ฝ่ายขวาจัดทั่วสหราชอาณาจักรประท้วงขับไล่ผู้ลี้ภัยและชาวมุสลิมมาแล้วร่วม 1 สัปดาห์เต็ม บางส่วนเผาโรงแรมสำหรับผู้ลี้ภัยและปาอิฐใส่มัสยิด เนื่องจากปมเหตุโจมตีเด็กในเมืองเซาท์พอร์ต (Southport) หลังมีข่าวลือว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้อพยพชาวมุสลิม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุโจมตีเด็กมัธยมในงานเวิร์กช็อปเต้นรำและโยคะธีมเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่จัดขึ้นบนถนนฮาร์ตสตรีท (Hart Street) เมืองเซาท์พอร์ต โดยคนร้ายใช้มีดทำร้ายผู้เข้าร่วมงานจนมีเด็กเสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 6 ราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นใคร เพราะการเปิดเผยตัวตนผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะถือเป็นความผิดทางอาญา ตามกฎหมายในสหราชอาณาจักร
เหตุการณ์ครั้งนี้จึงนำมาสู่การประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่การไว้อาลัยและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการจากไปของผู้เสียชีวิต ทว่าผู้ชุมนุมฝ่ายขวาจัดยังมุ่งโจมตีกลุ่มผู้ลี้ภัยและชาวมุสลิม หลังมีข่าวลือว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุครั้งนี้คือ อักเซล รูดาคูบานา (Axel Rudakubana) เยาวชนมุสลิมวัย 17 ปี ที่มีพื้นเพจากประเทศรวันดา ขณะข้อมูลบางแหล่งเผยว่า ฆาตกรคือ อาลี อัล ชากาตี (Ali al-Shakati) รวมถึงยังอ้างว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ลี้ภัยที่เดินทางโดยเรือมาถึงสหราชอาณาจักรในปี 2023
นอกจากความรุนแรงจากการชุมนุมในเมืองลิเวอร์พูล (Liverpool), แมนเชสเตอร์ (Manchester), น็อตทิงแฮม (Nottingham) และฮัลล์ (Hull) ตลอดสัปดาห์ยังมีรายงานว่า ประชาชนในเมืองลีดส์ (Leeds) ราว 150 คนถือธงเซนต์จอร์จ (Saint George) หรือธงชาติอังกฤษ พร้อมตะโกนด่าทอชาวมุสลิมว่า “พวกแกไม่ใช่คนอังกฤษ” และ “พวกนาซีขยะออกไปจากถนนของเรา” ขณะที่ในเมืองร็อตเทอร์แฮม (Rotherham) มีผู้ประท้วงกว่า 700 คน โดยบางส่วนก่อจลาจล สวมหน้ากากเผาโรงแรมที่ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ รวมทั้งยังขว้างปาไม้ ขวดแก้ว และเก้าอี้ระหว่างปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะเดียวกัน มัสยิดหลายแห่งกลายเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มฝ่ายขวา หลังแหล่งข่าวเปิดเผยว่า มีผู้ใช้อิฐขว้างไปยังศาสนสถานในเซาท์พอร์ตและซันเดอร์แลนด์ (Sunderland) ในวันที่ 29-30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มัสยิดกว่า 2,000 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น
ด้าน เยฟตี คูเปอร์ (Yvette Cooper) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในสหราชอาณาจักร ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า นี่คือพฤติกรรมของนักเลงอันธพาลและอาชญากรที่ก่อความวุ่นวาย พร้อมยังเตือนว่า ทุกคนมีราคาที่ต้องจ่าย หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ทั้งปรับ จำคุก และดำเนินคดี รวมถึงการห้ามเดินทาง
ขณะที่ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงการณ์ประณามการเผาโรงแรมสำหรับผู้ลี้ภัยในร็อตเทอร์แฮม และย้ำว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ทั้งในที่เกิดเหตุหรือโลกออนไลน์ รวมถึงการทำท่าทักทายแบบนาซีในระหว่างการประท้วง จะต้องถูกลงโทษโดยไม่มีข้อแก้ตัวใด
“ประชาชนในประเทศนี้มีสิทธิในการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัย แต่เรากลับเห็นชุมชนมุสลิมเป็นเป้าหมายของการโจมตี” สตาร์เมอร์กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานจาก เทลมามา (Tell Mama) กลุ่มติดตามอาชญากรรมความเกลียดชังต่อมุสลิมชี้ว่า กระแสหวาดกลัวผู้นับถือศาสนาอิสลามในสหราชอาณาจักร อาจนำไปสู่เหตุความรุนแรง ทั้งการสังหารและการล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า
อ้างอิง
https://news.sky.com/story/uk-riots-sir-keir-starmer-condemns-far-right-thuggery-13190805
https://www.aljazeera.com/news/2024/8/2/southport-stabbing-what-led-to-the-spread-of-disinformation
https://www.independent.co.uk/news/uk/crime/southport-protests-enough-riots-far-right-b2590700.html
https://www.bbc.com/news/articles/cql8j2j0304o
Tags: อิสลาม, อังกฤษ, มุสลิม, สหราชอาณาจักร, ประท้วง, ขวาจัด, ชุมนุม, ผู้ลี้ภัย, มัสยิด, ผู้อพยพ, จลาจล, ยุโรป, ฆาตกรรม