วันนี้ (29 กันยายน 2568) ที่อาคารรัฐสภา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายของรัฐบาล โดยระบุว่า การเข้ามาบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรีซึ่งมี อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง และใช้เวลา 4 เดือนในการหาเสียง เพื่อสืบทอดอำนาจต่อไปอีก 4 ปี
นายแพทย์ชลน่านระบุว่า สส.จำนวน 26 คนของพรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านอิสระ จะใช้เวลาอภิปราย 6 ชั่วโมง โดยมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
-
นโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภามีความเหมาะสมและสามารถทำได้จริงหรือไม่ ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลา 4 เดือน และจะใช้งบประมาณจากส่วนใด
-
คณะรัฐมนตรีมีความไม่เหมาะสมและมีคุณสมบัติต้องห้ามอย่างไร
-
การดำเนินงานของรัฐบาลชุดนี้จะทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสในด้านใดบ้าง
สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อไปว่า ในระยะเวลา 4 เดือนที่รัฐบาลทำสัญญา MOA ร่วมกับพรรคประชาชนว่าจะยุบสภาฯ แก้รัฐธรรมนูญ และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น แท้จริงแล้วจะเป็นการใช้เวลาเพื่อ ‘ยุบคดี’ ซึ่งอาจนำไปสู่ ‘4 หายนะ’ ของประเทศไทย โดยหายนะแรกคือ หายนะทางประชาธิปไตย เนื่องจากระบบการเลือกตั้งจะบิดเบี้ยว มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิและอำนาจในการตัดสินใจอย่างแท้จริ
หายนะที่ 2 นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า เป็นเรื่องความโปร่งใสและหลักนิติธรรม โดยชี้ว่า กลไกการเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ถูก ‘ผูกขาด’ ไว้ให้เฉพาะกลุ่มพวกพ้องเดียวกัน ซึ่งแม้ว่ากลไกดังกล่าวจะสามารถทำได้ แต่หากกระบวนการขาดความโปร่งใส ความยุติธรรม และมุ่งเพียงเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ได้ครองอำนาจต่ออีก 4 ปี ในขณะที่รัฐมนตรีบางคนยังมีคดีติดตัวก็ย่อมถือเป็นหายนะ
หายนะที่ 3 คือความสามารถในการแข่งขันและการบริหารประเทศ ซึ่งนอกจากการจับตาว่า รัฐบาลจะบริหารประเทศได้ดีหรือไม่แล้ว ยังต้องพิจารณาด้วยว่า นโยบายต่างๆ ที่แถลงมา ทำเพื่อประโยชน์ของใคร เช่น การแก้ปัญหายาเสพติด ภัยพิบัติ แลนด์บริดจ์ และพลังงานไฟฟ้าชุมชน โดยนายแพทย์ชลน่านตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงมาเร่งรัดทำในขณะนี้ แทนที่จะดำเนินการตั้งแต่สมัยที่พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
“หายนะทางโอกาสของประชาชนคือ นโยบายดีๆ ที่ท่านปัดตกทิ้งหมด ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่แน่ใจ เพราะมันเป็นประโยชน์กับคนโดยรวม ทั้งพี่น้องกรุงเทพฯ และคนที่เข้ามา 12-13 ล้านคนต่อวัน แต่ท่านกลับไม่สน ยกเลิกไปใช้อันเก่า นี่ชัดๆ เลยว่าท่านจะทำลายโอกาสของพี่น้องประชาชน
“ท่านอาจจะใช้นโยบายอื่นมากลบเกลื่อน เช่น ลดค่าใช้จ่าย ลดค่าไฟ หรือลดอะไรต่างๆ แต่นี่คือสิ่งที่ท่านต้องยอมรับว่า มันคือนโยบายของพรรคเพื่อไทย ท่านไม่ทำ เพราะถ้าทำพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนน แต่พรรคท่านไม่ได้ แม้แต่พรรคที่มี สส.ในกรุงเทพฯ มากที่สุดยังอ้าปากค้างว่า ทำไมไม่เห็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชน” นายแพทย์ชลน่านกล่าว
สส.พรรคเพื่อไทยชี้ว่า แม้พรรคประชาชนทำสัญญา MOA ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อแก้ไขระบบการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย แต่การขึ้นสู่อำนาจของรัฐบาลที่นำโดยอนุทิน ไม่ว่าจะในระยะ 4 เดือนจากนี้ หรือยาวไปถึง 4 ปีข้างหน้า จะนำไปสู่การ ‘กัดกร่อน’ ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอย่างรุนแรง ท่ามกลางข้อสงสัยว่า อาจเกิดการ ‘ฮั้ว’ กันทางการเมือง ซึ่งจะทำให้ประชาชนสูญเสียอำนาจ และทำให้ ‘เงิน’ กลายเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการเลือกตั้งครั้งถัดไป
“รัฐบาลที่มาจากเฉพาะกลุ่มที่หลายคนขนานนาม ซึ่งผมต้องขออนุญาต อาจเป็นคำที่ไม่เหมาะสมนัก ‘รัฐบาลอนุวิน’ ผมไม่รู้เขาเอามาจากอะไรนะครับ ‘รัฐบาลเนทิน’ หรือ ‘รัฐบาลหนูเน’ อะไรพวกนี้ นั่นหมายความว่า ความเป็นรัฐมนตรี ความเป็นนายกฯ ของท่าน ไม่ได้ใช้กลไกบริหารที่แท้จริง เป็นอย่างไรคงต้องให้เพื่อนสมาชิกของผมได้อภิปรายในรายละเอียดต่อไป
“4 เดือนนี้คือการทำเพื่อการเลือกตั้งให้ได้คะแนนสูงสุด หลายนโยบายที่ทำจะขยายให้เห็นว่า ทำไมต้องทำประชามติเรื่อง MOU 43 และ MOU 44 เป็นเหมือนกำปั้นทุบดิน ถ้าทำตอนเลือกตั้ง คะแนนของท่านก็จะถล่มทลาย ฉลาดมาก เยี่ยม สุดยอด แต่ 4 เดือนที่ท่านทำ ท่านจะได้อีก 4 ปี และบทสรุปของผมคือ ท่านจะกินรวบประเทศไทย พวกเราจะยอมหรือครับ อำนาจสภาผู้แทนราษฎรเป็นของสีน้ำเงิน อำนาจวุฒิสภาเป็นสีน้ำเงิน องค์กรอิสระเป็นสีน้ำเงิน และราชการก็เป็นสีน้ำเงิน ทั้งประเทศจะเป็นสีน้ำเงินทั้งหมด
“สีน้ำเงินเป็นสีอันประเสริฐ แต่กลับถูกนำลงมาคลุกกับการเมือง ซึ่งหมายถึงเราไม่เคารพสีน้ำเงิน ผมเองทนไม่ได้ เราเป็นประชาชนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งทรงอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันฯ การนำเอาสีน้ำเงินลงมาข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่บังควร เป็นเรื่องที่พวกเราและพี่น้องประชาชนคนไทย 67 ล้านคนไม่สบายใจ และถ้าเราไม่ช่วยกันระมัดระวัง การกินรวบประเทศจะเกิดขึ้น การลงทุนของพรรคประชาชนก็จะสูญเปล่า เราต้องมาเฝ้าดูกัน” นายแพทย์ชลน่านระบุ
Tags: พรรคเพื่อไทย, ชลน่าน ศรีแก้ว, แถลงนโยบาย