ปาปาราซซี และ ‘เหยื่อ’ ในความใคร่รู้ใคร่เห็นของสังคม

คนดังจากแวดวงบันเทิงหรือสังคมชั้นสูงมักเป็นเป้าหมายแรกๆ ที่ปาปาราซซีคอยตามเก็บภาพ ไม่ว่าคนดังเหล่านั้นจะอยู่ในอารมณ์ทุกข์หรือสุข แม้แต่ขยะ ก็ยังกลายเป็นเรื่องเล่าที่ปาปาราซซีคุ้ยเขี่ยมาขายได้

ปาปาราซซี

เลดี้ ไดอานากลายเป็นเหยื่อที่ถูกปาปาราซซีตามล่ามากที่สุด ในขณะที่ดาราหรือคนดังอื่นๆ อย่างเช่น สเตฟฟี กราฟ และอังเดร อากัสซีถูกตามจนช่างภาพเลิกตาม หรืออดีตสามีของเจ้าหญิงสเตฟานี ที่ถูกบันทึกภาพได้ระหว่างอยู่ที่สระว่ายน้ำกับหญิงอื่น นั่นก็ครั้งเดียวจบ

ปาปาราซซีทำหน้าที่ติดตามคนดังทุกย่างก้าว พวกเขามีกล้องซูมขนาดใหญ่ไว้คอย ‘ส่อง’ คนสวยคนรวย ไม่ว่าจะต้องปีนขึ้นไปนั่งคอยบนต้นไม้ ลงไปในถังขยะ หรือนั่งในรถติดฟิล์มมืด แต่ละรูปที่พวกเขาถ่ายมีมูลค่าเป็นตัวเลข 5-6 หลัก ในบางกรณีอาจถึง 7 หลัก ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและปัจจัยของแต่ละภาพ

“เราเป็นช่างภาพ ซึ่งก็มีทั้งแง่ดีและแง่ร้าย” ทาซิโอ เซคเชียโรลี ปาปาราซโซตัวท็อปของอิตาลี เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ “เบื้องหลังเรามีความกระหายอยากของหนังสือพิมพ์และคนอ่าน ที่พร้อมให้เราทำทุกอย่างเพื่อพวกเขาจะได้เสพเรื่องราวต่างๆ นานาของคนดัง”

มาร์ก ฌอนเดอร์ส ช่างภาพอังกฤษที่ใกล้ชิดเลดี้ ไดอานาแทบทุกองศาและทุกเวลา กระทั่งได้ชื่อว่าเป็น ‘ชีวิตมือสอง’ ของเจ้าหญิง เขาคือช่างภาพที่ติดตามรถของเลดี้ ไดอานา ซึ่งนั่งไปกับโดดี อัล ฟาเยด และการเดินทางไล่ล่าสิ้นสุดลงที่เสาปูนในอุโมงค์กลางกรุงปารีส

ภาพถ่ายความตายสยดสยองของ ‘ผู้หญิงที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก’ นั้น ไม่มีหนังสือพิมพ์หัวสีฉบับไหนต้องการตีพิมพ์ ถึงแม้ กุยเลียโน แฟร์รารา-บรรณาธิการบริหารของ Panorama นิตยสารชื่อดังของอิตาลี จะมีทัศนะต่อเรื่องนี้ว่า “เราตีพิมพ์ภาพไดอานาที่เสียชีวิตแน่นอน เพราะผู้อ่านมีสิทธิ์จะรับรู้ข่าวสาร”

แต่ท้ายที่สุดแล้วนิตยสาร Panorama ไม่ได้ตีพิมพ์ภาพไม่สวยของเลดี้ไดอานาแต่อย่างใด จะมีก็เพียงนิตยสารข่าว Chi ของอิตาลี และนิตยสารแนวกอสสิป Interviu ของสเปนเท่านั้น ที่ตีพิมพ์ภาพขาวดำ ซึ่งเป็นภาพระหว่างเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นสื่อทั้ง 2 ฉบับถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก

‘เหยื่อ’ ของสังคมใคร่รู้ใคร่เห็น

ในฤดูร้อนปี 2014 ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เคยมีนิทรรศการภาพถ่าย Paparazzi! Fotografen, Stars und Kuenstler (ปาปาราซซี! ช่างภาพ, ดารา และศิลปิน) จัดแสดงภาพถ่ายในอดีตราว 500 ภาพที่เป็นผลงานจากการไล่ล่าคนดังของบรรดาช่างภาพ(แอบถ่าย)มืออาชีพ และนี่คือภาพตัวอย่างพร้อมเรื่องเล่าเล็กๆ ที่สนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้คน

