ในพิธีเดินขบวนรำลึก 80 ปี ครบรอบการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (3 กันยายน 2025) นอกจากซีนใหญ่ของ 3 ผู้นำอย่าง สี จิ้นผิง (Xi Jinping), คิม จองอึน (Kim Jong-eun) และวลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) เดินสวนสนามร่วมกัน ที่เผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในระเบียบโลก และการเลือกข้างของมหาอำนาจแล้ว
ล่าสุดยังมีสื่อหยิบยกประเด็นบทสนทนา ในพิธีของ 2 สหาย ‘สี-ปู’ ที่รั่วไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่สร้างความตกใจให้กับคนทั้งโลก เพราะหัวข้อการพูดคุยของผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานนับหลายทศวรรษ เกี่ยวข้องกับ ‘การปลูกถ่ายอวัยวะ’ และ ‘ชีวิตอมตะ’ หลังฟุตเทจจาก CCTV สื่อทางการของจีน เผยให้เห็นผู้นำทั้ง 3 คน ซึ่งเดินที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในพิธี กำลังพูดคุยอย่างออกรส โดยมีล่ามเป็นตัวกลางแปลความหมายให้
สี จิ้นผิง (ล่ามพูดเป็นภาษารัสเซีย): ในอดีตผู้คนมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 70 ปี แต่ตอนนี้ว่ากันว่า 70 ปี คืออายุของเด็กๆ เลยล่ะ
ปูติน (ล่ามพูดเป็นภาษาจีน): อวัยวะมนุษย์เปลี่ยนถ่ายได้เรื่อยๆ ยิ่งคุณอยู่นานเท่าไร คุณก็ยิ่งเด็กลงเท่านั้น จนกระทั่งเป็นอมตะก็ยังได้
สี จิ้นผิง (พูดเป็นภาษาจีน): มีคนทำนายว่า ในทศวรรษนี้ มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ถึง 150 ปีทีเดียว
ตามรายงานของ The Guardian และ BBC ปูตินยืนยันว่า เขาพูดคุยในหัวข้อดังกล่าวกับสี จิ้นผิงจริง เพราะด้วยความก้าวหน้าวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ หรือเทคนิคการปลูกถ่ายอวัยวะ ทำให้มนุษย์หวังใช้ชีวิตยืนยาวกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นผ่านค่าเฉลี่ยอายุขัยของแต่ละประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เป็นที่รู้กันว่า ผู้นำรัสเซียมีความสนใจประเด็นชีวิตอมตะ และวิทยาศาสตร์การยืดอายุเป็นทุนเดิม โดยในปี 2024 เขาได้เริ่มเมกะโปรเจกต์ระดับชาติอย่างโครงการ New Health Preservation Technologies เพื่อหวังต่อสู้กับความแก่ชรา ซึ่งมีการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีต้านการเสื่อมของเซลล์ ระบบประสาท หรือนวัตกรรมอื่นๆ ที่ทำให้มนุษย์มีอายุขัยยาวนาน
นอกจากนี้ มิคาอิล โควัลชุก (Mikhail Kovalchuk) เพื่อนสนิทปูตินเคยให้สัมภาษณ์กับ Meduza สื่อรัสเซียว่า ปูตินเข้าขั้น ‘หมกมุ่น’ กับหัวข้อชีวิตที่เป็นอมตะ ซึ่งโควัลชุกก็ลงทุนในโครงการด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยีการพิมพ์อวัยวะ โดยมี มาริยา ปูตินา (Mariya Putina) ลูกสาวคนโตของผู้นำรัสเซีย เป็นผู้นำการวิจัย ซึ่งได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซียนับหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อันที่จริงหากเป็นบทสนทนาจากคนทั่วไปก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คำพูดดังกล่าวออกมาจากผู้นำที่ถูกตราหน้าว่า เป็นเผด็จการที่ครองเก้าอี้ผู้นำยาวนานทั้ง 2 คน โดยในปี 2018 สี จิ้นผิงยกเลิกระยะเวลาจำกัดในการดำรงตำแหน่ง (Term Limit) ขณะที่ในหน้าการเมืองจีนก็ยังไร้วี่แวว ‘ว่าที่ผู้นำคนต่อไป’ ซึ่งโดยปกติแล้วต้องเป็นที่รับรู้และคาดเดาได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับปูตินที่แก้รัฐธรรมนูญ นั่งเก้าอี้ผู้นำต่อเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 โดยไร้เงาของผู้สืบทอดตำแหน่ง
ปัจจุบันทั้ง 2 คนมีข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยหน่วยข่าวกรองจากกลุ่มประเทศตะวันตกเชื่อว่า ปูตินเป็นโรคมะเร็ง พาร์กินสัน และขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome: RLS) ขณะที่เชื่อกันว่า สาเหตุที่สี จิ้นผิงหายไปจากหน้าสื่อในช่วงที่ผ่านมา เพราะเขาป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมองโป่งพอง
อ้างอิง
https://www.aljazeera.com/news/2025/9/3/putin-and-xi-caught-on-hot-mic-talking-about-living-to-150
https://www.bbc.com/news/articles/cr70rvrd41ko
Tags: สี จิ้นผิง, เกาหลีเหนือ, จีน, รัสเซีย, คิม จอง อึน, ปูติน, การเมืองโลก