“เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศทุกด้านกำลังระส่ำระส่ายและทรุดลงอย่างหนัก เพราะความอ่อนแอของผู้บริหารประเทศ พรรคการเมืองแตกแยก ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอน จึงเป็นจุดอ่อนให้มีคณะบุคคลที่ไม่หวังดีต่อประเทศเคลื่อนไหว จะใช้กำลังเข้ายึดการปกครองเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบเผด็จการถาวร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและอยู่รอดของประเทศ คณะปฏิวัติซึ่งประกอบด้วยทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน จึงได้ชิงเข้ายึดอำนาจการปกครองของประเทศเสียก่อน”

หากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ กบฏ ‘เมษาฮาวาย’ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2524 วัน April Fool’s Day นับเป็นกบฏที่น่าตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนทหาร ‘ยังเติร์ก’ คณะทหารผู้ริอาจท้าทายอำนาจของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี อ้างว่ามีมากถึง 42 กองพันนั้น น่าจะคว่ำรัฐบาล ‘ป๋าเปรม’ ได้โดยง่าย

แต่สุดท้ายเรื่องกลับพลิกผัน คณะรัฐประหารที่จับตัวพลเอกเปรมไว้กลับปล่อยให้พลเอกเปรมหลุดมือไปอย่างง่ายดาย ซ้ำพลเอกเปรมยังสามารถอัญเชิญพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ไปประทับที่จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในกองบัญชาการต่อต้านคณะรัฐประหารได้

b-holder Podcast พาไปสำรวจทั้ง เบื้องหน้า เบื้องหลัง ของการรัฐประหารที่ทั้งยิ่งใหญ่ที่สุด และล้มเหลวมากที่สุด ซึ่งสุดท้ายจบลงด้วยอัสดงของยังเติร์ก รวมถึงสำรวจบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พลเอกเปรมและรัฐบาลได้รับชัยชนะในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน รวมถึงทำให้พลเอกเปรมกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งนายกฯ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่

Tags: , ,