1
“โปรดฟังเสียงแห่งเหตุผล ประชาชนชาวยูเครนต้องการสันติภาพ”
ไม่กี่ชั่วโมงของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ประธานาธิบดียูเครน ใส่สูทมาดเนี้ยบ ยืนปราศรัย ย้ำเตือนถึงความเลวร้าย หากรัสเซีย โดยพระเจ้าซาร์องค์ใหม่ วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ซึ่งได้สั่งการให้กองทัพแดงอันเกรียงไกร เข้ายึดทำลายยูเครน เพียงแค่ 10 กว่านาทีที่เซเลนสกีอ้อนวอนให้ทั้งโลกฟัง เพื่อย้ำเตือนว่าการรุกรานของรัสเซียนี้ คือหายนะครั้งใหญ่ของระบอบประชาธิปไตยทั่วทั้งโลก
แน่นอนว่าปูตินไม่ฟังคำพูดนี้ เขาไม่ให้ราคา ไม่สนใจ สั่งกองทัพรุกรานอย่างต่อเนื่อง บดขยี้ยูเครน ซึ่งสำหรับพระเจ้าซาร์องค์ใหม่ ประเทศยูเครนไม่มีอยู่จริง ชาติยูเครนเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้น มันคือดินแดนที่เป็นของรัสเซียตลอดกาล การบุกครั้งนั้นทำเอาทั้งโลกตื่นตะลึง ตกใจ และคิดว่าความโหดร้ายแห่งสงครามได้เกิดขึ้นบนแผ่นดินยุโรปอีกครั้งแล้ว
ตลอดเวลาชาติตะวันตกคิดไม่ต่างกับปูติน นั่นคือทหารรัสเซียคงจะใช้เวลาไม่นานในการทำลายกองทัพยูเครน ยึดครองแผ่นดินโดยสิ้นซาก ขณะนั้นปูตินเชื่อและคิดว่า คนยูเครนจะโบกธงร่วมมือกับทหารรัสเซีย ออกมาพบด้วยความยินดีปรีดา ชาติตะวันตกเชื่อว่ายูเครนไม่มีทางยันกองทัพที่มีจำนวนคนเกรียงไกรลำดับต้นๆ ของโลกได้แน่นอน
ทั้งโลกคิดแบบนั้น
มีเพียงคนยูเครนและเซเลนสกีที่ไม่เห็นด้วย
พวกเขาไม่ได้พิสูจน์ด้วยการพูดเท่านั้น แต่ยังแสดงออกจากการกระทำ
ยูเครนสำหรับคนยูเครน คือชาติที่เป็นจินตกรรมสูงสุดหลอมรวมคนในแผ่นดินนี้ และเซเลนสกีได้ทำในสิ่งที่นักการเมืองจำนวนมากฝันถึงและอยากเป็น นั่นก็คือผู้นำยามสงคราม
สงครามกินเวลากว่า 10 เดือนแล้ว มันยังไม่จบสิ้น แต่เซเลนสกีกับคนยูเครน พวกเขาได้ทำให้ทั้งโลกตื่นตะลึง เพราะไม่เพียงสามารถยันกองทัพรัสเซียไว้ได้ พวกเขายังรุกกลับ ยึดดินแดนคืน ท่ามกลางผู้บาดเจ็บล้มตาย จากความเลวร้ายที่ทหารรัสเซียกระทำต่อคนยูเครนเข้าขั้นอาชญากรสงคราม แหล่งเงินทุน นักรบอาสาจากทั่วทั้งโลกต่างเดินทางไปยูเครน
ดินแดนที่มีประชากรไม่มาก เทียบกับรัสเซียไม่ได้เลย กลับแสดงให้โลกประจักษ์ เช่นเดียวกับเซเลนสกี ความกล้าหาญทั้งหมดนี้เกิดจากการกระทำของเขาเอง
ใครจะคิดว่าอดีตนักแสดงตลกที่ชนะการเลือกตั้ง จะทำให้อดีตสายลับจอมเหี้ยมโหดสุดเผด็จการช็อกตาตั้งและกระอักเลือดได้
นี่คือเรื่องราวที่จะเล่าขานไปอีกนับพันปี ทั้งจากคนยูเครนและคนทั้งโลก
เช่นเดียวกับเซเลนสกี เขาจะได้รับการจดจำ ชายผู้ไม่ยอมจำนน
คนที่ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย
2
