‘Please Don’t Tell’ แต่เราอยากบอกว่านี่เป็นเซฟเฮาส์ที่น่าไปซ่อนตัวที่สุดในเขาใหญ่

“ขับตรงเข้าไปเรื่อยๆ นะครับ แล้วเลี้ยวขวา ตรงเข้าไปอีกจะมีเนินขึ้นไปสูงๆ ทางซ้าย ร้านกาแฟอยู่บนนั้นเลยครับ”

รปภ. ที่ป้อมตรงปากทางเข้า Monlada เขาใหญ่ บอกกับเราแบบนั้นเมื่อเราถามถึงร้านกาแฟที่มีโลโก้เป็นรูปสุนัขสูบซิการ์บนป้ายริมถนนเขาใหญ่-วังน้ำเขียว

ร้านกาแฟที่เรากำลังตามหามีชื่อว่า ‘Please Don’t Tell’ ที่นิยามตัวเองว่าเป็น Café and Safehouse อยู่ลึกเข้าไปในโครงการ Monlada ซึ่งเป็นวิลล่าที่เป็นส่วนตัวที่สุดแห่งหนึ่งในเขาใหญ่ วิลล่าแห่งนี้เปิดมาได้ราวสองปี ส่วนร้านกาแฟเพิ่งเปิดได้ราวเดือนเศษเท่านั้นเอง

เมื่อขับรถขึ้นเนินสูงตามคำบอก Please Don’t Tell ซ่อนตัวอยู่บนนั้นด้วยทางเข้าที่ทำเป็นทางเดินเล็กๆ คลุมด้วยไม้เถาที่พันอยู่เหนือระแนงไม้ เมื่อถึงประตูทางเข้า เราก็เจอกับภาพวาดสุนัขท่าทางมาเฟียที่มีสายตายียวนตัวนั้นอยู่บนกำแพงขาว เป็นอันว่าเรามาถึงเซฟเฮาส์ซึ่งเป็น ‘Hidden Place’ แห่งนี้แล้ว

คุณภัณฑิล น่วมเจิม และคุณปภาณิน กันตถาวร คือคู่สามีภรรยาเจ้าของไอเดีย Please Don’t Tell แห่งนี้ บนโซฟาหนังวินเทจ เรานั่งคุยกันถึงที่มาของร้าน จนได้เห็นภาพอดีตที่ย้อนไปสักเกือบยี่สิบก่อนว่า เดิมที่ดินแปลงนี้คือไร่ข้าวโพด กว่าจะกลายเป็นโครงการ Monlada ที่เขียวชอุ่มก็ใช้เวลานานเป็นปี ด้วยแนวคิดที่อยากให้คนที่เข้าพักได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยไม่เน้นภาพหรือบรรยากาศที่หรูหราแบบโรงแรมห้าดาว แต่เน้นความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้เข้าพัก และนำต้นไม้ใหญ่มาปลูก ทั้งไม้พื้นถิ่นและไม้ผลอย่างมะยงชิด เงาะ และกะท้อนป่า

โครงการ Monlada มีทั้งวิลล่าสำหรับขายและวิลล่าให้เช่า ซึ่งแต่ละหลังมีอาณาบริเวณกว้างขวาง ไม่ได้อยู่ชิดกันจนอึดอัด แต่ก็ไม่ได้อยู่ไกลกันจนเกินไป ด้วยความที่อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้คนที่เข้าพักได้ซึมซับกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ และสูดหายใจได้อย่างเต็มปอด ในราคาที่เทียบเป็นรายห้องก็ดูจะเบากว่าโรงแรมระดับหลายดาว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการได้พักอยู่ในบ้านทั้งหลังที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ รวมถึงห้องครัว ห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ และแม่บ้าน

ขนาดของวิลล่ามีตั้งแต่ 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน ไปจนถึง 8 ห้องนอน เรียกว่าจัดมีตติ้ง เวิร์กช็อป หรือสัมมนาแบบย่อมๆ ได้เลย ในราคาเริ่มต้นไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทต่อคืน ซึ่งเหมาะกับทั้งการไปกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว โดยเราสามารถทำอาหารกินเอง จัดปาร์ตี้ส่วนตัว แถมยังยินดีให้พาสุนัขไปพักได้ด้วย หรือถ้าใครที่อยากเช่าเป็นรายเดือน ก็มีราคาต่อเดือนที่ต่างกันไปในแต่ละหลัง

ส่วน Please Don’t Tell ที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นาน คือความตั้งใจที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคนที่เข้าพักในวิลล่า และเปิดให้คนภายนอกเข้ามาแฮงก์เอาต์ได้ด้วย ก่อนเข้าไปอาจจะรู้สึกลึกลับสักหน่อย แต่เมื่อได้ยึดมุมใดมุมหนึ่งของร้านแล้วหย่อนตัวลงไปก็ไม่ผิดหวังกับบรรยากาศโดยรอบที่มีทิวเขาใหญ่เป็นแนวยาวนำสายตา

