วันนี้ (25 เมษายน 2565) กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า มีความจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง ‘รองหัวหน้าพรรค’ ประชาธิปัตย์ ด้วยสำนึกทางศีลธรรม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วนั้น สาธารณชนจำนวนมากแสดงการไม่ยอมรับ และรังเกียจต่อการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา ด้วยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อศีลธรรมอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อมาตรฐานความรับผิดชอบทางศีลธรรมของผู้บริหารพรรคโดยรวม

“และจากการดำเนินการของพรรคต่อเรื่องนี้โดยหัวหน้าพรรค กลับสวนทางกับความคาดหวังของสาธารณชนในเรื่องสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมของพรรค พรรคประชาธิปัตย์มุ่งมั่นทำงานการเมือง ด้วยการยึดถือประชาชนเป็นใหญ่มาเป็นเวลาช้านาน ตามความหมายของชื่อพรรค คือ ประชาธิปัตย์ แต่ในขณะนี้เป็นที่ปรากฏชัดว่า ประชาชนผิดหวังอย่างมากต่อการตัดสินใจของพรรค ที่นำโดยหัวหน้าพรรค

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ด้วยสำนึกต่อศีลธรรมที่สำคัญยิ่งต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนักการเมือง ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

สำหรับ กนก วงษ์ตระหง่าน ปัจจุบันอายุ 70 ปี เคยดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นรองปลัดทบวงมหาวิทยาลัย รวมถึงยังเคยเป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัท เซ็นทรัล รีเทล และผู้บริหารห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จนสามารถพลิกฟื้นแบรนด์โรบินสันขึ้นมาได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ กนกยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในสมัยที่ อภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และยังเคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 กนกอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นลำดับที่ 12 ทำให้ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ในรอบนี้

ขณะเดียวกัน กนก ยังเป็นเจ้าของ ‘ทฤษฎีแมลงสาบ’ ที่กลายเป็นชื่อที่หลายคนเรียกพรรคประชาธิปัตย์จนถึงปัจจุบัน สำหรับคำนี้ มาจากการประชุมใหญ่สามัญของพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2545 ซึ่งกนกในเวลานั้นยังเป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัทโรบินสัน ได้บรรยายในหัวข้อ ‘ปฏิรูปประเทศไทย ทำไม? ทำอย่างไร?’ ตอนหนึ่งว่า การปรับตัวของพรรคการเมืองควรปรับตัวอย่าง ‘แมลงสาบ’ มากกว่าจะปรับตัวอย่าง ‘ไดโนเสาร์’

ทั้งนี้ กนกได้วิเคราะห์การปฏิรูปของแมลงสาบไว้ว่า แมลงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับตัวเองได้ดี มีเรดาร์คือหนวดในการตรวจสอบสิ่งต่างๆ มีสมองและประสาทไว้คอยประสานงานกับส่วนต่างๆ มีขา 6 ขาไว้เดิน มีปีก 2 คู่เอาไว้บินเวลาคับขัน เวลาวิ่งจะวิ่งเร็วแต่วิ่งระยะสั้นๆ วิ่งไปแล้วหยุดแล้ววิ่งต่อ ขณะเดียวกัน ยังมีจุดเด่นคือการแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก จึงทำให้แมลงสาบอยู่มาได้เป็นพันล้านปี ไม่สูญพันธุ์

“ทฤษฎีแมลงสาบ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิรูปการเมืองได้ 4 ประการ คือ 1. รู้จักฟัง แต่ถ้าฟังแล้วโมโหก็ถือเป็นเรื่องน่าเกลียด 2. รู้จักคิด 3. รู้จักจัดการ คือรู้ว่าจะแก้ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างไร และ 4. รู้จักทำ คือนำข้อมูลที่ได้มาปฏิบัติให้ถูกทาง

“คนเราควรจะต้องมีการรับฟังที่ดี ใช้สมองเพื่อการคิด หลังจากนั้นบริหารจัดการและลงมือทำ นี่คือบทเรียนที่แมลงสาบใช้ เพราะประเทศต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่ได้ในระยะยาว ไม่ใช่ปรับไปตามกระแส ชาติบ้านเมืองไม่สามารถอยู่ได้ด้วยกระแส”

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ชื่อ ‘พรรคแมลงสาบ’ ก็กลายเป็นชื่อติดตัวพรรคประชาธิปัตย์ แม้คนในพรรคจะไม่ได้นำทฤษฎีไปปรับใช้ หรือเรียกพรรคนี้ด้วยตัวเองก็ตาม

Tags: , ,