วันนี้ (12 ธันวาคม 2567) ที่อาคารรัฐสภา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงถึงเวทีแถลงผลงานรัฐบาล 90 วันที่ผ่านมา โดยระบุว่า สิ่งที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงไปนั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่ ‘ผลงาน’ แต่เป็น ‘การฝากงาน’ เสียส่วนใหญ่ อีกทั้งหลายมาตรการที่จะดำเนินการในปี 2568 กลับไม่ลงรายละเอียดเท่าที่ควร

ศิริกัญญาเริ่มแถลงต่อสื่อมวลชน โดยฉายภาพให้เห็นปัญหาของการแถลงผลงานรัฐบาล 2 ประเด็น ดังนี้

  1. รัฐบาลไม่ได้ทำงานมาเพียง 90 วันเท่านั้น แต่การบริหารราชการแผ่นดินล่วงเลยมาแล้วกว่า 1 ปี 4 เดือน ตั้งแต่สมัยที่ เศรษฐา ทวีสิน ยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นงานวันนี้ควรจะเป็นการสรุปผลงานที่ผ่านมากว่า 1 ปี 4 เดือนของรัฐบาล
  2. งานวันนี้ส่วนใหญ่เป็นการฝากงานไปยังรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเสียมากกว่า ไม่ใช่การสรุปผลงานที่ผ่านมาว่า ได้ดำเนินการนโยบายตามที่หาเสียงไว้สำเร็จหรือไม่

“สิ่งที่นายกฯ พูดวันนี้ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก เหมือนเป็นการแถลงนโยบายครั้งที่ 2 พูดเพียงแค่หัวข้อ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด อีกทั้งบางเรื่องยังคิดไม่ครบระบบ ปัญหาเปรียบเสมือนภูเขา แต่วิธีการแก้เล็กเท่าขนนก” ศิริกัญญากล่าว

รองหัวหน้าพรรคประชาชนยกตัวอย่างถึงความไม่ชัดเจน กรณีของการหารายได้ให้กับประเทศใหม่ อย่างการนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินว่า รายละเอียดเป็นเช่นไร อีกทั้งรัฐบาลไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องอาชญกรรมทางไซเบอร์ รวมถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกด้วย

อย่างไรก็ตามในมุมมองของศิริกัญญามองว่า ‘ผลงาน’ ของรัฐบาลที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างการ ‘ลด PM2.5’ ที่มีการตั้งเป้าหมายไว้ในทุกภาคของประเทศกลับหลุดเป้าทั้งหมด เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตั้งเป้าการลดไว้ที่ 20% แต่กลับลดปริมาณได้จริงเพียง 12% เท่านั้น

ขณะที่ณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากเห็นจากการแถลงผลงานวันนี้ของรัฐบาลคือ การทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ประเทศจะพร้อมกับความท้าทายและบริบทใหม่ของโลกที่จะเปลี่ยนแปลงในปี 2568 เช่น

  1. การปฏิรูประบบราชการ สิ่งที่นายกฯ พูดถึงคือ เศรษฐกิจดิจิทัล แต่กลับไม่พูดถึง ‘การต้านคอร์รัปชัน’ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า อีกทั้งการใช้เทคโลยีดิจิทัล รวมถึงรัฐบาลดิจิทัลจะช่วยแก้ไขปัญหาได้
  2. การกระจายอำนาจที่มีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องน้ำท่วม-น้ำแล้ง หรือฝุ่น PM2.5 แต่รัฐบาลกลับพูดถึงการกระจายอำนาจด้วยโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) เพียงเท่านั้น แต่การกระจายอำนาจท้องถิ่นอย่างจริงจังคือ การกระจายอำนาจ การบริหารงาน งบประมาณ และบุคลากร
  3. การแก้ไขปัญหายาเสพติด วันนี้กลับได้ยินเพียงแค่ว่า รัฐบาลจะทำแพลตฟอร์มร้องเรียนมาที่นายกฯ โดยตรง แต่ปัญหายาเสพติดของประเทศที่ใหญ่กว่านั้นคือ รัฐบาลจะไม่สามารถแก้ไขยาเสพติดได้ หากไม่พูดถึงปัญหาชายแดนหรือความขัดแย้งในประเทศเพื่อนบ้าน
  4. การลงทุนอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างเป้าหมายการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง AI หรือ AI Hub พรรคประชาชนมีความกังวลว่า ประเทศไทยจะเป็น AI Hub ในเชิงของผู้ใช้งาน (User) มากกว่าผู้ผลิต (Producer)

“นายกฯ ยังพูดถึงความสำคัญคือ เรื่องของข้อมูล แต่กลับไม่มีการพูดถึงการวางโครงสร้างพื้นฐานทางข้อมูลที่สำคัญให้กับประเทศ ทั้งการผ่านร่างกฎหมายที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างรัฐกับเอกชนให้ใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจข้อมูล” ณัฐพงษ์กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาชนยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริบทประเทศไทย ณ วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้านการต่างประเทศว่า จะมีจุดยืนอย่างไรในวันที่สงครามการค้าโลกกำลังจะกลับมา ซึ่งไทยจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะสหรัฐอเมริกาอาจมีการตั้งกำแพงภาษีกับประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในนั้น

“ผมอยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่มองบริบทประเทศตัวเองว่า ไม่ใช่ประเทศเล็กๆ แบบที่นายกฯ เศรษฐาเคยพูดไว้ แต่เราคือ Middle Power ที่มีอำนาจต่อรอง ผมอยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่แสดงบทบาทผู้นำอาเซียนเจรจาความร่วมมือในภูมิภาคว่า เราจะสร้างอำนาจต่อรองในสงครามการค้าโลกอย่างไร และเราจะวางยุทธศาสตร์อย่างไรให้อาเซียนได้ประโยชน์ร่วมกัน 

“เราคิดว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลยังไม่ผ่านเกณฑ์ เป็นการฝากงานที่นายกฯ พูดไม่ครบ คิดไม่จบ” หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าว

ทั้งนี้ณัฐพงษ์เรียกร้องไปยังรัฐบาลต่อว่า ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติในการเข้ามาตอบกระทู้สดของนายกฯ รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบรายละเอียดของมาตรการที่จะดำเนินการ พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาลพิจารณาผ่านร่างกฎหมายต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งการทลายทุนผูกขาด การปฏิรูประบบงบประมาณ การแก้ไขปัญหาด้านการศึกษา หรือการสร้างอุตสาหกรรมในอนาคต

“ทุกเรื่องที่กล่าวมา พรรคประชาชนได้ยื่นร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วกว่า 80 ฉบับ เราอยากทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเชิงรุก อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อะไรที่เป็นนโยบายที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล เราพร้อมให้การสนับสนุน” ณัฐพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

Tags: , , , , ,