50 ปีก่อนชาวอิตาเลียนรับประทานอะไร 

แล้วอีก 50 ปีข้างหน้า ชาวอิตาเลียนหรือมนุษย์จะรับประทานอะไรต่อไป?  

คำถามชวนสงสัยจากเชฟของ Beluga Bangkok (เบลูกาแบงค็อก) ที่พูดถึงคอนเซ็ปต์ร้านที่เรียกว่า ‘Present Dishes’ โดยไม่ใช่ร้านต้นตำรับอาหารอิตาเลียน แต่เป็นร้านที่เสิร์ฟความเป็นปัจจุบันผ่านอาหาร โดยเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เฉลี่ยทุก 5-6 อาทิตย์

เมื่อวัตถุดิบเป็นผู้กำหนดเมนูอาหาร เพราะแต่ละฤดูกาล แต่ละประเทศ แต่ละทวีป มีความแตกต่างของรสชาติวัตถุดิบต่างกันออกไป ธรรมชาติจะช่วยรังสรรค์ความอร่อยผ่านภูมิประเทศ ฤดูกาล และอากาศ เช่น หมูป่าอิตาลี รสชาติหมูป่าของอิตาลีทางตอนเหนือและตอนใต้จะแตกต่างกันออกไป ด้วยความคิดที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ มีการตอบสนองต่อธรรมชาติขึ้นอยู่กับฤดูกาล 

 

 

ยกตัวอย่างง่ายๆ ทำไมเราถึงต้องอยากกินน้ำส้มคั้น ไอศกรีมหวานๆ ในฤดูร้อน นั่นก็เพราะร่างกายของมนุษย์มีความเรียกร้องต้องการตามฤดูกาล”

เชฟยกตัวอย่างความสัมพันธ์ของอาหาร ฤดูกาล และความต้องการของมนุษย์ที่หมุนเวียนสลับไป จนเป็นที่มาที่ไปให้ Beluga Bangkok เปลี่ยนเมนูทุก 5-6 อาทิตย์ ที่นอกจากทำให้อาหารอร่อยตามฤดูกาลแล้ว ผู้คนยังได้รับประทานอาหารที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละสภาพอากาศอีกด้วย

Out and About ชวนชิมอาหาร Present dishes ย่านสาทร โดยสามารถเลือกรับประทานเป็นเซ็ตตามที่เชฟเลือกสรรเมนูที่เหมาะสมตามฤดูกาล หรือสั่งแบบอาหารจานเดียว และใครที่อยากรับประทานเมนูอิตาลีนอกเหนือจากเมนูของทางร้านก็สามารถสั่งได้

ข้อแนะนำคือควรจองโต๊ะล่วงหน้า แจ้งเมนูที่ต้องการกินเพื่อที่เชฟจะได้จัดเตรียมวัตถุดิบคุณภาพดีที่สุดมาเสิร์ฟให้ทุกท่านได้รับประทาน นอกจากนี้ทางร้านยังมี service advisor พนักงานคอยแนะนำวิธีการกินและการดื่มให้เข้ากับลูกค้ามากที่สุด

เมนูแนะนำ

Buffalo Burrata ราคา 480 บาท

เริ่มต้นจานแรกด้วยพาร์มาแฮมเนื้อควาย นำเข้าจากอิตาลี โดยผ่านกรรมวิธีการบ่มในห้องไร้อากาศ แขวนทิ้งไว้ 20 เดือน พาร์มาแฮมเนื้อควายให้สัมผัสชุ่มฉ่ำ ไม่มีความเหนียว เมื่อรับประทานพร้อมกับครีมชีสของเนื้อควายและคาเวียร์ยิ่งขับให้เมนูนี้มีความลงตัวมากขึ้น

 

Seared Hokkaido Scallop ราคา 670 บาท

หอยเชลล์ชิ้นใหญ่ นำเข้าจากฮอกไกโด รสชาติหวาน เนื้อสดเด้ง แสดงให้เห็นถึงวัตถุดิบชั้นยอดที่เชฟนำมาปรุงเป็นเมนู Seared Hokkaido Scallop เมื่อรับประทานคู่กับแคร์รอตบดยิ่งทำให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

 

Roasted Pork Tenderloin ราคา 590 บาท

ความโดดเด่นที่มาแรงของ Roasted Pork Tenderloin คือกลิ่นหอมอบอวลของสันในหมูป่าที่เพิ่งออกจากเตาอบ เชฟอธิบายอย่างตั้งใจว่าจานนี้เขาจะนำส่วนสันในหมูป่ามาม้วนให้แน่น ห่อด้วยพลาสติกแรป แล้วนำเข้าเตาอบที่ตั้งอุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส ความร้อนค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปทุกอณูนานกว่า 2 ชั่วโมง ผลลัพธ์ที่ได้คือสันในที่รอบนอกกลายเป็นสีน้ำตาลคล้ายกับถูกรมควัน ส่วนด้านในเป็นสีชมพูดูน่ารับประทาน

