วันที่ 8 พฤษภาคม 2023 ศาลสูงสุดของเม็กซิโกคว่ำเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายปฏิรูปเลือกตั้งด้วยเหตุผล ‘ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งประเทศ’ ที่เสนอโดยประธานาธิบดี อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ (Andrés Manuel López Obrador)
กฎหมายปฏิรูปการเลือกตั้งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ ‘แผน B’ (Plan B) มีเนื้อหาหลักคือการลดค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง ขององค์กรการเลือกตั้งแห่งชาติ (National Electoral Institute: INE) ซึ่งมีศักดิ์เทียบเท่า ‘คณะกรรมการการเลือกตั้ง’ (กกต.) แห่งประเทศไทย
ผลการตัดสินของศาลปรากฏว่า ผู้พิพากษา 9 ใน 11 คน ตัดสินให้ส่วนแรกของแผน B หรือส่วนปฏิรูปความรับผิดชอบด้านการบริหาร และการสื่อสารทางการเมืองขององค์กรการเลือกตั้ง INE เป็นโมฆะ โดยให้เหตุผลว่า สภาคองเกรสแห่งเม็กซิโกมีกระบวนการพิจารณากฎหมายที่ไม่โปร่งใส หลังจากพยายามผลักดันโดยปราศจากเวลาที่เพียงพอในการถกเถียงหรือพิจารณา
“พระราชกฤษฎีกาจะละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก ความโปร่งใส การเข้าถึงข้อมูลสาธารณะ และความรับผิดชอบ
“ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไม่ได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับพลเมือง ต่อการมีส่วนร่วมเพื่ออภิปรายกฎระเบียบการสื่อสารต่อสังคม ซึ่งมีผลกระทบต่อกระบวนการเลือกตั้ง” ผู้พิพากษา อัลเแบร์โต เปเรซ ดายัน (Alberto Pérez Dayán) เป็นผู้เริ่มเสนอความเห็นในการพิจารณา
“ไม่มีการพิจารณาตามระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจัง” หลุยส์ มาเรีย อากีล่าร์ โมราเลส (Luis María Aguilar Morales) หนึ่งในผู้พิพากษาของศาลให้เหตุผลว่า การพิจารณากฎหมายต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของประเทศ คือต้องมีการถกเถียงในสภานิติบัญญัติ
“มีเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ” ฮอร์เก มาริโอ ปาร์โด รีโบเญโด (Jorge Mario Pardo Rebolledo) ผู้พิพากษาอีกคนเสริมความเห็นข้างต้น ในช่วงที่สภาคองเกรสเสนอร่างและลงคะแนนเสียงในเดือนธันวาคม 2022
ขณะที่ผู้พิพากษา 2 คน ผู้ลงคะแนนเสียงเห็นด้วยกับกฎหมายปฏิรูปการเลือกตั้ง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความลำเอียงที่มีต่อรัฐบาล ซึ่งหนึ่งในผู้พิพากษาดังกล่าว มีข้อครหาการลอกเลียนวิทยานิพนธ์ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาเอก แต่ยังไม่พ้นจากตำแหน่ง
สำหรับกฎหมายปฏิรูปเลือกตั้งส่วนที่เหลือ ศาลสูงสุดจะมีกำหนดทบทวนส่วนที่สองในภายหลัง โดยพิจารณาเนื้อหาการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ พนักงาน และอำนาจของ INE
ในขณะเดียวกัน INE มีท่าทีตอบโต้ด้วยการยื่นฟ้องทางกฎหมาย โดยศาลอ้างถึง “ความเป็นไปได้ที่จะละเมิดสิทธิทางการเมืองและการเลือกตั้งของประชาชน” ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวของ INE
เบื้องต้น คำตัดสินของศาลจะส่งผลกระทบต่อแผนงานของโลเปซ หลังเขาวิจารณ์การใช้จ่ายสิ้นเปลืองของ INE และหน่วยงานการเลือกตั้งอื่นๆ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีผู้นี้ยังมี ‘แผน C’ (Plan C) สำหรับการปฏิรูปการเลือกตั้งที่อาจกระทบต่อผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งโดยตรง ซึ่งเขาได้ประกาศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เนื้อหาของกฎหมายปฏิรูปเลือกตั้งแผน B เป็นอย่างไร?
