คดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ พบพิรุธ หลังสอบเจอเพื่อน ‘ประวิตร’ ที่เสียชีวิต ไม่มีนาฬิกาหรูแม้แต่เรือนเดียว

วันนี้ (5 กันยายน 2565) ที่รัฐสภา ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีนาฬิกาหรูของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือคดีนาฬิกาเพื่อนว่า ได้อภิปรายพลเอกประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ไว้เมื่อตอนการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา และเป็นการอภิปรายที่ถูกประท้วงมากที่สุดถึง 24 ครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการไปแตะต้องพลเอกประวิตรนั้นไม่ง่าย เพราะพลเอกประวิตรเป็นรัฐมนตรีที่ทรงอำนาจและมีบารมีมากที่สุดในรัฐบาลชุดนี้ โดยมีบารมีมากกว่าตำแหน่งที่ดำรงอยู่ จนทุกหน่วยงานในประเทศ ไม่ว่ากระทรวงหรือองค์กรอิสระ ไม่กล้าขัดใจพลเอกประวิตร

ธีรัจชัยยืนยันว่า ทั้งปี 2551 ปี 2554 ปี 2555 และปี 2557 นั้น พลเอกประวิตรไม่เคยยืนยันว่ามีนาฬิกาหรูเป็นของตัวเอง แต่กลับพบว่ามีนาฬิกาหรูกว่า 20 เรือนใส่ไปที่ต่างๆ โดยเฉพาะช่วงปี 2560 มีมากเป็นพิเศษ จึงมีการตั้งคำถามว่านาฬิกาหรูมาจากไหน ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งกรรมการสอบ และมีการแก้ข้อกล่าวหาว่าเป็นนาฬิกาของเพื่อน ชื่อ ‘ปัฐวาท สุขศรีวงศ์’ ทว่ากลับไม่เคยเห็นภาพของปัฐวาทใส่นาฬิกาหรูสักเรือนเดียวใน 20 เรือนที่ปรากฏเป็นข่าว โดยในที่สุดผลสอบของ ป.ป.ช. เชื่อว่าเป็นนาฬิกายืมเพื่อนมา จึงมีมติ 5 ต่อ 3 ให้ยุติเรื่องนี้ ทำให้เป็นสิ่งที่คาใจประชาชน

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการ ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้วว่า ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งให้ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ในฐานะทายาท เป็นผู้จัดการมรดกของ ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ นักธุรกิจ เพื่อนสนิทของพลเอกประวิตร ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2561 โดยก่อนหน้านี้ พลเอกประวิตรระบุว่าได้ยืมนาฬิกามาจากปัฐวาท อย่างไรก็ตาม เมื่อกรรมาธิการได้เอกสารมา กลับไม่ปรากฏว่ามีนาฬิกาหรูอยู่สักเรือนเดียว แสดงว่าสิ่งที่ตนตั้งข้อสันนิษฐานตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นเป็นจริง และ ป.ป.ช. เองก็ไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ โดยรีบสรุปเรื่องจนมีมติ 5 ต่อ 3 ยุติเรื่องดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 54 บัญญัติว่าให้กรรมาธิการ ป.ป.ช. รับหรือยกเรื่อง กรณีที่ ป.ป.ช. วินิจฉัยเด็ดขาดแล้ว เว้นแต่มีพยายานหลักฐานใหม่ สำหรับเรื่องนี้เข้าใจว่า กรรมาธิการ ป.ป.ช. ทั้ง 3 เสียงอยากให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้สิ้นกระแสความ จึงขอให้ 1 ใน 3 เสียงเสนอเพื่อนำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพราะมีหลักฐานใหม่และ 3 คนนี้ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดี รวมทั้งขอให้กรรมาธิการ ป.ป.ช. อีก 5 คน ช่วยตรวจสอบด้วย และขอความร่วมมือให้สำนักงานอัยการสูงสุดทำเรื่องไปบริษัทแม่ว่า นาฬิกาหรูดังกล่าวเป็นของใครกันแน่ รวมทั้งขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบซีเรียลนัมเบอร์ที่มีการเปิดเผย เพื่อดำเนินการคู่ขนานกันไป โดยในวันที่ 7 กันยายนนี้ กรรมาธิการ ป.ป.ช. จะเชิญหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรมาให้ข้อมูลในฐานะผู้จัดการมรดก

สำหรับหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร พลเอกประวิตร และปัฐวาท มีความสนิทสนมกันในฐานะเพื่อนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล หรือ ‘เซนต์คาเบรียลคอนเนกชัน’ ซึ่งมีข่าวว่า คอนเนกชันดังกล่าวทำให้หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชุดแรก หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แต่หลังจากนั้น หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรมีความขัดแย้งกับพลเอกประยุทธ์ ทำให้ต้อง ‘ยกทีม’ ถอนตัวจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ในเวลาต่อมา และกลายเป็น สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามารับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจแทน