หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับ ‘ร้านลอดช่องสิงคโปร์’ และ ‘คั้นกี่น้ำเต้าทอง’ สองร้านดังแห่งแยกหมอมี ย่านเยาวราช เนื่องจากทั้งคู่เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดบริการมาเป็นเวลายาวนานในทำเลดังกล่าว โดยร้านลอดช่องสิงโปร์เปิดบริการมานานกว่า 80 ปี ขณะที่คั้นกี่น้ำเต้าทองเปิดบริการมากว่า 122 ปี แต่ล่าสุด ทั้งสองร้านกำลังจะต้องย้ายร้านไปยังทำเลใหม่ เนื่องจากกรณีการเวนที่อาคารบริเวณดังกล่าวคืน ที่ถูกพูดถึงในช่วงที่ผ่านมา

The Momentum มีโอกาสได้พูดคุยกับ ณรงค์ จักรธีรังกูร เจ้าของร้านลอดช่องสิงคโปร์ วัย 75 ปี ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยณรงค์เล่าว่า ได้รับแจ้งว่าจะมีการเวนคืนที่อาคาร เพื่อรื้อสร้างเป็นศูนย์การค้าหรือโรงแรม ซึ่งตนไม่แน่ใจ “เขาให้เวลาถึงสิ้นปีเพื่อย้ายออก เขาบอกตึกนี้หมดอายุแล้ว ให้ไปหาที่อยู่ใหม่

 

“ที่แถวนี้มีประมาณร้อยกว่าห้อง บางส่วนก็ย้ายออกไปแล้วกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของที่ร้านลอดช่องสิงคโปร์ จะเปิดร้านถึงวันที่ 6 ธันวาคม แล้วก็เตรียมย้ายของ เพื่อไปเปิดที่ใหม่วันที่ 15 ธันวาคม ห่างจากทำเลเดิมไม่ไกล แค่ 70 เมตร

“ผมรู้สึกใจหาย เพราะร้านเราอยู่ที่นี่มาช้านาน อยู่ตั้งแต่ผมยังตัวเล็กๆ แล้วจู่ๆ ก็จะให้เราออกไปแล้ว แต่คุยกับลูกค้า เขาก็เข้าใจ และถามว่าจะย้ายไปอยู่ไหน เราก็บอกเขาว่าไม่ไกล”

 

 

ขณะที่ทีมงานมีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ค้าลอตเตอรี่ที่ค้าขายอยู่บริเวณอาคารเก่าดังกล่าว โดยแม่ค้าระบุว่า อาคารนี้เป็นตึกเก่าที่ทางสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะเวนคืน จากช่วงบริเวณจากแยกเยาวราชมาจนถึงแยกหมอมี

“ในส่วนการเวนคืน เราก็ไม่ทราบว่าเขาจะมาทำอะไรบ้าง แต่คนค้าขายก็ต้องย้ายออก เพราะเขาจะเอาคืนหมด ในย่านนี้มีประมาณ 60 กว่าหลังคาเรือนที่เหลืออยู่

“ก่อนหน้านี้ มีการแจ้งล่วงหน้าประมาณ 1 ปี ว่าให้ย้ายออก ใครจะออกก่อนออกหลังก็ได้ แต่ต้องภายใน 19 ธันวาคมนี้เท่านั้น ตอนนี้ก็เริ่มทยอยย้ายออกไปเยอะแล้ว แต่ละคนก็ต้องหาพื้นที่ขายของกันใหม่เอง

“คนที่ค้าขายอยู่ข้างนอกอาคาร ถ้าเขายังไม่รื้อก็ยังอยู่ได้ แต่ถ้ารื้อแล้วก็คงอยู่ไม่ได้เพราะมันมีฝุ่น มีเศษต่างๆ ตึกมันจะพัง เพราะตึกแถวนี้ก็เก่ามากแล้ว”

 

 

 

ขณะที่อีกร้านตำนานที่อยู่คู่กับร้านลอดช่องสิงคโปร์ อย่างร้านคั้นกี่น้ำเต้าทอง ที่ขายน้ำขม น้ำเก็กฮวย จับเลี้ยง ใบบัวบก และมะขามป้อม ก็ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพจว่า กำลังจะย้ายร้านไปทางวงเวียน 22 โดยจะเปิดทำการวันสุดท้ายคือวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ปิดตำนานโลเคชันคู่เยาวราชกว่า 122 ปี

Tags: ,