เจ้าหน้าที่แห่งเทศมณฑลลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พยายามรุดเข้ายึด ‘เต็นท์’ อันเป็นที่อยู่อาศัยของคนเร่ร่อนหลายพันคน โดยรัฐใหญอย่างรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังประสบปัญหาจำนวนประชากรคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้เหล่าคนไร้บ้านและเต็นท์จำนวนมากเริ่มขยายขอบเขตออกจากพื้นที่สคิดโรว์ (Skid Row) ดินแดนคนไร้บ้านที่มีชื่อเสียง เข้าสู่ย่านของคนมั่งคั่ง เกิดเป็นภาพของเต็นท์คนไร้บ้านจำนวนมากตั้งกลาดเกลื่อนบนทางเท้า
เมื่อปัญหาเริ่มลุกลาม เจ้าหน้าที่เทศมณฑลจึงมุ่งเป้าไปที่กลยุทธ์ใหม่ในการเข้าเคลียร์ที่พักพิงที่ไม่น่าดูเหล่านี้ แม้ว่าผู้ให้บริการบ้านพักคนไร้บ้านจะเตือนว่า ยังไม่มีที่อยู่อาศัยชั่วคราวหรือถาวรเพียงพอสำหรับประชากรเร่ร่อนในภูมิภาคดังกล่าว
“นโยบายในการทำให้คนเร่ร่อนเป็นอาชญากรไม่เคยได้ผล” จอร์เจีย เบอร์โควิช (Georgia Berkovich) ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ The Midnight Mission ที่ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินและบริการทางสังคมแก่คนไร้บ้านกล่าว “เราต้องการเตียงเพิ่ม เราต้องการที่อยู่อาศัยมากขึ้น”
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา สภาเมืองลอสแองเจลิสได้ออกกฎหมายห้ามไม่ให้คนเร่ร่อนนอนในที่กลางแจ้ง รวมทั้งทางเท้าและสวนสาธารณะบางแห่ง กฎหมายดังกล่าวมาพร้อมกับคำสัญญาว่าจะมีแนวทางการเยียวยาโดย ‘การดูแลบาดแผลทางใจ’ (Trauma Informed Care) เช่น การจัดหาที่พักและบริการชั่วคราวแก่ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ก่อนที่สภาจะประกาศใช้กฎหมายห้ามตั้งเต็นท์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ก็รุกเคลียร์แคมป์ที่ตั้งเต็นท์ทั่วทั้งภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว
หนึ่งในแคมป์คนไร้บ้านขนาดใหญ่ที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้ายึดพื้นที่ คือบริเวณเอคโค พาร์ก (Echo Park) ย่านแห่งสตรีทอาร์ตและเต็มไปด้วยสถานบันเทิงยามราตรี ใกล้กับใจกลางเมือง การเข้าเคลียร์พื้นที่ดังกล่าวก่อให้เกิดการประท้วงขึ้นในเดือนมีนาคม 2021 โดยนักเคลื่อนไหวและกลุ่มที่ปรึกษาด้านที่อยู่อาศัยคนไร้บ้านบางส่วนมีการปะทะกับตำรวจที่พยายามจะเคลียร์เต็นท์และข้าวของอื่นๆ ในพื้นที่
คาร์เตอร์ ฮิวกลีย์ (Carter Hewgley) ผู้อำนวยการโครงการคนไร้บ้านของ United Way of Greater Los Angeles กล่าวว่า “นี่เป็นการบุกยึดพื้นที่คนไร้บ้านโดยใช้กำลังทหารมากที่สุดที่ผมเคยเห็น” และเสริมว่าเขาถูกตำรวจไล่ออกจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวด้วย
มีรายงานการพบเห็น อเล็กซ์ วิลลานูเอวา (Alex Villanueva) นายอำเภอลอสแองเจลิสหลายครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเขาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการกวาดแคมป์คนไร้บ้านออกจากบริเวณหาดเวนิส ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยที่มีฐานะร่ำรวย
จอห์น มาเซอรี (John Maceri) ซีอีโอของ The People Concern องค์กรบริการสังคมกล่าวว่า “มีคนมากมายที่ไม่ค่อยพอใจ แต่พูดกันตามตรง พอคนไร้บ้านเป็นเพียงคนดำและคนผิวน้ำตาลที่อยู่ในสคิดโรว์เป็นหลัก ก็ไม่มีใครหัวเสียกับเรื่องนั้นมากนัก แต่พอเริ่มเห็นคนเร่ร่อนตามท้องถนนที่กระจายเข้าสู่ในเมืองและมณฑลเป็นจำนวนมาก ผู้คนถึงจะเริ่มให้ความสนใจจริงๆ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ของเมืองให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายกวาดล้างแคมป์คนไร้บ้าน จอห์น มาเซอรี ระบุว่า ตลอดประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส วิธีการแก้ปัญหาคนไร้บ้านของเมืองเป็นเหมือน ‘รถไฟเหาะ’
