‘Cairo Bangkok’ ลิ้มรสอาหารอียิปต์แบบดั้งเดิม รสชาติกินง่าย กลมกล่อม เนื้อสัตว์อร่อย

จุดเริ่มต้นของ Cairo Bangkok เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ อาเหม็ด (Ahmed) ชาวอียิปต์ที่หลงใหลในวัฒนธรรมการกินของอาหารบ้านเกิด ที่หวังจะนำเสนอรสชาติแบบดั้งเดิมของอาหารอียิปต์ให้กับชาวไทยที่อยากสัมผัสประสบการณ์ทางอาหารอีกรูปแบบหนึ่งได้มาลิ้มลอง และรองรับชาวอียิปต์ที่อยากกินอาหารรสชาติบ้านเกิดของตนในประเทศไทย

อาหารอียิปต์แท้จริงเป็นอย่างไร

เรื่องนี้อาเหม็ดเล่าให้ฟังว่า อียิปต์เป็นประเทศที่สืบทอดวัฒนธรรมมาจากอารยธรรมเมโสโปเตเมีย เริ่มต้นขึ้นในตะวันออกกลาง และเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงทำให้มีวัฒนธรรมการกินแบบเน้นแป้ง เนื้อสัตว์ และปรุงด้วยเครื่องเทศ

โดยในส่วนอาหารของอียิปต์เองนั้น เท่าที่มีการค้นพบในภาพเฮียโรกลิฟฟิก (Hieroglyphics) ในสุสานประเทศอียิปต์ จะปรากฏพฤติกรรมของชาวอียิปต์ยุคโบราณที่กินขนมปังทำจากแป้ง อาจถือได้ว่าขนมปังเป็นอาหารชนิดแรกที่เกิดขึ้นในประเทศอียิปต์

ต่อมาเมื่อสังคมอียิปต์มีการแบ่งชนชั้นการปกครองและเริ่มเข้าถึงแหล่งอาหารเพิ่มขึ้น ในวรรณะกษัตริย์จะเริ่มนำเนื้อสัตว์มาปรุงเป็นอาหาร ซึ่งจะมีเพียงกษัตริย์และราชวงศ์เท่านั้นได้กินอาหารประเภทนี้ ส่วนวรรณะรองลงมาก็จะได้กินอาหารประเภทถั่ว ธัญพืช และแป้งตามลำดับ

เป็นเหตุผลให้ในปัจจุบันที่เรื่องวรรณะการปกครองไม่มีแล้ว อาหารทั้งหมดจึงผนวกรวมกัน เป็นเมนูที่มีทั้งแป้ง เนื้อสัตว์ ธัญพืช และเครื่องเทศ อยู่ในจานเดียวกัน 

ต้องรสชาติแบบไหน จึงจะถือว่าอาหารอียิปต์จานนี้อร่อย

สำหรับ Cairo Bangkok จะให้ความสำคัญกับการสมดุลเครื่องเทศให้มีรสชาติที่ชัดเจนและมีกลิ่นหอม ไม่รู้สึกว่ารสสัมผัสมันหนักหรือบางจนเกินไป รวมไปถึงวิธีจัดการกับเนื้อสัตว์ที่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีย่างและตุ๋นเนื้อสัตว์  ทำให้ปกติแล้วตัวเนื้อจะออกมาแห้ง ดังนั้นจึงต้องมีวิธีที่ทำให้เนื้อออกมานุ่ม เปื่อย และเข้าถึงเครื่องเทศมากที่สุด 

ทำไมอาหารอียิปต์ถึงเสิร์ฟมาในปริมาณที่เยอะและใหญ่

คำตอบคือ เป็นเพราะวัฒนธรรมการกินอาหารของคนอียิปต์จะกินกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งจำนวนสมาชิกของครอบครัวที่มากเป็นพิเศษ และสรีระร่างกายที่ใหญ่กว่าชาวเอเชียโดยเฉลี่ย จึงทำให้ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อของชาวอียิปต์จึงต้องมีหลากหลายประเภท และเสิร์ฟในปริมาณที่มาก 

