เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าผลการนับคะแนนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เวลา 19.30 น. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดอิสระ หมายเลข 8 ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 โดยผลการนับคะแนนล่าสุดโดยอาสาสมัคร 32 องค์กรสื่อมวลชน ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ชัชชาติได้รับคะแนนเสียงกว่า 2 แสนคะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 ซึ่งยังคงลุ้นกันอยู่ระหว่าง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคก้าวไกล กับสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ส่งให้ชัชชาติเป็นว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17
การนับคะแนนล่าสุดในเวลา 18.50 น. พบว่าชัชชาติเอาชนะได้ทุกเขต รวมถึงเขตที่เป็นฐานเสียงของพรรคพลังประชารัฐ – พรรคประชาธิปัตย์ อย่างเขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตคลองเตย และยังไม่มีเขตใดที่ชัชชาติตามเป็นอันดับ 2 เลยแม้แต่เขตเดียว
สำหรับชัชชาติ ได้ตั้งวอร์รูมและสถานที่แถลงข่าวไว้ที่สเตเดียมวัน ถนนบรรทัดทอง โดยมีวอลสกรีนขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง คาดว่าชัชชาติจะแถลงข่าวในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. หลังรับคะแนนได้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์
สำหรับประวัติของชัชชาติ เป็นบุตรของ พลตำรวจเอก เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และจิตต์จรุง สิทธิพันธุ์ จบการศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท วิศวกรรมโยธา (โครงสร้าง) สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก วิศวกรรมโยธา (โครงสร้าง) มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา
เขาเริ่มเข้าสู่แวดวงการเมือง ด้วยการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากการชักชวนของ ‘เฮียเพ้ง’ – พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ก่อนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2555 กระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถูกรัฐประหารโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชัชชาติได้รับมอบหมายจากยิ่งลักษณ์ให้ดูแลพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง วงเงิน 2 ล้านล้านบาท หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นแพ็กเกจกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นำไปลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ ท่าเรือน้ำลึก ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 0 ให้พระราชบัญญัติฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 169 โดยระบุว่า การจ่ายเงินแผ่นดินจะต้องกระทำผ่านกฎหมายงบประมาณรายจ่ายกฎหมายด้วยวิธีงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังเท่านั้น โดยมีวาทะของ สุพจน์ ไข่มุกด์ หนึ่งในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ใช้คำว่า ‘ให้ถนนลูกรังหมดก่อน’ ในระหว่างการพิจารณา
นอกจากนี้ ในเชิง ‘มีม’ ภาพชัชชาติใส่เสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสั้น ถือถุงแกง เดินเท้าเปล่าไปใส่บาตรที่จังหวัดสุรินทร์ ได้กลายเป็นมีมติดตัวเขามาโดยตลอด ขณะเดียวกัน เมื่อครั้งที่เป็นรัฐมนตรี มีคนเห็นชัชชาติวิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมพินีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาได้รับฉายาว่า ‘บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี’ และจนถึงวันนี้ ชัชชาติก็ยังคงวิ่งออกกำลังกายอยู่เป็นประจำทุกเช้า
หลังการรัฐประหาร ในปี 2557 ชัชชาติไปดำรงตำแหน่งซีอีโอของ บริษัท ควอลิตี้เฮาส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q House เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนที่ในปี 2562 ชัชชาติจะเข้าสู่การทำงานการเมืองเต็มตัว โดยได้รับเสนอชื่อจาก ‘พรรคเพื่อไทย’ ในฐานะหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และชัยเกษม นิติศิริ และยังคงเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจนถึงวันนี้
ชัชชาติตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 เพื่อร่วมกับกลุ่ม Better Bangkok ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. และเริ่ม ‘เดิน’ เพื่อรวบรวมปัญหา กทม. รวมถึงจัดทำนโยบาย กระทั่งเปิดตัว 200 นโยบาย ในการหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. และมีกระทั่ง ‘นโยบายรายเขต’ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด เป็น Action Plan ได้ทันที หากได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.
“ในความเห็นผม กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีพลัง มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเยอะ ยิ่งช่วงโควิดยิ่งทำให้เราได้เห็นชุมชนที่เข้มแข็ง มีคนที่มีน้ำใจต่อกัน ผมว่ากรุงเทพฯ ถ้าทำให้ดี มันดีเป็นเมืองระดับโลกได้ง่ายมากเลย ในหลายๆ เรื่องเหมือนกับรอการเจียระไนเท่านั้นเอง” ชัชชาติให้สัมภาษณ์กับ The Momentum ก่อนการเลือกตั้งไม่นาน
Tags: Bangkok Upside Down, Report, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.