เนื้อความกฎหมายปฏิรูปเลือกตั้งไม่เพียงแต่ลดอำนาจของ INE แต่ยังรวมไปถึงการลดจำนวนข้าราชการ การปิดสำนักงานบางส่วน การตัดเงินเดือนกับเงินทุนสำหรับหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นอื่นๆ ลดจำนวนการฝึกอบรมสำหรับพลเมืองที่ดำเนินการและดูแลหน่วยเลือกตั้ง นอกจากนี้แผน B ยังลดการลงโทษผู้สมัครที่ไม่รายงานค่าใช้จ่ายในการหาเสียงอีกด้วย
ทำไมโลเปซอยากปฏิรูปการเลือกตั้งของเม็กซิโก?
เบื้องหลังการปฏิรูปการเลือกตั้งของเม็กซิโก เกิดจากประธานาธิบดีโลเปซ คิดว่าเขาตกเป็น ‘เหยื่อการโกงเลือกตั้ง’ หลายครั้ง หลังจากเขาใช้เวลาหลายทศวรรษต่อสู้กับการเลือกตั้ง นับตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งพ่ายแพ้ด้วยคะแนน 0.65% จนทำให้เกิดการประท้วงโดยผู้สนับสนุนโลเปซ รวมถึงปี 2012 ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน
การต่อต้านนี้ยังดำเนินไปถึงปี 2018 แม้เขาชนะการเลือกตั้งอย่าง ‘ถล่มทลาย’ และ INE เป็นผู้ยืนยันชัยชนะในครั้งนี้เองก็ตาม
ประธานาธิบดีผู้นี้มักวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานเลือกตั้งว่า ประชาชนต้องจ่ายภาษีราคาแพงและเงินเดือนข้าราชการสูงเกินไป อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษเกินความจำเป็น
ซึ่งอันที่จริง เรื่องราวเหล่านี้มีเหตุผล การเลือกตั้งของเม็กซิโกมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะเงินสนับสนุนเกือบทั้งหมดในการหาเสียงของพรรคการเมือง มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลตามกฎหมาย
การเลือกตั้งของเม็กซิโกมีค่าใช้จ่ายราคาแพงที่สมเหตุสมผลตามมาตรฐานสากล เพราะ INE ได้สร้างระบบความปลอดภัยอย่างแน่นหนาให้กับบัตรประจำตัวของผู้คนลงคะแนนเสียงในรูปแบบการระบุตัวตน และเป็นที่ยอมรับในเม็กซิโก นอกจากนี้ยังมีการดูแลพื้นที่ลงคะแนนเสียงอันห่างไกลและพื้นที่อันตรายของประเทศระหว่างการเลือกตั้งเป็นอย่างดี
นอกเหนือจากนั้น โลเปซมักโจมตีศาลสูงสุดของเม็กซิโก โดยอ้างว่า ผู้พิพากษาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มอนุรักษนิยมที่ต่อต้านรัฐบาลของเขา ในทางกลับกัน เขากลับกำหนดบทบาทกลุ่มทหารในการทำหน้าที่สำคัญอยู่บ่อยครั้ง เช่น ข้อโต้แย้งการปฏิรูปกองทัพให้อยู่ภายใต้กระทรวงกลาโหมแทนการนำของพลเรือนตามที่รัฐธรรมนูญระบุ จนถูกตั้งคำถามถึงความเคารพในระบอบประชาธิปไตยของชาติ
ความคิดเห็นของประชาชนและนักวิชาการต่อการปฏิรูปเลือกตั้ง
แม้โลเปซยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงหน่วยงานเลือกตั้งไม่ทำให้ประชาธิปไตยในเม็กซิโกเสื่อมลง และพูดติดตลกว่า “ตอนนี้เม็กซิโกยังเป็นประชาธิปไตยมากกว่าสหรัฐฯ อีก” อย่างไรก็ตาม ประชาชนมองว่า สถาบันการเลือกตั้งนี้เป็นเสาหลักระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ของประเทศตั้งแต่ปี 2006