ย้อนกลับไปในปี 1970 นักวางผังเมืองจงใจผลักคนไร้บ้านไปทางตะวันออกสู่ย่านสคิดโรว์ เพื่อให้อยู่ห่างจากย่านธุรกิจ ภายใต้แผนที่เรียกว่า ‘กลยุทธ์การกักพื้นที่’ โดยมีแนวคิดคือการส่งเสริมธุรกิจในตัวเมืองด้วยการกำจัดสัญญาณของเชื้อร้าย
ในปี 1984 กระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองของสหรัฐฯ ขนานนามว่า เทศมณฑลลอสแองเจลิสเป็น ‘เมืองหลวงของคนเร่ร่อนแห่งอเมริกา’ ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการบังคับใช้กฎหมายที่มอบอำนาจให้ตำรวจและหน่วยงานสุขาภิบาลในการเคลียร์แคมป์คนไร้บ้านเหล่านี้ โดยเฉพาะบริเวณใจกลางเมือง โดยวิธีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวยังคงดำเนินต่อในช่วงทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 แต่ปัญหาคนเร่ร่อนก็ยังไม่หมดไป
เดือนมกราคม 2021 มีรายงานของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ว่า “ตลอดช่วงทศวรรษ 1980 เจ้าหน้าที่ล้มเหลวในการทำความเข้าใจเรื่องราวในมิติของความกว้างและลึกของคนไร้บ้าน และไม่พิจารณาอย่างแท้จริงว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวอาจต้องใช้อะไรบ้าง”
อย่างไรก็ดี เควิน เดอ เลออน (Kevin de León) สมาชิกสภาเทศบาลเมือง กล่าวว่า กลยุทธ์ในปัจจุบันมีความเหมาะสมยิ่งขึ้นกว่าที่เคยพยายามทำมาก่อนหน้านี้ และเสริมว่าสิ่งเดียวที่จะทำได้กับปัญหานี้ คือการดึงคนเข้าไปอยู่ในที่พักพิง ตามรายงานของ Zillow บริษัทตลาดอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ของอเมริกา ระบุว่า ที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิสมาอย่างยาวนาน ซึ่งราคาบ้านโดยทั่วไปสูงกว่า 900,000 ดอลลาร์ฯ
ด้วยเหตุนี้ เดอ เลออน จึงตั้งเป้าหมายในการเพิ่มที่อยู่อาศัย 25,000 ยูนิตสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาการไร้บ้านภายในปี 2025 เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา สำนักงานของเขาได้เปิดโครงการใหม่ในย่านอีเกิลร็อก (Eagle Rock) ซึ่งจะจัดหาเตียง 100 เตียง เพิ่มจากบ้านเล็กๆ 117 หลังที่สร้างขึ้นแล้วในย่านไฮแลนด์พาร์ก (Highland Park) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
คนเร่ร่อนในลอสแองเจลิสได้กลายเป็นเหมือน ‘โรคประจำถิ่น’ มาหลายชั่วอายุคน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึงและการยกเลิกบริการทางสังคม เต็นท์และแคมป์คนไร้บ้านจึงแพร่กระจายไปทั่วลอสแองเจลิส ตามรายงานของกรมการเคหะและการพัฒนาเมือง ระบุว่า ในปี 2020 ทั่วอเมริกามีคนไร้บ้านประมาณ 580,466 คน มากกว่าหนึ่งในสี่ หรือประมาณ 161,548 คน อยู่ในแคลิฟอร์เนีย ในจำนวนนั้น เกือบ 64,000 คนอาศัยอยู่ในเทศมณฑลลอสแองเจลิส
“มันเป็นเครื่องหมายแห่งความอัปยศที่ลบไม่ออกของเรา” เดอ เลออน กล่าว
ที่มา
https://www.nbcnews.com/…/indelible-mark-shame-l-pivots…
https://penguinhomeless.com/la-homeless-skid-row-judge/
https://www.zillow.com/los-angeles-ca/home-values/
Tags: แอลเอ, สหรัฐอเมริกา, Global Affairs, คนไร้บ้าน, คนเร่ร่อน, ลอสแองเจลิส