“แด่การเปลี่ยนแปลงจิตใจที่ขึ้นสนิม” ‘Baraye’ เพลงสนับสนุนผู้ประท้วงอิหร่าน ชนะ GRAMMYS สาขาเพลงเปลี่ยนสังคม

“แด่การเต้นรำบนท้องถนน

แด่คนที่กลัวการจุมพิตกับคนรักในที่สาธารณะ

แด่พี่สาว-น้องสาวของพวกเรา

แด่การเปลี่ยนแปลงจิตใจที่ขึ้นสนิม

แด่ความยากจน

แด่คนที่ที่ต้องการเพียงแค่ชีวิตปกติ”

นี่คือเนื้อเพลงบางส่วนจาก Baraye เพลงที่ชนะรางวัลแกรมมีอวอร์ดส (Grammy Awards) สาขาบทเพลงยอดเยี่ยมเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเชอร์วิน ฮาจิปูร์ (Shervin Hajipour) ศิลปินชาวอิหร่าน ที่ไม่ได้เดินทางมารับรางวัลด้วยตัวเอง โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมส่วนตัวหลังจากประกาศรางวัลว่า “เราชนะแล้ว”

หลังการเสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวของ มาห์ซา อามินี (Mahsa Amini) ในเดือนกันยายนปี 2022 เชอร์วิน ฮาจิปูร์ ได้นำเอาคอมเมนต์ให้กำลังใจกลุ่มผู้ประท้วงในอิหร่านมาร้อยเรียงเป็นบทเพลงชื่อ Baraye เป็นภาษาอิหร่านตะวันตก (Farsi) แปลว่า ‘แด่…’ พูดถึงสาเหตุที่ผู้คนต้องออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องอิสรภาพ ชีวิตที่เป็นปกติสุข สิทธิพื้นฐาน และวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดล้าหลังในสังคมอิหร่าน

เชอร์วินโพสต์วิดีโอของตนขณะร้องเพลงดังกล่าวบนอินสตาแกรมส่วนตัว ทำให้เกิดเป็นกระแสไวรัลทั่วอินเทอร์เน็ตภายในเวลาแค่ 2 วัน ด้วยยอดผู้รับชมกว่า 40 ล้านครั้ง จนเขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในวันที่ 29 กันยายน 2022 และถูกควบคุมตัวนานถึง 1 สัปดาห์ ก่อนได้รับการประกันตัวออกมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ต่อมาช่วงปลายเดือนตุลาคม 2022 ศิลปินระดับโลกอย่างวง Coldplay ก็ได้นำเพลงนี้ไปร้องในคอนเสิร์ตของพวกเขาที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยเชิญ โกลชิฟเตห์ ฟาราฮานี (Golshifteh Farahani) นักแสดงหญิงชาวอิหร่านขึ้นมาร่วมถ่ายทอดบทเพลงดังกล่าวด้วย สร้างความซาบซึ้งปนโศกเศร้าแก่ผู้ชมทั่วโลก และส่งให้เพลงนี้โด่งดังขึ้นกว่าเดิม

ในงานประกาศรางวัลแกรมมีที่ผ่านมา จิล ไบเดน (Jill Biden) สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ รับหน้าที่เป็นผู้มอบรางวัลนี้ โดยเธอได้แสดงความรู้สึกว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ทำหน้าที่นี้ พร้อมกล่าวถึงเพลง Baraye ว่า

“เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เพลงหนึ่งเพลงสามารถหลอมรวมผู้คน สร้างแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนแปลงโลกได้ การสร้างรางวัลสาขาใหม่นี้ขึ้นมาคือการให้คุณค่าแก่บทเพลงที่ฉายภาพประเด็นทางสังคมในปัจจุบัน และสร้างผลกระทบเชิงบวกทั่วโลก

“เพลงนี้จะกลายเป็นเพลงชาติแด่การประท้วงเพื่อมาห์ซา อามินี เป็นบทกลอนที่ทรงพลัง เพื่อสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงทุกคน”