สัปดาห์ที่แล้ว ชาวยุโรป 25 ประเทศ อาจทำอะไรตามนัดหมายช้าไป 6 นาที จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างเซอร์เบียและโคโซโว

เหตุผลคือ โรงไฟฟ้าที่ใช้ร่วมกันระหว่างเซอร์เบียและโคโซโวเชื่อมโยงกับเครือข่ายไฟฟ้าแรงสูงของยุโรปซึ่งที่ผ่านมามีพลังงานจำนวนหนึ่งถูกดึงออกไปจากโรงไฟฟ้าท้องถิ่น ส่งผลกระทบเป็นโดมิโนไปถึงประเทศในยุโรปอีก 25 ประเทศซึ่งเชื่อมเครือข่ายไฟฟ้าแรงสูงไปทั่วทั้งทวีป ตั้งแต่โปรตุเกสถึงโปแลนด์ และกรีซถึงเยอรมนี

เครือข่ายผู้ให้บริการระบบส่งกำลังไฟฟ้ายุโรป หรือ ENTSO-E (European Network of Transmission System Operators for Electricity) ออกแถลงการณ์ว่า เครือข่ายไฟฟ้าของภูมิภาคเสียพลังงานไฟฟ้าไป 113 กิกะวัตต์ชั่วโมงตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเป็นต้นมา เพราะโคโซโวใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่ตัวเองผลิตได้ ส่วนเซอร์เบียซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำให้ระบบสมดุลก็ล้มเหลวในการทำหน้าที่

“เนื่องจากระบบไฟฟ้าของยุโรปเชื่อมต่อกัน เมื่อที่ไหนเสียสมดุล ความถี่ไฟฟ้าจะลดลงเล็กน้อย” แคลร์ กามูส์ โฆษกของ ENTSO-E กล่าว

ปกติแล้ว มาตรฐานความถี่ของระบบไฟฟ้าอยู่ที่ 50 เฮิร์ตซ แต่ถูกลดเหลือกลายเป็น 49.996 เฮิร์ตซ ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา พลังงานไฟฟ้าที่เสียไปนี้ แม้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงที่ทศนิยมหลักที่สาม ก็มีผลให้นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์บางเรือนเดินช้าไปเกือบ 6 นาที ทำให้นาฬิกาดิจิทัลจำนวนมาก เช่น นาฬิกาปลุก  นาฬิกาในเตาอบและในไมโครเวฟที่ถูกกำหนดเวลาโดยความถี่ของกริดหรือเครือข่ายไฟฟ้า เดินไม่ตรงเวลา

แม้ว่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อวันอังคารที่แล้ว (6 มี.ค.) แต่ตราบใดที่ไม่มีการแก้ปัญหาทางการเมือง ก็ยังคงมีความเสี่ยงจะเกิดปัญหาแบบเดิมอีก

“การเบี่ยงเบนของเวลายุติลงแล้ว (เมื่ออังคารที่ 6 มี.ค.) หลังจากที่โคโซโวดำเนินการ แต่มันจะใช้เวลาสักระยะเพื่อให้ระบบกลับมาปกติ” โฆษกของ  ENTSO-E กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ความเสี่ยงจะยังคงอยู่ตราบใดที่ไม่มีการแก้ปัญหาทางการเมือง ENTSO-E ขอให้เซอร์เบียและโคโซโวแก้ปัญหาข้อพิพาทโดยด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อยุโรปเป็นวงกว้าง ทำให้นาฬิกาดิจิทัลของภูมิภาคเดินช้าลง

ความขัดแย้งทางการเมือง เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เรื่องซับซ้อนมากขึ้นตรงที่เซอร์เบียไม่ยอมรับการเป็นประเทศของโคโซโว

“เราจะพยายามแก้ไขปัญหาทางเทคนิคภายในสัปดาห์นี้ แต่คำถามที่ว่าใครจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่มีคำตอบ” โฆษกของ ENTSO-E

ENTSO-E เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศในยุโรป และผู้มีอำนาจทางนโยบายเร่งดำเนินการและกดดันโคโซโวและเซอร์เบียเพื่อให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งขัดขวางการรวมกลุ่มกันของตลาดพลังงานในประเทศแถบบอลข่านตะวันตกที่สหภาพยุโรปต้องการด้วย

“การดำเนินการต่างๆ ต้องแก้ปัญหาด้านการเมืองด้วย” ENTSO-E กล่าวในแถลงการณ์ ส่วนโรงไฟฟ้าในเซอร์เบียและโคโซโวไม่ได้แสดงความเห็น

โคโซโวแยกตัวเป็นอิสระออกจากเซอร์เบียในปี 2008 ทั้งสองรัฐต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป แต่สหภาพยุโรปกล่าวว่าทั้งคู่ต้องทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นปกติก่อน

เซอร์เบียและโคโซโวลงนามในข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการดำเนินการโรงไฟฟ้าเมื่อปี 2015 อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ เพราะพวกเขาไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในเรื่องการขนส่งไฟฟ้าไปยังโคโซโว ท่ามกลางข้ออ้างที่ขัดแย้งกันในเรื่องความเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของยูโกโสลาเวีย

 

ที่มา:

Tags: , , , , , , , ,