วันนี้ (5 พ.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังจากการประชุม ครม. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวตำหนิการรุมซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าควรจะต้องมีมาตรการ และปริมาณที่ซื้อได้ในแต่ละราย ตามเวลาที่กำหนด ขอให้ไม่มีภาพการแย่งชิงกันซื้อเช่นนั้นอีก ขอให้เอกชน ร้านค้าต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรการด้วย ไม่เช่นนั้นจะถูกปิดไม่ให้ขายต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า กำลังเตรียมการการผ่อนปรนไปสู่ระยะที่สอง ถ้าหากสามารถผ่านระยะที่หนึ่งไปได้ 14 วัน ซึ่งมีสถานบริการหลายแบบด้วยกันที่รอจะได้เปิดบริการต่อไป สำหรับสถานบริการขนาดใหญ่ ขอเตือนว่าจะต้องกำหนดปริมาณคนที่เข้าไปใช้บริการ และต้องมีมาตรฐานในการคัดกรองด้วย ขณะนี้ ศบค. กำลังพิจารณาอยู่ว่าสถานบริการรูปแบบใดที่จะสามารถเปิดในเฟสต่อไปได้ ขอให้เตรียมการไว้ให้พร้อม
ในส่วนของรถไฟฟ้าที่มีภาพข่าวปรากฏในโซเชียลมีเดียเมื่อเช้านี้ ที่มีประชาชนใช้บริการอย่างแออัดยัดเยียด ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ หากไม่เว้นระยะห่างทางสังคม นายกฯ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความขัดข้องทางเทคนิคของรถไฟฟ้าที่เสียตั้งแต่เมื่อเช้า จึงทำให้ประชาชนมารอใช้บริการจำนวนมาก เรื่องขัดข้องทางเทคนิคไม่อาจกำหนดล่วงหน้าได้ แต่ขอให้มีแผนการล่วงหน้ารับมือปัญหาเช่นนี้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว
สำหรับการเดินทางพบกับภาคธุรกิจต่างๆ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ใช้วันหยุดราชการของตนเอง เดินทางไปตรวจเยี่ยมพูดคุยกับภาคธุรกิจต่างๆ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามสถานที่ต่างๆ และสำหรับเรื่องการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ 20 ราย หรืออาจจะมากกว่านั้นในระดับรองลงมา ที่มีมูลค่าทรัพย์สินจำนวนมาก โดยหลังจากที่ได้ส่งจดหมายไปแล้ว ในขณะนี้ได้รับการตอบรับครบหมดแล้ว ซึ่งทั้งหมดจะมาช่วยในการฟื้นฟูประเทศ ช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร กลุ่มอาชีพต่างๆ ในแต่ละจังหวัด
นายกฯ กล่าวว่า ได้คาดการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศไทยว่า คงจะได้รับผลกระทบไปนานพอสมควร คงไม่ใช่แค่ 3 เดือน อาจถึง 9 เดือน ต้องเตรียมมาตรการวางแผนต่อไป เราต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ และขอเวลาในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหา เพราะหลายอย่าง ทั้งงบประมาณเองก็ติดข้อกฎหมายอยู่หลายตัว
สำหรับเรื่องแผนฟื้นฟูการบินไทย อันเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม มันอยู่ในเรื่องรัฐวิสาหกิจที่ต้องฟื้นฟูอยู่แล้ว ถือว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะดูแลได้ เพราะค่อนข้างยากที่จะปรับองค์กร ผู้บริหาร บุคลากร โครงสร้างต่างๆ ทั้งหมด ทุกส่วนของการบินไทย รวมถึงสหภาพด้วย จะต้องปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูนี้ ซึ่งมี 10 ประการ ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะยิ่งลำบากมากกว่านี้ และถ้าหลุดไปรัฐบาลจะดูแลต่อไม่ได้ ให้เป็นไปตามกฎหมาย
“การให้เงินกู้หรืออะไรต่างๆ ไปนั้น ไม่ใช่ให้ไปแล้วใช้หมด แล้วก็เป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นการบินไทยจะต้องปรับโครงสร้างทั้งหมด ขอให้ติดตามต่อไป เพราะวันนี้ก็ยังไม่ได้เอาเรื่องนี้เข้า ครม. แต่อยากจะชี้แจงให้ทราบ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความร่วมมือ ขอร้องให้ลูกจ้างพนักงานการบินไทยทุกคนต้องร่วมมือ การบินไทยยังมีโอกาสอยู่มาก ผมให้เวลาการแก้ไขมา 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”
Tags: แผนฟื้นฟูการบินไทย, โคโรนาไวรัส, โควิด-19, การบินไทย, ศบค.