เมื่อไม่รักษาข้อตกลง ทุกคนก็ ‘ต่างคนต่างไป’ ‘อนุทิน’ ประกาศแยกทาง ‘เพื่อไทย’

วันนี้ (18 มิถุนายน 2568) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยื่นข้อเสนอปรับตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย’ ให้กลับไปอยู่ในการบริหารของ ‘พรรคเพื่อไทย’ แลกกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ​ โดยให้เวลาพิจารณาภายใน 48 ชั่วโมง 

โดยอนุทินระบุว่า ตนได้ ‘ปฏิเสธ’ ข้อเสนอนั้นไป พร้อมย้ำว่า สิ่งนี้ไม่ใช่การต่อรอง แต่เป็นข้อตกลงการสนับสนุนรัฐบาล ที่เป็นไปอย่างมีเอกภาพมาโดยตลอด แม้ว่าทาง นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะพูดกับตนอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้องการกระทรวงมหาดไทยกลับไป แต่ตนก็ได้ยืนยันกลับเช่นเดียวกันว่า ไม่สามารถให้ได้

รองนายกฯ ยังกล่าวต่อไปว่า ไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ทั้ง 2 พรรคจะเดินมาถึงจุดนี้ เพราะคิดว่าทุกฝ่ายจะรักษาข้อตกลง แต่เมื่อไม่รักษาข้อตกลงนั้นได้แล้ว ก็คงต้องต่างคนต่างไป

“ผมว่าทุกคนทราบว่าการทำลายข้อตกลงมันไม่ดีหรอก เพราะอีกหน่อยคงต้องมาเขียนเงื่อนไข เขียนสัญญากัน แต่จริงๆ ข้อตกลงแบบนี้มันต้องมีความหมาย ดูความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าข้อตกลงที่เป็นข้อเขียน เพราะสิ่งนี้เป็นความเชื่อมั่นเชื่อใจซึ่งกันและกัน แต่พรรคภูมิใจไทยไม่มีอะไรที่เราไม่ทำตามข้อตกลงแม้แต่อย่างเดียว” 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากพรรคภูมิใจไทยต้องออกไปเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ จะทำให้รัฐบาลอายุสั้นหรือไม่ อนุทินไม่ได้ให้คำตอบ เพียงแต่ระบุว่า หากพรรคภูมิใจไทยต้องเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ ตามบทบาทที่ได้รับ

ขณะที่มีกระแสว่า หากรัฐบาลปรับเอาพรรคภูมิใจไทยออก จะมี สส.ของพรรคไปสนับสนุนเสียงของรัฐบาล อนุทินกล่าวว่า เชื่อว่านายกฯ ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร ตนคิดว่าไม่มีนายกฯ คนใดที่ต้องการให้โครงสร้างของรัฐบาลอยู่ได้ด้วยเสียงสนับสนุนของ ‘งูเห่า’ มาค้ำยัน

“รัฐบาลควรจะมีองค์ประกอบที่เป็นพรรคการเมืองที่เริ่มกันมาตั้งแต่แรก อันนี้เราเริ่มกันมาตั้งแต่แรก สนับสนุนกันมาโดยตลอด ผมว่าการที่นายกฯ ส่งเลขาธิการนายกฯ เป็นตัวแทนในการพูด ในการขอ มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าท่านมีความไม่สบายใจที่จะมาพูดคุย” อนุทินกล่าว

ส่วนข้อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อนุทินระบุว่า ถ้าต้องอยู่บนเงื่อนไขนี้ คงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้

“ถ้าเป็นตามนี้ มันก็ต้องเป็นเช่นนั้น” อนุทินทิ้งท้าย