หลังจากอบหมูป่าในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไอน้ำและความชื้นทำให้เนื้อนุ่ม เชฟแวะไปจัดการกับเครื่องเคียงที่กินคู่กับสันในหมูป่า สิ่งนั้นคือหอมแขกหัวใหญ่ที่ตุ๋นจนนุ่ม วางลงบนมันบดออร์แกนิก ไร้ชีส ไร้นม ไม่ได้ปรุงรสอะไรนอกจากโรยเกลือเพิ่มความเค็มอ่อนๆ เท่านั้น แล้วค่อยกลับมายังหัวใจสำคัญอย่างสันในที่คลุกเคล้ากับถั่วพิสตาชีโอบด ก่อนราดซอสรสหวานที่ทำจากมะเดื่อสด เตรียมรอให้ลิ้มรสความนุ่มของสันใน ความหวานฉ่ำของหอมแขก ความละมุนของมันบด ซึมซับรสชาติของวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีได้เต็มที่

 

MatteO’s Prawns ราคา 450 บาท

การเตรียมวัตถุดิบคือหัวใจหลักของ Beluga Bangkok แป้งชั้นดีถูกตีเข้ากับไข่คุณภาพ จากนั้นเชฟจึงนำกุ้งสดกับหอมหัวใหญ่ชุบลงในแป้งที่ตีไว้ก่อนคลุกกับเกล็ดขนมปัง ทอดให้สุกจนเป็นสีเหลืองทองอร่าม เสิร์ฟคู่กับเลมอนฝานหนึ่งชิ้น และซอสมะเขือเทศแบบเผ็ดที่ถือเป็นหมัดเด็ดของจานนี้

ซอสมะเขือเทศแบบเผ็ดมีความเผ็ดอ่อนๆ ตามสไตล์อิตาเลียน แต่ไม่ได้มีความตะวันตกจนเกินไป ด้วยส่วนผสมที่เป็นเครื่องเทศชื่อดังจากฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างขิงและพริกสด ส่งให้ MatteO’s Prawns กลายเป็นอาหารที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอาเซียน เคล้ากลิ่นอายของอิตาลีที่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

 

Sacripantina ราคา 250 บาท

หากจากนิยามจานนี้ให้เข้าใจง่ายก็คือ เค้กส้มแต่ความพิเศษของเค้กส้มนี้คือความนุ่มและกลิ่นหอมเหมือนเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ เค้กชิ้นกำลังดีกับครีมสดที่ถูกปาดด้านบนคู่กับฝานส้มที่ถูกตกแต่งให้โดดเด่น หากตัดชิ้นเค้กเตรียมรับประทาน ให้นำเนื้อเค้กปาดแยมส้มสูตรพิเศษที่อยู่ด้านข้าง ก่อนคลุกกับผงช็อกโกแลตเข้มข้นที่โรยอยู่รอบจานเสียก่อน ซึ่งจะได้รสชาติความหวานที่กลมกล่อมในทุกคำ

 

La Cupola ราคา 250 บาท

La Cupola ของหวานสุดพิถีพิถันเอาใจคอช็อกโกแลต ส่วนผสมหลากหลายทั้งดาร์กช็อกโกแลต เหล้ารัม วิสกี้ ถูกตีให้เข้ากันก่อนเคลือบด้วยโดมช็อกโกแลตอีกชั้น ส่วนด้านบนโรยด้วยแผ่นไวต์ช็อกโกแลตกับผงโกโก้ เมื่อเคาะโดมออกมาให้กินคู่กับซอสคาราเมล และเมล็ดกาแฟเคลือบช็อกโกแลต ด้วยส่วนผสมที่ลงตัว มูสช็อกโกแลตนุ่มละมุน กลิ่นหอมของคาราเมลและความกรุบกรอบของเมล็ดกาแฟ เชื่อได้ว่าจะต้องถูกใจเหล่าช็อกโกแลตเลิฟเวอร์อย่างแน่นอน

 

หลังจากของคาวและหวานทางร้านเสิร์ฟสปาร์กกลิ้งไวน์ วอดก้า เลมอนปั่น เพื่อดื่มล้างปากเรียกความสดชื่นเป็นการทิ้งท้าย

Fact Box

Beluga Bangkok

ที่อยู่: 726 ซอยสวนพลู กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์: 06-5285-2697

เฟซบุ๊ก: Beluga Bangkok

เปิดบริการ: ทุกวัน เวลา 17.00-22.45 .

Tags: , ,