วันนี้ (17 กรกฎาคม 2566) ราว 14.00 น. แสนดี-แสนปิติ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย โพสต์ทุกข้อและประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเป็นภาษาอังกฤษ ข้อความว่า
“ผมขอพูดอะไรตรงๆ หน่อยนะ ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและมีแนวคิดเดียวกัน
1. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 จะไม่เกิดขึ้น
2. การแก้ไขกฎหมายที่เป็นที่ถกเถียงจะไม่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้
3. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีวัน
4. ตราบใดที่พรรคก้าวไกลยังคงหมกมุ่นกับการฝืนส่งพิธาเป็นนายกฯ คุณจะไม่มีวันชนะเลย
5. ก้าวไกลไม่ได้ชนะแบบแลนด์สไลด์ พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยต่างกันแค่ 10 เสียง รอบของคุณจบแล้ว
6. ส.ว.ไม่สนใจข้อเรียกร้องหรือการประท้วงหรอก เพราะพวก ส.ว.ยังอยู่ในอำนาจต่ออีก 1 ปี เลือกตั้งครั้งหน้าลองชนะให้ได้สัก 65% เหมือนตอนพรรคไทยรักไทยปี 2548 สิ แล้วผมจะทบทวนจุดยืนตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
7. พรรคก้าวไกลไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ เพราะนายทุนหรือองค์กรอื่นๆ ขนาดใหญ่ไม่ต้องการให้ก้าวไกลอยู่ในอำนาจ เกษตรกรต้องการนโยบายที่จ่ายเงินโดยตรง ไม่ใช่แนวคิดเรื่อง Gender และการปลุกปั่นที่ไร้สาระ
8. กล่าวโดยสรุป ไม่มีใครต้องการให้ก้าวไกลขึ้นเป็นรัฐบาล มีแค่เด็กวัยรุ่นเสเพลและเด็กที่ไม่เชื่อฟังเท่านั้น
9. พรรคก้าวไกลมีอายุแค่ราว 2 ปี แล้วพรรคทำอะไรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาล่ะ? มีแต่โดนคดีความ ผู้นำพรรคที่เป็นผู้บริหารสูงสุด 3 คน ก็ถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี แล้วพิธาก็อาจจะโดนด้วยเหมือนกัน
“พูดให้ชัดขึ้น ผมคิดว่านโยบายพรรคก้าวไกลเป็นอะไรที่มีความเป็นไปได้ มีการเปลี่ยนแปลง และมีความสร้างสรรค์
“ผมแค่ไม่ต้องการผู้นำหรือผู้คนที่เกี่ยวพันกับการประท้วงในปี 2563 ทั้งหมด
“ผมยังคงมีจุดยืนมากๆ เรื่องของการโปรประชาธิปไตย และไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ, อนุทิน ชาญวีรกูล และรวมไทยสร้างชาติ
“ผมแค่ไม่เห็นด้วย เราทุกคนล้วนมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันสำหรับประเทศไทยตอนนี้”
Tags: นายกรัฐมนตรีคนที่30, แสนปิติสิทธิพันธุ์, พรรคเพื่อไทย, การจัดตั้งรัฐบาล, พรรคก้าวไกล