นอกจากให้คะแนนกับทำเลที่ลึกลับและคุ้มค่ากับการมา เราให้คะแนนกับไอเดียการตกแต่งของร้านที่โปร่งสบายด้วยหลังคาสูง ใส่ความเท่ให้เคาน์เตอร์บาร์ด้วยโซ่เส้นใหญ่ที่ขึงรั้งไว้กับเพดาน การใส่ความดิบแบบรัสติกลงไปในดีไซน์ ผสานกับความเป็นอินดัสเทรียลอีกหน่อย ปล่อยสเปซระหว่างมุมนั่งให้กว้าง และเชื่อมกับส่วนเอาต์ดอร์ด้วยกระจกบานเฟี้ยมขนาดใหญ่ เพื่อเปิดรับอากาศและลมเย็นๆ ของเขาใหญ่ได้เต็มที่ในยามอากาศดี

เราชอบที่นั่งด้านนอกที่มีทั้งมุมโซฟาให้เอนหลังสบายๆ และเคาน์เตอร์บาร์ที่พาเราออกไปอยู่ใกล้ชิดกับสีเขียวของต้นไม้ได้มากยิ่งขึ้น เมื่อแสงยามเย็นเดินทางมาถึง พื้นที่ส่วนนั้นมักถูกจับจองเป็นอันดับแรก เพื่อเก็บเฉดสีของท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนลงในหน่วยความจำของกล้องถ่ายรูป ถ้าวันไหนคนเยอะ มุมนี้อาจต้องมีการเล่นเก้าอี้ดนตรีกันหน่อย

เมนูอาหารของ Please Don’t Tell เป็นอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ แต่ถ้าใครอยากจัดมื้ออลังการ เราแนะนำว่าออกไปนั่งในร้านอื่นๆ ของเขาใหญ่จะดีกว่า เพราะที่เขาใหญ่มีร้านอาหารดีๆ เกือบทุกประเภทไว้ให้แวะอยู่แล้ว การนั่งชิลล์ๆ ในร้านนี้ เพียงแค่มีเครื่องดื่มสักแก้วพร้อมขนมสักนิดสักหน่อย นั่นก็เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็กต์

Mango Crush ที่ให้สีสันสดๆ ตัดกันแบบเหลืองกับแดง คือมะม่วงปั่นที่ให้ความหวานแบบธรรมชาติ นำมาปั่นแบบไม่ใส่น้ำแข็ง แต่เย็นด้วยการแช่เย็นก่อนนำมาปอกแล้วปั่นจนเนียน ตกแต่งด้วยผลไม้อย่างกีวี ทับทิม หรือสตรอว์เบอร์รี่ หวานโดยไม่ต้องใส่น้ำตาล อีกแก้วที่ให้ดึงความสดชื่นกลับมาแบบเดียวกันคือ Immune Booster ที่นำแอปเปิลแดง ส้ม และแครอท มาปั่นเข้าด้วยกันแบบแยกกาก ให้ผลลัพธ์ที่ดีกับสุขภาพเป็นของแถม

ส่วนใครที่เป็นคอกาแฟ ถ้าชอบกาแฟเย็น อยากให้ลอง Sunrise Latte ท็อปด้วยน้ำอัญชัน เมื่อเสิร์ฟจึงได้เลเยอร์สามชั้นสามสี ตกแต่งด้วยเพรตเซลที่ให้ความหอมแตกต่างจากแก้วทั่วไป แต่ถ้าใครชอบจิบกาแฟร้อน ที่นี่มีกาแฟหลายชนิดที่เจ้าของร้านซึ่งเป็นคอกาแฟเช่นกันคัดสรรมาแล้วด้วยตัวเอง

จิบเครื่องดื่มและดูดกลืนออกซิเจนในบรรยากาศที่สงบ สดชื่น และเป็นส่วนตัวที่สุดของเขาใหญ่จากที่นี่เอาไว้แล้ว จะบอกต่อใคร หรืออยากจะเก็บไว้เป็น ‘มุมลับ’ ส่วนตัว ก็แล้วแต่ใจเลย

ถ่ายภาพโดย ขจรศิริ อุ่ยมานะชัย

Fact Box

Please Don’t Tell อยู่ในโครงการ Monlada บนถนนเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ห่างจากทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 3 กิโลเมตร

วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เปิด 8.30-17.30 น.

วันศุกร์-เสาร์ เปิด 8.30-19.30 น.

โทร. 091-996-6353

Facebook: Please Don’t Tell Khaoyai

โครงการ Monlada: www.monladakhaoyai.com