การประชุมสุดยอดของพันธมิตรนาโต (North Atlantic Treaty Organization: NATO) ณ เมืองวิลนีอุส (Vilinius) ประเทศลิทัวเนีย เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา (11-12 กรกฎาคม 2023) สิ้นสุดลงแล้ว
เรื่องราวที่ค้างคามาตลอด 1 ปี อย่างการเข้าร่วมนาโตของสวีเดน มีความคืบหน้าขึ้นมา หลังตุรกีในนามประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน (Recep Tayyip Erdogan) ยินยอมให้สตอล์กโฮมเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกใหม่ เมื่อเข้าเจรจาส่วนตัวกับ เย็นส์ สตอลเต็นเบิร์ก (Jens Stoltenberg) เลขาธิการนาโต และอุล์ฟ คริสเตอร์ช็อน (Ulf Kristersson) นายกรัฐมนตรีสวีเดน
ดูเหมือนว่า การเจรจาครั้งนี้มี ‘สิ่งแลกเปลี่ยน’ หลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้น คือเครื่องบิน F-16 จากสหรัฐอเมริกา ตามที่ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยกล่าว หลังการเลือกตั้งตุรกีสิ้นสุดลง แต่กระบวนการนี้ยังไม่ ‘ไฟเขียว’ 100% ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลายอย่างที่อาจส่อแวว ‘ดีลล่ม’ ตอนไหนก็ได้
รวมถึงสถานะอันกำกวมของยูเครนในฐานะพันธมิตรนาโต ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงและไม่การันตีความปลอดภัย แม้ประเทศกลุ่ม G7 จะมอบสิทธิพิเศษเพื่อคุ้มครองคีฟผ่านกรอบการเจรจาทวิภาคี ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการทหาร การเงิน การกระจายข่าวกรอง หรือคำมั่นสัญญาบางอย่าง
แม้ว่าความคืบหน้าในการประชุมครั้งนี้ อาจมีหลายอย่างไม่เป็นใจสำหรับหลายประเทศ โดยเฉพาะยูเครน แต่เมื่อวานนี้ (12 กรกฎาคม 2023) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแสดงท่าทีตอบโต้การประชุมครั้งนี้ ด้วยการประกาศต่อชาวโลกว่า นาโตและชาติตะวันตกจะหวนเข้าสู่ ‘ยุคแห่งสงครามเย็น’ อีกครั้ง
“การประชุมสุดยอดที่วิลนีอุสจะได้รับการตกผลึกอย่างระมัดระวัง ด้วยการคำนึงถึงความท้าทายและภัยคุกคามต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของรัสเซีย เราจะตอบสนองในเวลาเหมาะสมและทันท่วงที โดยใช้วิธีการทุกอย่าง และทุกขั้นตอนในกระบวนการของเรา
“ในการยกระดับครั้งนี้ นาโตสร้างคำสัญญาใหม่เพื่อจัดหาอาวุธพิสัยไกลที่ทันสมัยมากขึ้นให้กับรัฐบาลคีฟ เพื่อยืดเวลาความขัดแย้งให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และสร้างความเหนื่อยล้ายิ่งขึ้น” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ พร้อมเสริมว่า โลกตะวันตกพยายามแบ่งขั้วระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ โดยมุ่งหมายให้รัสเซียเป็นศัตรูของพวกเขา
อีกทั้งยังเน้นย้ำว่า พันธมิตรนาโตไม่สามารถปรับตัวเข้ากับภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ในโลกปัจจุบันได้ ซึ่งสร้างความตึงเครียดทางการเมืองและเพิ่มแนวโน้มการใช้กำลังทางทหาร
การตอบโต้ของรัสเซียครั้งนี้เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไบเดนประณาม วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ผู้นำรัสเซียกลางที่ประชุมว่า กระหายในดินแดนและอำนาจ
“เมื่อปูตินมีความกระหายในดินแดนและอำนาจ ปลดปล่อยสงครามอันโหดร้ายออกมาในยูเครน เขาเดิมพันว่า นาโตจะแตกแยก แต่เขาคิดผิด
“นาโตแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม มีพลังมากกว่าเดิม และใช่ เป็นหนึ่งเดียวกันกว่าอดีตที่ผ่านมา ขณะที่เราแบ่งปันอนาคตสำคัญร่วมกัน” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวปิดการประชุมสุดยอดนาโต
ที่มา: Reuters
นอกจากนั้น ไบเดนยังส่งข้อความโดยตรงถึงประชาชนในลิทัวเนีย เพื่อยกย่องยูเครน และประกาศสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันกับประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
“การปกป้องเสรีภาพไม่ใช่งานเพียงหนึ่งวันหรือหนึ่งปี นี่เป็นงานตลอดทั้งชีวิตของพวกเรา เราเตรียมพร้อมกับการต่อสู้ในวันข้างหน้า ความเป็นหนึ่งเดียวของเราจะไม่สั่นคลอน ผมสัญญากับคุณ
“ตัวเลือกที่เราลงมือทำนั้น เป็นไปเพื่อกำหนดทิศทางของโลกในอีกหลายศตวรรษข้างหน้า เคียงข้างกับประเทศต่างๆ ในการทำงานร่วมกันเพื่อความมั่นหมายเดียวกัน และเราสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้
“สู้ต่อไป! ทำไปต่อไป!” ไบเดนตะโกนปลุกใจ ก่อนฝูงชนจำนวนมากที่ถือธงชาติอเมริกันและยูเครน ตะโกนว่า “สลาวา อูกรายีนี!” (Slava Ukraini) แปลว่าเกียรติแห่งยูเครน ซึ่งเป็นคำสดุดีต่อคีฟ และสัญลักษณ์การต่อต้านการรุกล้ำอธิปไตย
อ้างอิง
https://www.aljazeera.com/news/2023/7/11/why-turkey-changed-its-stance-on-swedens-nato-membership-2
https://www.politico.com/news/2023/07/12/biden-nato-russia-ukraine-00105907
Tags: สหรัฐอเมริกา, ยุโรป, รัสเซีย, สวีเดน, ตุรกี, วลาดีมีร์ ปูติน, มอสโก, ยูเครน, NATO, โจ ไบเดน, โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี, นาโต้, เซเลนสกี, รัสเซีย-ยูเครน, ยุโรปตะวันตก, ยุโรปตะวันออก