ผู้คนจำนวนมากจึงคัดค้านแผนการปฏิรูปการเลือกตั้ง นับตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอกฎหมายเมื่อปลายปี 2022 และเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประชาชนราวหมื่นคนรวมตัวกันที่ถนนสายหลักของเมืองหลวงเม็กซิโก โดยสวมเสื้อสีชมพูและสีขาว ซึ่งเป็นสีประจำองค์กรของ INE พร้อมทั้งชูป้ายคำขวัญว่า “อย่าแตะต้องคะแนนเสียงของฉัน”
ด้านพรรคฝ่ายค้านและภาคประชาสังคมก็มีข้อเรียกร้องเช่นเดียวกัน โดยมองว่า กฎหมายปฏิรูปการเลือกตั้งจะทำลาย INE ที่น่าเชื่อถือและล้ำค่าสำหรับพวกเขา การเดินขบวนในครั้งนี้กลายเป็นหนึ่งในการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 ภายใต้การบริหารงานของโลเปซ
อีกทั้ง ชาวเม็กซิกันบางส่วนยังมีความเห็นว่า โลเปซกำลังหยิบยกวาทกรรมที่คล้ายคลึงกับ อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่งสหรัฐอเมริกา และอดีตประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนารู (Jair Bolsonaro) ที่ใช้ก่อนการเลือกตั้งในประเทศเหล่านั้น เพื่อมีเป้าหมายบั่นทอนความเชื่อมั่น แม้ว่าข้อเท็จจริงของเม็กซิโกนั้นแตกต่าง เนื่องจากโลเปซไม่สามารถลงเลือกตั้งได้อีกแล้วในสมัยหน้า เพราะข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง 6 สมัย และพรรคการเมืองของเขา ‘โมเรนา’ (Morena Party) ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างดีก็ตาม
นักวิเคราะห์บางส่วนเห็นตรงกับประชาชนส่วนใหญ่ โดยมีความกังวลว่า การปฏิรูปการเลือกตั้งที่จำกัดอำนาจของ INE จะหมายถึงการรวมอำนาจไว้ที่รัฐบาลกลางมากเกินไปและนำไปสู่การบั่นทอนประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เฟเดริโก เอสเตเบซ (Federico Estevez) ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่ง the Autonomous Technological Institute of Mexico เห็นตรงกันข้ามกับข้อถกเถียงว่า การปฏิรูปเลือกตั้งจะนำมาสู่การทำลายประชาธิปไตย เป็นเรื่องเกินจริง
“นี่ไม่เกี่ยวกับการล้มล้างประชาธิปไตย มันเป็นแนวคิดที่แตกต่างเกี่ยวกับการมองประชาธิปไตย
“(การปฏิรูป) จะทำให้เกิดเสียงข้างมากยิ่งขึ้น และลดทอนการพึ่งพาจากชนชั้นนำ รวมถึงความไม่เหมาะสม ไม่มีประสิทธิภาพ และข้อผิดพลาดจากพวกเขาด้วย” ศาสตราจารย์เฟเดริโก ให้สัมภาษณ์กับ Associated Press
อ้างอิง
https://themomentum.co/mexico-national-election-2018/
https://www.aljazeera.com/news/2023/2/23/mexicos-president-controversial-electoral-reform-bill
https://www.courthousenews.com/mexico-supreme-court-invalidates-part-of-plan-b-electoral-reform/
https://www.ft.com/content/a99689dc-cc0c-4158-a0e1-712ca75c0bf7
Tags: ปฏิรูปเลือกตั้ง, โลเปซ, เลือกตั้ง, เม็กซิโก, ม็อบ, การเมืองเม็กซิโก, กฎหมายปฏิรูปเลือกตั้ง