เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาเก็ตทั่วโปแลนด์ปิดให้บริการหนึ่งวัน หลังกฎหมายฉบับใหม่ที่กำหนดให้ร้านค้าต้องปิดทำการในเกือบทุกวันอาทิตย์ เพื่อให้แรงงานได้หยุดและใช้เวลาอยู่กับครอบครัว
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่และร้านค้าปลีกถูกบังคับให้ปิดร้าน นับแต่โปแลนด์ มีกฎหมายให้ค้าขายเสรี ภายหลังจากล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในทศวรรษ 1990s
การออกกฎหมายให้ร้านค้าปิดทำการในวันอาทิตย์ เป็นข้อเสนอของสหภาพแรงงาน ซึ่งเห็นว่าแรงงานควรได้หยุดวันอาทิตย์ และยังได้รับการสนับสนุนจากพรรคอนุรักษนิยมและคริสตจักรคาทอลิกที่ชาวโปแลนด์นับถือกว่า 90%
ขณะที่ก็มีเสียงของผู้ไม่เห็นด้วย อย่างพรรคฝ่ายค้านและสหภาพการค้าของโปแลนด์ที่เห็นว่านี่จะเป็นการทำลายเสรีภาพทางการค้า และสูญเสียโอกาสในการทำงาน โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษาที่จะมีเวลาว่างทำงานแค่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น
นอกจากนี้ยังเห็นว่า การปิดร้านวันอาทิตย์อาจไม่ได้ช่วยให้แรงงานได้หยุดพักจริง เพราะทำให้แรงงานต้องทำงานหนักในวันศุกร์และเสาร์ เนื่องจากจะมีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม กฎหมายใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป นั่นคือในปี 2018 จะกำหนดให้หยุดวันอาทิตย์ 2 ครั้งต่อเดือน และในปี 2019 เป็นต้นไปจะหยุดวันอาทิตย์ 3 ครั้งต่อเดือน และท้ายที่สุดในปี 2020 จะกำหนดให้หยุดทุกวันอาทิตย์ แต่มีร้านค้าจำนวนหนึ่งที่ได้รับการยกเว้น เช่น สถานีน้ำมัน ร้านขายยา และร้านค้าในสนามบินและสถานีรถไฟ รวมทั้งในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างอีสเตอร์และคริสต์มาสที่ได้รับการยกเว้นว่าไม่ต้องปิดให้บริการ
สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน กฎหมายใหม่กำหนดโทษปรับ 100,000 Zloty คิดเป็นเงินไทยประมาณ 919,274 บาท และถ้าทำผิดอีกก็มีโอกาสถึงขั้นต้องโทษจำคุก
ที่มา:
- https://www.independent.ie/world-news/shops-shut-in-poland-as-sunday-trading-ban-takes-effect-36692993.html
- https://www.theguardian.com/world/2018/mar/11/poland-sunday-trading-ban-takes-effect
- http://www.dailymail.co.uk/wires/pa/article-5487793/Shops-shut-Poland-Sunday-trading-ban-takes-effect.html