โดยใน 1 มื้อของชาวอียิปต์ จะมีลำดับขั้นตอนการกินชัดเจนตั้งแต่การกิน เมนูเรียกน้ำย่อย (Appetizer), สลัด (Salad), อาหารจานหลัก (Main course) และของหวาน (Dessert)

โดยเมนูในวันนี้ Cairo Bangkok เริ่มด้วย Mix Appetizer เป็นเครื่องเคียงหลากหลายชนิดเสิร์ฟพร้อมกับ Garlic Naan ร้อนๆ กลิ่นกระเทียมชัดเจน คอยรับกับรสชาติเปรี้ยว หวาน มัน ในเครื่องเคียงได้เป็นอย่างดี หรือหากใครอยากกินเป็นข้าว ทางร้านก็เสิร์ฟข้าวมันดี (Mandi) และ ข้าวบุคารี (Bukhari) มาให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งข้าวประเภทหลังจะมีรสชาติที่ไม่หนักมาก สามารถกินร่วมกับเมนูอื่นๆ ได้อย่างลงตัว 

ก่อนที่เมนูต่อไปจะเสิร์ฟเป็น Hawawshi พายสอดไส้เนื้อแกะและผัก ตัดแบ่งมาเป็นชิ้นพอดีคำ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยก่อนจะเริ่มอาหารจานหลักที่รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น

สำหรับเมนูประเภทซุปและแกง ทางร้านนำเสนอ Dawood basha ที่นำเนื้อแกะบดมาปั้นเป็นลูกบอล เคี่ยวรวมกับมะเขือเทศและเครื่องเทศของทางร้าน จนได้เป็นซุปที่รสชาติเข้มข้นแต่ไม่เลี่ยน อีกทั้งยังได้รสชาติของเนื้อแกะในซุปอย่างชัดเจน

อีกเมนูที่น่าสนใจคือ Pasta Bachamel ที่จะนำเส้นพาเน่มาอบพร้อมกับเนื้อแกะ พร้อมราดซอสครีมและโรยหน้าด้วยชีส กลายเป็นเมนูหลากรสสัมผัส แต่รสชาติยังสอดคล้องคอนเซปต์หลักของร้าน ที่ต้องกลมกล่อมในทุกเมนู

สุดท้ายคือเมนูจานหลักของวันนี้อย่าง Mix grill เมนูเนื้อแกะและไก่ โดยตัวเนื้อยังคงความฉ่ำ มัน ละลายในปากเอาไว้อย่างครบถ้วน และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นจากเนื้อสัตว์เลยแม้แต่น้อย

หลังจากกินอาหารจานหลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟเมนูของหวานโดยเริ่มจาก Karak tea ชานมร้อน รสชาติหวานแต่ยังคงได้กลิ่นของนมชัดเจน 

รวมไปถึง Umm Ali พุดดิ้งขนมปัง ผสมกับนมและครีม โรยด้วยถั่วชนิดต่างๆ รสชาติหวานมันอีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสของถั่วตัดกับความนุ่มของตัวพุดดิ้งได้เป็นอย่างดี

สำหรับความท้าทายการเปิดร้านอาหารอียิปต์ในประเทศไทย Cairo Bangkok มองว่าคือการทำให้คนไทยเปิดใจในอาหารอียิปต์ อาจเพราะด้วยความเชื่อหรือประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนมองว่าอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อแกะ เนื้อแพะ และเครื่องเทศ ต้องมีรสชาติที่หนัก เข้มข้น มีกลิ่นฉุน จนรู้สึกว่าเป็นอาหารที่กินยาก ทั้งที่ในความเป็นจริง หากมีความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบและมีวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสม ก็จะได้อาหารอิยิปต์รสชาติถูกปาก รับประทานได้ทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน 

ดังนั้นหากใครสนใจอยากลองกินอาหารอียิปต์รสชาติดั้งเดิมที่อร่อย ถูกปาก รสชาติกลมกล่อม Cairo Bangkok ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนไทยสามารถไปลิ้มลองได้