Just Stop Oil (JSO) กลุ่มเคลื่อนไหวอนุรักษสิ่งแวดล้อมอังกฤษ พ่นสีใส่หลุมศพ ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) นักธรรมชาติวิทยาชื่อดังของโลก และบิดาแห่งทฤษฎีวิวัฒนาการ เพื่อประท้วงปมภาวะโลกรวน หลังอุณหภูมิในปี 2024 มีค่าเฉลี่ยเกิน 1.5 องศาเชลเซียส กลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
‘1.5 is dead’
คือข้อความสีส้มที่ปรากฏบนหลุมศพของดาร์วิน ในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey) โดยมี อลีสัน ลี (Alyson Lee) ครูเกษียณวัย 66 ปี และดิ ไบลจ์ (Di Bligh) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารสภาเมืองเรดดิง สมาชิกกลุ่ม Just Stop Oil เป็นผู้ลงมือพ่นสีด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย
ลีอธิบายว่า สาเหตุที่พวกเขาลงมือก่อเหตุพ่นสีครั้งนี้ เพราะต้องการกระตุ้นให้รัฐบาลอังกฤษตื่นตัวกับภาวะโลกเดือดมากขึ้น หลังปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นเกินมาตรฐาน 1.5 องศาเซลเชียล ขณะที่ไบลจ์กล่าวว่า โลกไม่มีความหวังอีกต่อไปแล้ว โดยเหตุที่เขาเลือกหลุมศพของนักธรรมชาติวิทยาชื่อดัง เป็นเพราะอยากย้ำเตือนมนุษยชาติว่า การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 ของโลกนี้กำลังจะเกิดขึ้น
“ฉันเชื่อว่า ดาร์วินต้องเห็นด้วยกับเรา เพราะเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีและจะทำตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงเขาคงเหนื่อยใจกับรัฐบาลอังกฤษเหมือนกับเรา ที่ปล่อยปละละเลยวิทยาศาสตร์” ลีกล่าว ขณะที่ JSO ตอกย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่อาจนำไปสู่การเพิ่มอุณหภูมิโลกถึง 3 องศาเซลเซียส และทำลายล้างทุกอย่างที่มนุษย์รัก พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำโลกหยุดการใช้น้ำมัน แก๊ส และถ่านหินภายในปี 2030
อย่างไรก็ตามโฆษกมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ยืนยันว่า ยังคงเปิดให้มหาวิหารเข้าชมตามปกติ แม้จะมีร่องรอยข้อความที่พ่นด้วยสีส้ม แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายระยะถาวร โดยสำนักข่าว CNN รายงานว่า สีที่ JSO ใช้พ่นคือสีชอล์กสเปรย์ ไม่ได้สร้างมลพิษให้กับพื้นที่แต่อย่างใด
สำหรับ JSO เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมอังกฤษ มีจุดประสงค์ต่อต้านการใช้พลังงานฟอสซิล บ่อยครั้งมักได้รับความสนใจจากสาธารณชน เพราะการเคลื่อนไหวที่ฉูดฉาดและสั่นสะเทือนสังคม เช่น นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งเคยผูกคอตนเองเข้ากับเสาประตูของสนามกูดิสันพาร์ก (Goodison Park) ของทีมเอฟเวอร์ตัน ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในปี 2022 ขณะที่ JSO ยังเคยโด่งดังจากการประท้วงสาดซุปมะเขือเทศใส่ภาพของ แวนโกะห์ (Van Goah) เพื่อย้ำเตือนปัญหาสิ่งแวดล้อมจากสาธารณชน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา Copernicus Climate Change Service ยืนยันว่า ปี 2024 มีอุณหภูมิที่สูงที่สุดตั้งแต่เคยมีการบันทึกไว้ หลังอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เกินกว่าระดับมาตรฐาน
นอกจากจะขัดต่อข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ที่เป็นดังภาพสะท้อนว่า โลกล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาภาวะโลกเดือด ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังชี้ว่า โลกกำลังจะมาถึงจุด ‘อันตราย’ รวดเร็วกว่าที่คิด เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า โลกจะได้รับอันตรายในทุกอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.1 องศาเซลเซียส เช่น เหตุการณ์ไฟป่าที่กำลังเกิดขึ้นในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่กลืนกินพื้นที่ไปมากกว่า 1 หมื่นเอเคอร์
อ้างอิง
https://www.nature.com/articles/d41586-025-00010-9
https://www.bbc.com/thai/articles/c983d491g4lo
Tags: climate change, Just Stop Oil, อุณหภูมิโลก, ชาร์ลส์ ดาร์วิน, JSO, สิ่งแวดล้อม
