ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่ฟ้องคดี พอล แชมเบอร์ส (Paul Chambers) นักวิชาการสัญชาติอเมริกัน และอดีตอาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากกรณีที่มีข้อความประชาสัมพันธ์งานเสวนาทางวิชาการ ปรากฏในเว็บไซต์ของ ISEAS-Yusof Ishak Institute ประเทศสิงคโปร์ ทำให้คดีสิ้นสุดลงแล้ว

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นผลจากการที่แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 3 ได้มอบอำนาจให้ พันเอก มงคล วีระศิริ หัวหน้าแผนกกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองบริหารงานบุคคล กอ.รมน.ภาค 3 เข้าแจ้งความแชมเบอร์สในฐานะผู้โพสต์เชิญชวน โดยระบุว่า เนื้อหาในข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยอ้างอิงจากโพสต์ Facebook ของ อัษฎางค์ ยมนาค 

จากนั้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 แชมเบอร์สได้รับแจ้งจากมหาวิทยาลัยนเรศวรว่า ถูกออกหมายจับโดยศาลจังหวัดพิษณุโลก และในวันที่ 8 เมษายน แชมเบอร์สเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกและศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 2 ครั้ง ทำให้แชมเบอร์สถูกส่งตัวเข้าเรือนจำคืนนั้นทันที จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำสั่งให้ประกันตัวระหว่างสอบสวน โดยให้วางหลักประกัน 3 แสนบาท ให้วางพาสปอร์ตต่อศาลและใส่กำไลติดตามตัว ขณะเดียวกันยังถูกเพิกถอนวีซ่า ทำให้ต้องประกันตัวโดยวางเงินประกันไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพิษณุโลกอีก 3 แสนบาท 

คดีมาตรา 112 ของแชมเบอร์ส ในห้วงเวลาที่มีการเจรจาการค้ากับ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในเรื่องภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมแชมเบอร์สซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ อาจกระทบเรื่องการเจรจาดังกล่าวอย่างรุนแรง เพราะสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเรื่องดังกล่าวด้วย

ต่อมาวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงว่า อธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ทุกข้อหา โดยเห็นว่าพฤติการณ์ยังไม่เข้าข่ายความผิดตามที่กล่าวอ้าง พร้อมส่งสำนวนและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อพิจารณาว่า จะมีความเห็นแย้งหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1

แต่ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 ยังมีความเห็นแย้ง สำนวนจึงถูกส่งไปที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด กระทั่งวันนี้ อัยการสูงสุดได้พิจารณาและมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่ฟ้องคดีเด็ดขาดลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 โดยสรุปเห็นว่า ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในสำนวนเพียงพอต่อการทำความเห็นและคำสั่งแล้ว โดยเห็นว่าข้อความตามข้อกล่าวหาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์เชิญชวนให้เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ในหัวข้อ ‘การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ และทหารของประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2567: สื่อนัยอะไร’ ที่จัดขั้นโดยสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak Institute ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยมีผู้ต้องหาเป็นนักวิชาการรับเชิญในการสัมมนาหัวข้อดังกล่าว ซึ่งกำหนดวันสัมมนาในวันที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-11.30 น. เป็นลักษณะเชิญชวนให้ผู้อ่านเกิดความสนใจลงทะเบียน เพื่อเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ ที่มีผู้ต้องหาเป็นผู้บรรยายตามกำหนดการ ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า แชมเบอร์สเป็นผู้เขียนบทความและโพสต์บทความ ขณะเดียวกันช่วงเวลาเกิดเหตุผู้ต้องหาอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้ไปร่วมงานสัมมนาที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงวันเวลากำหนดการสัมมนาตามที่เว็บไซต์สรุปไว้

“ดังนั้นลำพังแต่เพียงการมีชื่อและภาพของผู้ต้องหาในเอกสารดังกล่าว ยังไม่อาจรับฟังได้ว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้จัดทำเอกสารตามข้อกล่าวหา คดีจึงไม่อาจฟังได้ว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตามข้อหาดังกล่าว มีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง”

ผลของคำสั่งดังกล่าวจึงทำให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี โดยต้องถูกคุมขังในเรือนจำ 1 คืน ถูกให้ใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) เป็นระยะเวลา 21 วัน และสูญเสียงานที่มหาวิทยาลัยนเรศวรจากคดีดังกล่าว

Tags: ,