(ซ้าย) สีหน้าและท่าทางเคร่งเครียดของ เคต มอสส์ ในปี 1992 ระหว่างเธอไปร่วมงานแฟชั่นวีคในกรุงปารีส (ขวา) ในภาพนี้มีช่างภาพ-รอน กาเลลลาร่วมในช็อตด้วย เขาสวมหมวกอเมริกันฟุตบอลระหว่างเดินประกบมาร์ลอน แบรนโด ในปี 1975 ที่โรงแรมวัลดอร์ฟ-แอสโตเรีย ในนครนิวยอร์ก เหตุผลที่เขาต้องสวมชุดป้องกันตัว เพราะแบรนโดเคยตะบันคางเขาจนกรามหักฟันหลุดมาก่อน (Photo: Bruno Mouron, Paul Schmulbach/Ron Galella, Ltd)

(ซ้าย) การล่าเหยื่อของปาปาราซซีคล้ายเกมแมวจับหนู แต่บางครั้งดาราก็เลือกได้ว่า จะสู้กล้องอย่างสงบหรือปกป้องตนเองอย่างบ้าคลั่ง ในภาพคือ มาร์เลเน ดีทริช เธอเลือกที่จะปรากฏตัวอย่างสงบ (ขวา) บางครั้งภาพการเผชิญหน้าของดารากับปาปาราซซีก็เปลี่ยนไปเช่นกัน อย่างภาพนี้ที่บรรดาช่างภาพพากันไปยืนประท้วงที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของบริจิตต์ บาร์โดต์ ช่วงปี 1955 ดาราสาวฝรั่งเศสยังคลุกคลีใกล้ชิดกับปาปาราซซี แต่ 10 ปีถัดมาเธอกลับไม่ยอมให้ใครถ่ายภาพอีกเลย (Photo: Pascal Rostain and Bruno Mouron)

(บน) บรูโน มูรอง และปาสคาล รอสแตง ลงทุนลงแรงไปขุดคุ้ยแม้กระทั่งถังขยะของมาดอนนา แล้วนำมาจัดวางภาพถ่ายเป็นงานศิลปะ ช่างภาพทั้งสองเริ่มงานคุ้ยเขี่ยถังขยะ แบบไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของมาตั้งแต่ทศวรรษ 80s ก่อนหน้านั้นเคยรื้อคุ้ยถังขยะของบริจิตต์ บาร์โดต์ และเจรารด์ เดอปาร์เดอ ก่อนดอดไปรื้อของดาราฮอลลีวูดอย่าง ชารอน สโตน บรูซ วิลลิส และมาดอนนา

(ล่าง)  เหล่าดารายังคงตัดสินใจเองได้ว่า จะร่วมมือกับช่างภาพด้วยดี หรือจะขัดขืน เหมือนอย่างมิก แจ็กเกอร์ กับอาร์โนลด์ ชวาร์เซนเนกเกอร์ในภาพนี้ จากปี 1990 ที่พยายามขัดขืน ซึ่งยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นให้กับสังคมเข้าไปอีก (Photo: Jean Pigozzi)

ภาพละ 100,000 ดอลลาร์ คุณจะทำไหม?

เดือนมิถุนายน ปี 2013 ฮัลลี เบอร์รีย์ขึ้นศาลที่ซาคราเมนโต เพื่อทวงสิทธิความคุ้มครองความปลอดภัยจากสาธารณะ ตามกฎหมายแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย มาตรา 606 ว่าด้วยการปกป้องคุ้มครองเด็กอันสืบเนื่องจากอาชีพการงานของพ่อแม่ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

กฎหมายดังกล่าวระบุโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์ หรือจำคุกสูงสุด 60 วัน มีข้อยกเว้นด้วยว่า หากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก ให้ต้องโทษจำคุกอย่างต่ำ 10 วัน และสูงสุด 1 ปี หากกระทำผิดครั้งที่ 2 ให้ต้องโทษจำคุกอย่างต่ำ 30 วัน และโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ และหากกระทำผิดครั้งที่ 3 ให้ต้องโทษจำคุกอย่างต่ำ 60 วัน กฎหมายดังกล่าวให้ความคุ้มครองทั้งเด็กที่เป็นลูกในไส้ ลูกบุญธรรม และเด็กในความปกครอง

ในแคลิฟอร์เนีย เป้าหมายของปาปาราซซีไม่ได้อยู่ที่ดาราหรือคนดังเท่านั้น หากยังรวมถึงลูกๆ ของพวกเขาด้วย สถานีโทรทัศน์ ABC News เคยสัมภาษณ์ช่างภาพปาปาราซซี-ริคาร์โด เมนโดซา หากมีคนจ้างให้เขาไปดักรอถ่ายภาพที่หน้าโรงเรียนซึ่งลูกๆ ของฮัลลี เบอร์รีย์เรียนอยู่ เขาจะรับงานนี้หรือไม่ เมนโดซาให้คำตอบว่า เขาจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด

คำถามถัดมาคือ เขาจะทำหรือไม่ ถ้าหากภาพถ่ายของเขามีค่าตอบแทนสูงถึง 100,000 ดอลลาร์

คำตอบของเขาคือ “ผมจะทำทันทีเลยละ”

Cover Photo: REUTERS

อ่านบทความตอนที่สอง เรื่อง “ที่มาของ ‘ปาปาราซซี’ กับภาพเล่าเรื่องของพวกเขา”