วันนี้ (8 กรกฎาคม 2565) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ‘ไทยคู่ฟ้า’ บัญชีเฟซบุ๊กทางการของรัฐบาล ในหัวข้อ ‘แถลงการณ์นายกรัฐมนตรีชู 3 แกนหลัก สร้างอนาคต เดินหน้าประเทศไทย’ โดยระบุตอนหนึ่งว่า เป็นกลยุทธ์ภาพใหญ่ของตนเองในการแก้ปัญหาปากท้องและความยากจนให้หมดไป พร้อมกับระบุว่า ที่ผ่านมา หลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายระยะสั้น ด้วยการแก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้าหรือมีโครงการลดแลกแจกแถม ซึ่งอาจใช้ได้ในยามเฉพาะหน้า แต่โครงการแบบนั้น ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน และไม่ทำให้ใครรวยขึ้นได้

ทั้งนี้ จึงอยากนำเสนอกลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้

แกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน ซึ่งใช้เวลาหลายสิบปี พร้อมกับลงรายละเอียดว่า ตลอดสิบๆ ปีที่ผ่านมา รัฐมักจะวางแผนโครงการที่สวยหรูมากมาย ทั้งการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน และท่าเรือ แต่สุดท้าย แผนโครงการที่สวยหรูเหล่านั้นก็ถูกเก็บขึ้นหิ้งจนฝุ่นเกาะ และไม่เคยทำให้เกิดขึ้นจริง ประชาชนหลายสิบล้านคนยังคงต้องใช้ชีวิตกันต่อไป โดยไม่ได้รับประโยชน์จากการมีโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่งที่ดีกว่า

“ความมุ่งมั่นหลักของผมคือทำอย่างไรให้โครงการนับร้อยๆ เหล่านั้น เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเป็นไปอย่างบูรณาการ เพราะผมรู้ว่าเมื่อโครงการทางรถไฟ โครงการรถไฟความเร็วสูง ถนน ท่าเรือ และสนามบินต่างๆ เกิดขึ้นจริง โครงการเหล่านั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ และนั่นคือเวลาที่เราจะคาดหวังถึงความเจริญรุ่งเรืองอย่างก้าวกระโดดของประเทศเราได้”

แกนที่ 2 คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงต่างๆ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงเชื่อมต่อไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย เพื่อดึงเงินมหาศาลให้ไหลเข้าประเทศไทยผ่านการส่งออก

ทั้งนี้ ได้ขับเคลื่อนและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญของโลก โดยได้ล็อกผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกให้อยู่ในประเทศไทย พร้อมกับยืนยันว่า ผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายรายแสดงเจตนารมณ์ว่าจะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จะได้ข้อสรุปกับผู้ผลิตยานยนต์ นอกจากนี้ รัฐบาลยังพยายามทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ถูกลงสำหรับคนไทย

แกนที่ 3 คือการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้ประชาชนสร้างความมั่งคั่งได้ในเรื่องเกี่ยวกับภาคการธนาคารและวิธีการทำงานของธนาคาร พร้อมกับยกตัวอย่างว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเรามีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนที่ไม่สามารถกู้เงินได้ และบางคนอาจจะไม่เคยมีบัญชีธนาคาร จึงต้องหาทางให้ประชาชน 30 ล้านคนเข้าถึงระบบธนาคาร สามารถขอเงินกู้ และใช้บริการต่างๆ จากธนาคารได้

“ถึงเวลาแล้วครับ ธนาคารจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นคนตัวเล็กๆ และทำมาค้าขายเลี้ยงตัวเองให้มากยิ่งขึ้น คนกลุ่มนี้จะเป็นพลังที่สำคัญมากต่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเราควรต้องส่งเสริมครับ เพื่อระดมพลังสร้างสรรค์มาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ ความร่ำรวยของคนทำมาค้าขายเล็กๆ เจ้าของร้านค้า หรือคนรุ่นใหม่ อยู่ที่สมองและสองมือของเขา อยู่ในหัวใจที่มุ่งมั่นที่จะทำงานหนัก”

นายกรัฐมนตรียังได้ยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป คือการ ‘ดิสรัปชัน’ ของธนาคารดิจิทัลใหม่ๆ ในการใช้เทคโนโลยีปล่อยเงินกู้และประเมินผู้กู้ ทำให้ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม

“ผมรู้ว่ามีหลายๆ ธนาคารกำลังมองและทำเรื่องที่ผมกล่าวอยู่นี้ ผมขอให้ธนาคารเหล่านั้นเดินหน้าให้เร็วขึ้น และขอให้เป็นพลังที่สำคัญมากยิ่งขึ้น สำหรับสิ่งดีๆ ของประเทศ และช่วยยกระดับประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดี ที่เราสมควรจะมี”

พลเอกประยุทธ์ระบุอีกว่า หากทุกแกนเชื่อมถึงกัน ความมั่งคั่งรุ่งเรืองจะเกิดขึ้น อุตสาหกรรมใหญ่ๆ จะเกื้อหนุนไปสู่ผู้ประกอบการรายเล็ก และถ้าธนาคารต่างๆ ช่วยเป็นพลังให้คนทั่วไป ทั้งในระดับรากหญ้าและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ ที่สมควรจะได้รับเงินกู้ ก็แน่นอนว่า ความมั่งคั่งรุ่งเรืองจะตามมา

“ผมขอบคุณทุกท่านที่ใจเย็นกับผม ให้ผมได้เอาแผนโครงการที่ยิ่งใหญ่ผลักดันมาสู่การปฏิบัติจริง ผมไม่ใช่คนที่แสดงออกหรือนำเสนออะไรได้เก่งนัก แต่ผมรู้ว่าผมจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้นจริงได้ บางครั้ง ผมอาจจะพูดอะไรที่ฟังดูตลก แต่ขอให้ทุกท่านรู้ว่าผมบริสุทธิ์ใจ และหัวใจของผมอยู่กับประชาชนทุกคน และอยู่กับประเทศไทยครับ

“เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้เชิญชวนทุกท่านให้ร่วมมือกันต่อสู้กับภัยร้ายสำคัญของประเทศ นั่นคือโควิด-19 ซึ่งทุกคนได้ตอบรับและร่วมมือกันอย่างดี จนเราประสบความสำเร็จได้ ไม่เพียงแค่ต่อสู้กับโควิดได้สำเร็จ แต่ประเทศไทยได้โชว์ให้ทั้งโลกเห็นว่า เราเป็นประเทศที่จัดการกับโควิดได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

“วันนี้ ผมขอเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมมือกันด้วยสปิริตแบบเดิมนั้นอีกครั้ง ร่วมแรงร่วมใจกันทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ช่วยกันต่อสู้กับโรคระบาดความยากจน และช่วยกันสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแรง ประชาชนทุกคนทุ่มเทความรู้ ความมุ่งมั่น การทำงานหนัก พลังสร้างสรรค์ จิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นคนไทย ส่วนผมจะขับเคลื่อนรัฐบาล ให้ทำโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดให้สำเร็จ ช่วยทำภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้แข็งแรง และช่วยภาคการธนาคารให้ทำงานอย่างสอดคล้องและตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ ผมเชื่อว่าเราทำได้ครับ และเราจะได้เห็นการผลิดอกออกผล ในเวลาไม่เกิน 2 ปีข้างหน้าลงมือครับ เชื่อมไทยเดินหน้า”

Tags: , ,