วันนี้ (23 พฤษภาคม 2565) เวลา 14.00 น. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประพฤทธ์ หาญกิจจะกุล ว่าที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตห้วยขวาง พรรคเพื่อไทย ร่วมกับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล และ ณภัค เพ็งสุข ว่าที่ ส.ก.เขตลาดพร้าว พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อสำรวจปัญหาในคลองลาดพร้าว ดูภาพรวมของประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวก ปัญหาขยะล้นคลอง ระบบการจัดการน้ำเสีย โดยจะนำสิ่งที่พบเจอไปเป็นส่วนหนึ่งของการร่างนโยบายป้องกันน้ำท่วม

สำหรับพื้นที่ที่ชัชชาติและคณะลงเรือสำรวจร่วมกับวิโรจน์ และคณะ ส.ก. เป็นเส้นทางตั้งแต่คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองสอง และคลองแสนแสบ ที่มีจุดระบายน้ำเชื่อมต่อกัน โดยทั้ง 4 คลอง อยู่ในเขตพื้นที่ของ ส.ก. พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ชัชชาติจึงอยากเชิญคนของทั้งสองพรรค รวมถึง วิโรจน์ ที่พูดถึงปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด มาร่วมสังเกตการณ์และวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ชัชชาติระบุว่า ปัญหาหลักที่เห็นคือ ชุมชนที่อยู่ริมน้ำบริเวณคลองลาดพร้าว มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำที่เป็นคอขวดหลายจุด เช่น ประตูน้ำบริเวณลาดพร้าว 56 หรือ ปัญหาขยะอุดตันเส้นทางน้ำ จึงต้องการการลงพื้นที่ให้เห็นปัญหาอย่างจริงจัง และกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งระบายน้ำ การค้นหาพื้นที่ติดขัด หรือการจัดการขยะ โดยมีเป้าหมายหลักคือต้องการให้คลองลาดพร้าวเร่งระบายน้ำได้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ ปัญหาหลายอย่าง มาจากเรื่องที่วิโรจน์พูดหลายรอบ เช่น ปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน ปัญหาเขื่อนสร้างไม่เสร็จ ทำให้ลอกคลองไม่ได้ คลองจึงรับน้ำได้ไม่เต็มที่ น้ำไหลช้า ทำให้น้ำเอ่อท่วมขึ้นไปยังบ้านเรือนริมคลอง ทั้งที่อยู่ไม่ไกลจากอุโมงค์ระบายน้ำหลายแห่ง เช่น อุโมงค์พระราม 9 หรือ อุโมงค์บางซื่อ ขณะที่คลองบางซื่อ น้ำก็เลี้ยวไปไม่ได้ ซึ่งวิธีแก้ปัญหานั้น อาจต้องแบ่งน้ำไปที่คลองบางซื่อบ้าง

“ในภาพรวม เราพอเห็นแนวทางจากคลอง จากท่อระบายน้ำของบ้านเรือนริมคลองทั้งหมด ต้องมีการขุดลอกคลอง ต้องหาทางแก้ ขณะเดียวกัน ว่าที่ ส.ก. ก็ต้องไปดูพื้นที่ว่าจุดที่น้ำท่วมซ้ำซากอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่ง ส.ก. รู้ดีกว่าผู้ว่าฯ อยู่แล้ว ปัญหาทั้งหมดต้องมีที่มาที่ไป ถ้าหาพื้นที่ซ้ำซากได้ ก็เร่งแก้ปัญหาได้ก่อน”

สำหรับตำแหน่ง รองผู้ว่าฯ กทม. นั้น ชัชชาติ ระบุว่า มีการเตรียมไว้ทั้งหมดแล้ว โดยตามสเป็ก จะต้องเป็นคนทำงานในรายละเอียด มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ครอบคลุมในทุกสำนัก ส่วนนโยบายก็ต้องส่งลงไป เอานโยบายไปทำต่อได้ โดยขณะนี้ ขอให้รอการประกาศรับรองในฐานะ ผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน แล้วจึงจะมีการเปิดตัวรองผู้ว่าฯ

ส่วนการชวนวิโรจน์มาร่วมลงพื้นที่คลองลาดพร้าวด้วยนั้น ชัชชาติ ให้ความเห็นว่า เป็นเพราะเห็นว่านโยบายของวิโรจน์เป็นสิ่งที่มีค่า และนโยบายหลายอย่างของทางพรรคก้าวไกล ก็ทำให้ต้องนำมาคิดต่อ

“ผมอยากจะเห็นกรุงเทพฯ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผมว่าเราเห็นแตกต่างกันได้ แต่อย่าไปทะเลาะกัน ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อประชาชน ผมว่าวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่เราจะร่วมมือกันโดยไม่คิดถึงพรรค แต่คิดถึงคนกรุงเทพฯ เป็นหลัก สุดท้ายเราจะเดินหน้าได้อย่างเข้มแข็ง สร้างบริบทการเมืองใหม่แบบที่ไม่เคยเห็น และเราจะได้เห็นบทบาท ส.ก. ที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ ในช่วงเย็น ชัชชาติยังมีกำหนดการลงพื้นที่มูลนิธิดวงประทีป และชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย โดยชัชชาติบอกว่า เหตุผลที่ต้องไปเขตคลองเตยตั้งแต่วันแรก เพื่ออยากขอบคุณชาวคลองเตย โดยพื้นที่คลองเตย เป็นพื้นที่แรกตั้งแต่เริ่มรณรงค์หาเสียง นอกจากนี้ ยังมีคนคลองเตยหลายคนพูดว่า พอเป็นผู้ว่าฯ แล้ว เดี๋ยวก็ ‘หายหัว’ จึงถือโอกาสลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรก อย่างไรก็ตาม เผอิญว่าวันนี้ ส.ก. เขตคลองเตยไม่ว่าง เลยยังไม่มีโอกาสได้พบกัน

ขณะที่ วิโรจน์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การแก้ปัญหาต้องบูรณาการทั้งเขต ทั้งการขุดลอกคลอง ทั้งแก้ปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน โดยทุกเขตต่างก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาเหล่านี้คล้ายกัน

ทั้งนี้ แนวทางในการแก้ปัญหาส่วนตัว สอดคล้องกับชัชชาติ และยินดีช่วยชัชชาติ ทั้งในเรื่องนโยบาย ข้อมูล พร้อมกับบอกว่าชัชชาติ เป็นทั้งอาจารย์ รุ่นพี่ และก็เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์กัน

“แต่ผมคงไม่ค่อยมีโอกาสไปวิ่ง แต่ถ้าจะไปกินด้วยกันก็ยินดี เช้าอาจจะปล่อยอาจารย์ชัชชาติวิ่ง ส่วนเรื่องกิน ผมค่อยตามไปกินด้วย” โดยหลังจากวิโรจน์พูดจบ ชัชชาติยิ้มแล้วบอกว่ายินดีๆ

“ผมยืนยันว่าต้องให้กำลังใจและยืนยันว่าปัญหาในกทม. หมักหมมมานาน ก็ต้องให้เวลาชัชชาติ และ ส.ก. ในการทำงาน และแก้ปัญหา” วิโรจน์ระบุ

ย้อนอ่านบทความ คลองสวยถ่ายรูปได้ vs คลองสวยน้ำใสได้มาตรฐาน เมื่อคลองอื่นในกรุงเทพฯ ก็อยากพัฒนาเหมือนกัน ได้ทาง https://themomentum.co/feature-klong-ladprao/

Tags: , , , , , , ,