วันนี้ (29 พฤษภาคม 2568) พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ตอบโต้ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ลุกขึ้นชี้แจงกรณีพิเชษฐ์พาดพิงก่อนหน้า กรณีตรวจสอบงบสภาฯ เมื่อคืนวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยพิเชษฐ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ในส่วนของอาคารรัฐสภา ต้องขอบคุณ ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ที่กล้าหาญตั้งงบก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ จนฝ่ายนิติบัญญัติมีที่อยู่อาศัยจนทุกวันนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องขอบคุณ ชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา ที่กล้าหาญใช้สถานที่แห่งนี้โดยไม่ได้รับการส่งมอบ และก็ต้องขอบคุณ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาคนปัจจุบันที่กล้าหาญซ่อมแซมและปรับปรุงสิ่งที่ขาดไป

สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างรัฐสภาหลังนี้ พิเชษฐ์ระบุว่า จริงๆ แล้ว 2 หมื่นกว่าล้านบาท จึงขอตัดงบที่มีอยู่ก่อน แล้วค่อยตั้งเพิ่มให้ครบตามแผนแม่บท แบบแปลน ต้นแบบที่ออก กว่าจะบรรจุมา ยากลำบาก บางโครงการจะพัฒนาก็ไม่ได้สักครั้ง ทั้งนี้ตนเองในฐานะผู้บริหารรัฐสภา ยืนยันว่าพร้อมปกป้องรัฐสภาเต็มที่ ขณะเดียวกันขอตั้งคำถามไปยังพริษฐ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองว่า เพราะเหตุใดถึงมาตรวจสอบงบประมาณสภาฯ ทั้งที่มีกรรมาธิการติดตามงบประมาณ กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามทุจริตอยู่แล้ว

“ท่านเชิญเจ้าหน้าที่สภาฯ ไปชี้แจงงบสภาฯ ท่านเชิญเขาไป เขาเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ ท่านไลฟ์ แล้วท่านก็ไปต้อนเจ้าหน้าที่ให้ตอบให้ได้ แล้วท่านก็เป็นพระเอก ท่านเป็นวีรบุรุษในโซเชียลฯ แล้วท่านก็ตัดต่อ ตัดตอน เอาไปลงใน TikTok ใน Youtube เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ เสียหายขนาดไหน

“กรรมาธิการ 35 คณะ ไม่มีคณะไหนที่ไลฟ์ทุกนัด การไลฟ์ประชุมต้องขออนุญาต และต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ด้วย ถ้ากรรมาธิการจะเผยแพร่ข้อมูลได้ ต้องรับรองการประชุมอยู่ ท่านรับผิดชอบได้ไหม ความเสียหาย ทัวร์ลงเจ้าหน้าที่สภาฯ แทบจะแทรกแผ่นดินหนี ถ้าเอาไปถ่ายทอด ตัดคลิปให้เต็มๆ ก็ว่าไป”

รองประธานสภาผู้แทนราษฎรยังชี้แจงเรื่องฉากหลังบัลลังก์ว่า ขณะนี้เป็นปูนเปลือย มีเส้นขีดเต็มไปหมด หากไม่แก้ไขตอนนี้ จะรอรุ่นลูกรุ่นหลานอีกร้อยปีหรือ ทั้งหมดเป็นศักดิ์ศรีของสภาฯ ที่ต้องทำให้ดี ทำให้เป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติของประเทศ รวมถึงเรื่องที่จอดรถ ที่วันนี้ที่จอดรถไม่พอ รถจอดเต็มวัดแก้วฟ้าฯ ห้างสุพรีมจนไม่มีที่จอดรถ เช่นเดียวกับเรื่องห้องฉายวีดิทัศน์ 4D ก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะอาคารรัฐสภาเก่าที่ถนนอู่ทองในก็เคยมีห้องฉายภาพยนตร์ ที่บอกเล่าเรื่องประชาธิปไตย เรื่องความเป็นมา

“งบ 3 ล้านล้านบาท ฝ่ายนิติบัญญัติได้มาเพียง 8,000 ล้านบาท อยากให้เข้าใจว่า กว่าเราจะต่อสู้มาเราได้เท่านี้ อันไหนที่ชำรุดทรุดโทรม ถ้าเราไม่บำรุงรักษา เราก็ต้องตั้งงบเพื่อดูแลสภาฯ”

ขณะที่พริษฐ์ชี้แจงว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง มีหน้าที่ในการตรวจสอบการของบประมาณที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการเมือง ทั้งสภาผู้แทนราษฎร ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพราะพันธกิจหลักคือ การพัฒนาการเมือง ทั้งนี้การถ่ายทอดสดทุกครั้งมีแนวปฏิบัติ และมีการหารือก่อนทุกครั้งว่า ถ้าไม่มีข้อมูลละเอียดอ่อนก็จะถ่ายทอดสด ซึ่งในภายหลังมีการเปลี่ยนนโยบายและได้ปฏิบัติตามแล้ว

พริษฐ์ยังยืนยันว่า ไม่เคยมีการตัดคลิปสั้นไปลงโซเชียลมีเดีย และข้อดีของการไลฟ์คือสามารถดูคลิปเต็มได้ ส่วนที่มีการเชิญเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมานั้น ได้พยายามเชิญประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแล้ว ปรากฏว่ารองประธานสภาฯ นั้นอยู่ต่างประเทศ จึงได้ให้เลขาธิการสภาฯ มาแทน ซึ่งตนเองก็พูดในที่ประชุมว่า เจ้าหน้าที่น่าจะไม่ได้เชื่อตามที่ชี้แจง

ส่วนปัญหาเรื่องที่จอดรถ พริษฐ์กล่าวว่า ปัญหามีตั้งแต่แบบดั้งเดิมซึ่งที่จอดรถต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คำถามสำคัญคือหากต้องเพิ่มให้ถึงเกณฑ์ ทำไมจึงต้องควักภาษีประชาชนมาจ่ายเพื่อสร้างที่จอดรถเพิ่ม

ด้านพิเชษฐ์ชี้แจงเรื่องที่จอดรถอีกครั้งว่า ตามแบบเต็ม ที่จอดรถจะมีครบตามจำนวน ทว่าถูกตัดงบประมาณ เลยทำให้ที่จอดรถมีน้อยกว่าเกณฑ์ ขณะเดียวกันในเรื่องงบประมาณปรับปรุง ‘ศาลาแก้ว’ นั้น ก็ต้องปรับปรุง เพราะจะมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างศาลาแก้ว 2 หลัง ฉะนั้นจะปล่อยให้ศาลาแก้วอยู่ในสภาพที่ไม้ผุพังไม่ได้ และต้องทำให้เสร็จภายในต้นปี 2569 ซึ่งจะต้องเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์แล้ว