เซเลนสกีมาจากครอบครัวเชื้อสายยิว เขาจบการศึกษาทางกฎหมาย แต่ไม่ได้ยึดเส้นทางอาชีพเป็นทนาย เมื่อการแสดงตลกของเขามีผู้สนใจ เซเลนสกีจึงเข้าสู่วงการบันเทิง บทการเป็นครูที่ต่อมากลายเป็นประธานาธิบดีเป็นที่ถูกใจอย่างมาก จนเมื่อวันหนึ่งชายคนนี้ตัดสินใจลงเล่นการเมือง ก่อตั้งพรรค และประกาศตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งยูเครน ชูนโยบายกวาดล้างการคอร์รัปชัน สร้างความหวังให้กับประเทศนี้ จนคนแห่ลงคะแนนเสียงเลือกเขาถึง 73% เป็นประธานาธิบดีหนุ่มในปี 2019 ด้วยวัยเพียง 41 เท่านั้น
เรื่องนี้สร้างความตะลึงไปทั้งโลก ทุกคนต่างเย้นหยัน โดยเฉพาะปูตินที่มองดาราที่กลายเป็นผู้นำประเทศอย่างดูแคลน ยิ่งเวลาต่อมาเซเลนสกีกลับอิรุงตุงนังกับการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างยากลำบาก ทุกอย่างไม่เป็นดังที่หวัง คะแนนความนิยมตกต่ำลง
สิ่งนี้ยิ่งทำให้ปูตินตัดสินใจจะรุกรานยูเครนไวขึ้น นี่เป็นโอกาสที่เหมาะอย่างมาก ประธานาธิบดีที่คนมองว่าเป็นหุ่นเชิดของกลุ่มชนชั้นนำทางการเมือง ไม่น่าจะมีฤทธิ์ต่อกรอะไรกับพระเจ้าซาร์องค์ใหม่ที่สุดแสนเหี้ยมโหดและเขี้ยวกรำทางการเมืองมาหลายสิบปี มีพลานุภาพ อำนาจสุดล้นฟ้า
เทียบกันแล้วไม่มีใครให้ราคาเซเลนสกีเลย ณ ตอนนั้น
กองทัพรัสเซียรุกอย่างดุดัน สมราคายุทธศาสตร์โถมคนอย่างหนักหน่วง เวลานั้นเชื่อว่าเซเลนสกีคงเปิดหนีไปต่างแดน ไม่ต่างจากผู้นำอัฟกานิสถานเมื่อเจอตาลีบันบุกยึด ใครๆ ก็คิดแบบนั้น ยกเว้นเซเลนสกีเอง นี่คือช่วงเวลาที่ผู้นำจะแสดงตนเป็นผู้นำเสียที
ขณะที่กรุงเคียฟ (Kyiv) ถูกถล่มอย่างรุนแรง เซเลนสกีปล่อยคลิปวีดีโอสั้นๆ แปรสภาพจากชายใส่สูท มาใส่เสื้อลายพรางทหารเคียงข้างทีมงาน ย้ำว่า “พวกเราทุกคนอยู่ที่นี่ กองทัพเราอยู่ตรงนี้ ประชาชนในสังคมยังคงอยู่ พวกเขาทั้งหมดจะปกป้องอธิปไตยของชาติ และมันจะเป็นแบบนั้น”
คลิปนี้ถูกแชร์ไปทั่วโลก เซเลนสกีจากนักแสดงตลก สู่ผู้นำยามศึก ชวนให้นึกถึงภาพของวินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลานั้นอังกฤษถูกตัดขาดจากพันธมิตร เยอรมันนาซียึดครองยุโรป ส่งฝูงบินถล่มอังกฤษอย่างต่อเนื่อง ทหารเสียขวัญ แต่เชอร์ชิลองอาจ มั่นใจและยืนยันว่าเขาไม่มีทางยอมแพ้ให้กับนาซี เขาจะสู้ตาย สู้สุดชีวิต
และจะไม่ยอมจำนน
ใครจะเชื่อว่าจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สู่ยุคปัจจุบัน เราไม่เคยขาดแคลนผู้นำที่กล้าหาญ ผู้ที่กล้าบอกเผด็จการว่า “กูไม่กลัวมึง”
3
ตลอดเวลาแห่งการยันกับรัสเซีย ยูเครนสู้ตาย เซเลนสกีปราศรัยต่อหน้าประเทศตะวันตกหลายชาติ จากที่คิดว่าจะล่มสลายในเร็ววัน กลายเป็นยูเครนยังคงหยัดยืนได้ แม้จะสูญเสียชีวิต แต่คนยูเครนไม่ยอมปราชัย ไม่ยอมจำนน ทุกคนร่วมสู้ ใครไม่เคยจับปืนก็ได้จับ ลั่นกระสุนปลิดชีพศัตรู หลายคนช่วยกัน ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่ง ไม่ยอมสิ้นชาติ
มันคือเรื่องเล่าการต่อสู้ระหว่างเผด็จการกับชาติประชาธิปไตยที่ถูกรังแก แต่ถ้าไม่ยอมแพ้เสียอย่าง ยังไงก็ต้องสู้ได้
