศัลยกรรม โดยคลินิกแห่งหนึ่งในย่านคังนัม (Gangnam) เปิดเผยว่า ลูกค้าชาวต่างชาติหลายคนขอยกเลิกการจอง หลังมีข่าวว่า ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก อีกทั้งยังยอมรับว่า แม้ทางคลินิกจะไร้ความกังวลในขณะนี้ แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองยังยืดเยื้อต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าต่างชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้สำนักข่าวโคเรียเฮรัลด์ (KoreaHerald) ยังวิเคราะห์ 2 ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจจากวิกฤตทางการเมืองครั้งนี้ว่า หากมีการเลือกตั้งผู้นำประเทศคนใหม่อย่างเร็วที่สุด หรือศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ตัดสินใจถอดถอน ยุน ซอกยอล (Yoon Suk-yeol) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกจากตำแหน่ง ก็มีแนวโน้มสูงที่ตลาดจะลดความผันผวนลง แม้อาจจะใช้ระยะเวลานานถึง 3 เดือน แต่ก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากสามารถคาดเดาสถานการณ์ได้
เช่นเดียวกับ แอนดริว กิลโฮลม์ (Andrew Gilholm) ผู้อำนวยการบริษัท Control Risks Group ที่ประเมินไว้ว่า หากเกาหลีใต้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ โดยเฉพาะการมีแผนเลือกตั้งครั้งใหม่ที่ชัดเจน ประเทศอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าที่ใครหลายคนกังวล
ทว่าหากวิกฤตทางการเมืองยังยืดเยื้อต่อไป จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อระบบเศรษฐกิจ นโยบายการเงินของประเทศ รวมถึงภาคเอกชนของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะแรงจูงใจด้านการลงทุนที่ลดลง อาจก่อให้เกิดวิกฤตด้านสภาพคล่องทางการเงินได้
พัค จองอู (Park Jeong-woo) นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทโนมูระโฮลดิง (Nomura Holding) คาดการณ์ว่า ผลกระทบทางการเมืองที่ยืดเยื้อ อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง 0.2% และธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Bank of Korea: BOK) ต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้พยายามเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนภายในประเทศและชาวต่างชาติ โดย ชเว ซังม็อก (Choi Sang-mok) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมายอมรับว่า เกาหลีใต้กำลังเผชิญความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากขึ้น แต่จะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อปรับสมดุลตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ หลังค่าเงินสกุลวอน (Won) อ่อนตัวลงในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2009
ด้าน โอ เซฮุน (Oh Se-hoon) นายกเทศมนตรีกรุงโซล ออกมาตั้งโต๊ะแถลงเมื่อวานนี้ พร้อมกับสร้างความมั่นใจด้วยคำพูดว่า กรุงโซล ‘ปลอดภัย’ ในภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น แม้ยอมรับว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงก็ตาม
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการเมืองเกาหลีใต้ยังคงน่าเป็นห่วง หลังยุน ซอกยอลเพิ่งยืนยันเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ว่า เขาจะไม่ลาออกและพร้อมเดินหน้าสู้ต่อไป ขณะที่พรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้ (Democratic Party of Korea) จะยื่นมติถอดถอนครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 ธันวาคมที่กำลังจะถึงนี้
ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำกำไรให้กับเกาหลีใต้ถึง 84.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 3.8% ของ GDP ในปี 2023 โดยก่อนหน้านี้มีการประเมินว่า อุตสาหกรรมภาคส่วนนี้กำลังฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งคิดเป็นตัวเลขเทียบเท่าราว 97% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
อ้างอิง
https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20241211050096
https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20241211050081
https://www.reuters.com/world/asia-pacific/south-korean-president-yoon-vows-fight-end-2024-12-12/
Tags: การเงิน, เศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว, เกาหลีใต้, หุ้น, กฎอัยการศึก, เกาหลี, เอเชียตะวันออก