วันจันทร์ที่ผ่านมา (25 มกราคม 2565) กองทัพประเทศบูร์กินาฟาโซได้เข้าควบคุมประเทศ ขับไล่ประธานาธิบดี รอช มาร์ค คริสติยอง กาโบเร (Roch Marc Christian Kaboré) พ้นตำแหน่ง ยุบรัฐบาลและรัฐสภา ระงับรัฐธรรมนูญ รวมถึงปิดพรมแดนประเทศ
การรัฐประหารของกองทัพมีการประกาศให้สาธารณชนทราบทางโทรทัศน์ของรัฐ โดยโฆษกกองทัพ ซิดโซเร คาเดอร์ เวยดราโก (Sidsore Kader Ouedraogo) กล่าวว่า กองทัพได้ยึดอำนาจเพื่อตอบสนองต่อ ‘สถานการณ์ความมั่นคงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง’ ในประเทศ และ ‘ความไร้สมรรถภาพของรัฐบาล’ ที่ไม่สามารถสร้างความสามัคคีของคนในชาติได้ โดยในการประกาศทางโทรทัศน์ดังกล่าว มีการแนะนำผู้พัน พอล อ็องรี ดามิบา (Paul-Henri Damiba) นายทหารอาวุโส ผู้สวมชุดทหารและหมวกเบเรต์สีแดง นั่งข้างโฆษกกองทัพ ให้ประชาชนบูร์กินาฟาโซได้รู้จักในฐานะผู้นำคนใหม่
ดามิบาเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการเขตทหารที่ 3 ของประเทศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยมี รอช มาร์ค คริสติยอง กาโบเร อดีตประธานาธิบดีผู้ถูกยึดอำนาจเป็นผู้แต่งตั้ง เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยในเมืองหลวงวากาดูกู โดยดามิบาจบศึกษาจากโรงเรียนทหารในปารีส และเพิ่งเขียนหนังสือชื่อ “West African Armies and Terrorism: Uncertain Responses?” หรือ “กองทัพแอฟริกาตะวันตกและการก่อการร้าย: การตอบสนองที่คลุมเครือ?”
น่าสังเกตว่า ในประกาศทางโทรทัศน์ ไม่มีการกล่าวถึงที่อยู่ปัจจุบันของกาโบเร โดยมีรายงานว่าไม่มีใครพบอดีตประธานาธิบดีในที่สาธารณะอีกเลย นับตั้งแต่เกิดการปะทะกันขึ้นบริเวณทำเนียบประธานาธิบดีในวากาดูกูเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะที่หนึ่งในผู้นำรัฐประหารบอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐว่า กาโบเรถูกทหารควบคุมตัวในช่วงเช้าของวันจันทร์ไปที่ฐานทัพแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการบุกโจมตีบริเวณทำเนียบและมีการยิงปืนใกล้บริเวณบ้านพักของประธานาธิบดี โดยระบุว่า กาโบเรได้ลงนามการลาออกจากตำแหน่งแล้ว และกำลังถูกพาไปอยู่ใน ‘สถานที่ปลอดภัย’ ในประเทศแอฟริกาตะวันตก
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครทราบหลักแหล่งที่แน่นอนของกาโบเร แต่ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการโพสต์ข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์ของเขา เพื่อขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจลาจลวางอาวุธลง
“ประเทศของเรากำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก” ทวีตดังกล่าวระบุ “ในช่วงเวลานี้ เราต้องรักษาความสำเร็จในระบอบประชาธิปไตยของเราไว้ ผมขอเชิญชวนผู้ที่กำลังจับอาวุธอยู่ ให้ลดอาวุธลง เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ เราต้องแก้ไขความขัดแย้งด้วยการสนทนาและการฟัง”
ทางด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (António Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานที่พำนักปัจจุบันของประธานาธิบดีกาโบเร และกำลังติดตามความคืบหน้าในบูร์กินาฟาโซอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า แผนการรัฐประหารได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ผ่านการแชตในแอพฯ ส่งข้อความที่มีการเข้ารหัส และมีการจัดประชุมอย่างลับๆ หลายครั้งนอกเมืองหลวง โดยหนึ่งในผู้นำรัฐประหารเล่าให้สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นฟังว่า ทหารไม่พอใจที่รัฐบาลจัดการกับการโจมตีแบบญิฮาดในประเทศ และเชื่อว่าบูร์กินาฟาโซภายใต้การปกครองของทหารจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ภายหลังการประกาศการยึดอำนาจเมื่อวันจันทร์ พลเรือนได้รวมตัวกันบนถนน บีบแตรรถ และให้กำลังใจทหาร อูมาร์ จูเนียร์ บาโฮโร (Oumar Junior Bahoro) หนึ่งในผู้ประท้วงย่านใจกลางเมืองวากาดูกู กล่าวว่า “ผู้คนต้องระเห็จออกจากบ้าน และมีคนตายทุกที่เนื่องจากการก่อการร้าย สถานการณ์ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข หากกองทัพเป็นผู้นำ ผมคิดว่าสิ่งต่างๆ จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ”
ทางด้านประชาคมเศรษฐกิจของรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า กำลังเฝ้าดูและมีความกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงในบูร์กินาฟาโซ หลังจากการรัฐประหาร รวมถึงเรียกร้องให้ ‘ทหารกลับไปยังค่ายทหาร’ สนับสนุนการเจรจากับทางการเพื่อแก้ไขปัญหา และทหารต้องรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพของกาโบเร
ที่มา:
– https://edition.cnn.com/…/military-detains…/index.html
– https://www.aljazeera.com/…/burkina-faso-army-says-it…