ยิ่งยูเครนยันรัสเซียอยู่ ความห่วยแตกแห่งกองทัพแดงก็ปรากฏขึ้น ทั้งการขาดแคลนอาวุธ ขาดการประสานงาน ขณะที่กองทัพยูเครนแปรสภาพตัวเองเป็นกองทัพสมัยใหม่ตามแบบตะวันตก ทหารในสงครามตัดสินใจได้เอง ไม่จำเป็นต้องรอนายพล นั่นยิ่งทำให้ประสิทธิภาพของกองทัพทรงพลังมากขึ้น พวกเขาอัดรัสเซียเสียน่วม สร้างความหายนะให้กับกองทัพแดง ชนิดที่ว่าปูตินยังช็อก เหล่านายพลรัสเซียเห็นแล้วว่ายูเครนไม่ต้อนรับข้าศึกจากแดนไกล
การยื้อสู้ไม่ยอมถอยยิ่งทำให้เซเลนสกีโดดเด่นมากกว่าเดิม ยิ่งทำให้คนยูเครนภาคภูมิ เกียรติและความกล้าหาญที่ไม่จำเป็นต้องแบ่งเพศ อายุ ประจักษ์แล้ว ความช่วยเหลือไหลเข้ามา เมื่อรัสเซียติดหล่มแห่งการรุกราน พวกเขาใช้ความรุนแรงจัดการ ใช้ความโหดเหี้ยมทารุณต่อพลเรือนยูเครน หวังจะให้อีกฝ่ายสยบ
แน่นอนว่าความสูญเสียเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่คนยูเครนก็ไม่ยอมแพ้
10 เดือนที่ผันผ่าน และจะอีกกี่เดือนต่อจากนี้ การรุกรานของรัสเซียยิ่งบ้อท่า และยูเครนจะยิ่งทรนง ไม่เกรงกลัวต่อปูตินอีกต่อไปแล้ว
4
ไม่เพียงเซเลนสกีจะเดินสายพบผู้นำชาติต่างๆ ผ่านระบบซูมเท่านั้น เขายังเปิดให้สื่อได้สัมภาษณ์ ยิ่งทำให้เขาแสดงวิสัยทัศน์ ฉายแววมุ่งมั่นจนเร้าใจคนทั้งโลก พื้นฐานเขาเป็นนักแสดงมากความสามารถ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีมากต่อการเมือง ทำให้เซเลนสกีโดดเด่น เขาสลัดสูท ใส่ชุดลายพรางสีเขียว กางเกงสีกากี รองเท้าบู้ตออกศึก ไว้เครา ยิ่งทำให้ภาพเขากับปูตินตัดกันมาก ยิ่งทำให้เห็นว่านักสู้กับปีศาจที่โหดเหี้ยมนั้นแตกต่างกันเท่าใด
แน่นอนว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง การเปิดหน้าของเซเลนสกีหมายความว่าเขาอาจถูกลอบสังหารจากรัสเซียได้ ที่ตั้งของครอบครัวต้องถูกปกปิด แต่ชายคนนี้ก็ยังองอาจ ทำในสิ่งที่ปูตินไม่ทำ นั่นก็คือการออกไปพบประชาชนที่เดือดร้อน ไปดูจุดเกิดเหตุสังหารหมู่ ไปเยี่ยมทหารตามแนวหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูตินไม่สนใจจะทำ
ขณะที่อีกฝ่ายใส่ใจประชาชน อีกคนกลับใส่ใจอำนาจและหลงใหลในอีโก้ของตัวเอง ไม่สนใจความจริง ไม่แคร์สายตาคนทั้งโลก เลือกจะยืนอีกข้างของประวัติศาสตร์ สิ่งนี้ยิ่งทำให้เห็นว่าระบอบประชาธิปไตยมันมีค่า และคุ้มต่อการปกป้องแค่ไหน
ยิ่งเวลาผ่านไป เกียรติภูมิของกองทัพยูเครนเพิ่มสูงมากขึ้น ขวัญกำลังใจดีกว่าเดิม ไม่แปลกที่ปีนี้นิตยสารไทมส์จะยกย่องให้เซเลนสกีเป็นบุคคลแห่งปี 2022 เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในยูเครน ทั้งเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ผู้นำของเขายังคงอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ อยู่เพื่อบอกว่าเราจะเผชิญชะตากรรมด้วยกัน อยู่เพื่อบอกคนรุ่นหลังว่าได้สู้อย่างเต็มที่ ไม่ยอมจำนน อยู่เพื่อบอกว่ายูเครนยิ่งใหญ่แค่ไหน
แน่นอนว่าการเป็นประธานาธิบดียามสงครามถือเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก อารมณ์ขันสมัยเป็นนักแสดงตลกของเซเลนสกีหายไป มันทำให้เขาแกร่งขึ้น โกรธต่อความโหดร้ายของรัสเซีย ภาพคนตายหลอกหลอน การเดินทางต้องมีการคุ้มกันเข้มกว่าเดิม การใช้เครื่องบินเป็นเรื่องยาก เพราะท้องฟ้าเต็มไปด้วยความรุนแรง การแก่งแย่งต่อสู้ศึก เซเลนสกีไปไหนด้วยรถไฟ ซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อว่า เขาชอบมันมาก เพราะจะได้มีเวลาอ่านหนังสือ
“มันทำให้ผมนึกถึงวัยเด็ก พ่อเป็นผู้จัดการโรงงานเหมืองทองแดงในมองโกเลีย การจะไปเยี่ยมพ่อต้องเดินทางด้วยรถไฟไป 8 วัน เส้นทางผ่านรัสเซียและไซบีเรีย เห็นอาณาจักรโซเวียต เจอแต่รูปค้อนและเคียว”
มันช่างเป็นเรื่องย้อนแย้งอย่างยิ่งที่เซเลนสกี ชายที่โตมากับบรรยากาศของโซเวียต และมีความผูกพันกับรัสเซีย แต่มาวันหนึ่งเขาต้องยืนหยัดสู้กับประเทศที่เขามีความรู้สึกผูกพัน
เจ้าตัวยืนยันว่านี่คือการต่อสู้เพื่อชาติอันเป็นที่รัก ยูเครนต้องมาก่อนเหนือสิ่งใด
5
การเดินทางไปอเมริกาซึ่งถือเป็นทริปต่างแดนครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกรุกราน เซเลนสกีแต่งชุดลายพรางอันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนหนึ่งเพื่อย้ำเตือนให้คนอเมริกันเห็นว่า สงครามไม่ได้อยู่ไกลจากพวกเขา มันใกล้กว่าที่คิด เขาเน้นย้ำความช่วยเหลือที่เป็นตัวเงินนั้น ไม่ใช่เรื่องของการกุศล แต่เป็นการลงทุนในความมั่นคงของโลกและประชาธิปไตย ดังนั้นชาติเสรีนิยมจึงต้องร่วมใจเคียงข้างยูเครน นี่คือคำอ้อนวอนจากชายคนนี้
ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ความโหดร้ายของการรุกรานจะเป็นอย่างไรต่อไป รัสเซียกำลังพักฟื้น รอเวลาการรุกกลับ หน้าหนาวอันหฤโหด ความอหังการ์ของปูติน จะนำพารัสเซียและยูเครนเดินไปถึงจุดไหน ยากจะเดาออก แต่หลายชีวิตของคนยูเครนที่สูญเสีย เจ็บปวด จะยังคงเกิดขึ้น ชะตากรรมของเซเลนสกี นักแสดงตลกที่กลายเป็นผู้นำยามศึก จะต้องเจอภาระที่หนักหน่วงอย่างมาก
แต่คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย จะปรากฏต่อไป
เหมือนที่เซเลนสกีปราศรัยต่อหน้ารัฐสภาอเมริกา เพื่อบอกทั้งโลกว่าเขาและชาวยูเครนจะยังคงสู้ และจะสู้ ไม่ยอมจำนนเด็ดขาด
“หากขอสิ่งหนึ่งได้ ผมอยากขอบคุณพระเจ้าที่ปกป้องกองทัพอันกล้าหาญและประชาชน ขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีแห่งชัยชนะ ขอเกียรติศักดิ์ยูเครนจงรุ่งโรจน์ไปชั่วกาล”
อ้างอิง
Volodymyr Zelensky Is TIME’s 2022 Person of the Year | Time
Inside Volodymyr Zelensky’s World | Time
https://www.vox.com/world/2019/9/24/20882359/trump-impeachment-ukraine-president-zelensky
https://www.nytimes.com/2022/12/07/world/europe/zelensky-ukraine-time-person-of-the-year.html
https://www.washingtonpost.com/world/2022/03/01/ukraine-president-volodymyr-zelensky-russia/
Tags: Russia, Vladimir Putin, Ukraine, Volodymyr Zelensky, เซเลนสกี, Politician In Crime