‘เสียงดนตรีร็อกที่ดังกระหึ่ม บรรยากาศสีแดงสดสว่างวาบไปทั้งร้าน และการตกแต่งที่จัดจ้านราวกับเป็นห้องหนึ่งในคฤหาสน์ของแวมไพร์’

ทั้งหมดนี้คือบรรยากาศที่เกิดขึ้นใน Bar DUSK บาร์แห่งใหม่สไตล์ร็อก-เมทัล ย่านอารีย์ ก่อตั้งโดย รติพร ชัยปิยะพร, กษิติ สังข์กุล และกชณช เถียนชินวรา ภายใต้คอนเซปต์ที่เรียบง่ายและมีเพียงอย่างเดียวคือเป็น ‘สถานที่สำหรับพบปะของกลุ่มคนรักดนตรีร็อก’

ซิกเนเจอร์หลักของบาร์แห่งนี้จึงไม่ใช่เครื่องดื่มสูตรพิเศษ หรืออาหารรสเลิศ แต่เป็นเพลย์ลิสต์ดนตรีในแต่ละวัน ที่คัดสรรจนมั่นใจว่าสามารถตอบสนองคอดนตรีร็อกได้อย่างครบถ้วน ซึ่งมีตั้งแต่ Classic Rock, J-Rock ไปจนถึง Black Metal ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน

คอลัมน์ Out and About ชวนผู้อ่านไปสัมผัสประสบการณ์ กิน ดื่ม เที่ยว ในแบบของชาวร็อก ที่นอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับอาหาร และเพลิดเพลินกับบรรยากาศ ยังได้สัมผัสคอมมูนิตี้ชาวร็อกที่เข้ามาพบปะแลกเปลี่ยนบทสนทนาภายใต้บาร์เล็กๆ แห่งนี้

จากความชอบในดนตรีร็อก สู่ความตั้งใจสร้างพื้นที่คอมมูนิตี้แบบเดียวกัน

Bar Dusk เกิดจากความคับแค้นใจเป็นการส่วนตัวของเจ้าของร้านทั้ง 3 คน ที่หาบาร์เปิดเพลงเฉพาะทางโดยเฉพาะเพลงร็อกแขนงต่างๆ ได้ยากในประเทศไทย ดังนั้นในวันที่พวกเขาได้เจอกัน และพบว่ามีรสนิยมการฟังเพลงแบบเดียวกัน จึงนำไปสู่การพูดคุยต่อยอดว่าจะเปิดบาร์ร็อก-เมทัล สำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบดนตรีร็อกโดยเฉพาะ

“มันไม่เคยมีร้านแบบนี้มาก่อน คือร้านที่เปิดเพลงร็อกดนตรีหนักมากๆ แบบหนึ่งคืน หนึ่งแนวเพลง ซึ่งเป็นคอนเซปต์ที่เราตั้งใจแต่แรก เพราะอยากให้คนที่ชอบเพลงแนวนี้มาที่บาร์และได้ฟังสิ่งที่เขาชอบ” กษิติกล่าว

ปัจจุบัน กษิติและรติพรทำหน้าที่เลือกแนวดนตรีเปิดสลับกันไปในแต่ละคืน ซึ่งจะมีทั้งแนว Black Metal, Industrial Rock, Hard Rock, Classic Rock, J-Rock และอื่นๆ ที่จะเพิ่มขึ้นมาในอนาคต ส่วนกชณชจะรับหน้าที่ดูแลระบบต่างๆ หลังร้าน เพื่อให้กิจการเติบโตและสร้างกำไรได้

นิยามของคำว่า Rock Bar และ Metal Bar

เจ้าของร้านทั้งสามมองว่า ข้อแรกคือแนวทางดนตรีต้องชัดเจนว่าเป็นร้านที่เปิดดนตรีร็อกและเมทัล ดังนั้นพระเอกของบาร์ประเภทนี้รวมไปถึง Bar Dusk จึงไม่ใช่เครื่องดื่มแต่เป็นดนตรี

อีกส่วนที่สำคัญคือการสื่อสารและบทสนทนาในร้าน โดยเฉพาะ Bar Dusk ที่สร้างขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อดึงผู้คนที่มีรสนิยมทางดนตรีแบบเดียวกัน ให้มาพบเจอกัน จนเกิดเป็นการแลกเปลี่ยน แบ่งปันเรื่องเล่า ทำให้สังคมของดนตรีร็อกและเมทัลมีจุดศูนย์รวม และต่อยอดออกไปได้มากขึ้น ดังนั้นเรื่องการเปิดเพลงเฉพาะกลุ่มแล้วลูกค้าจะน้อยจึงไม่ใช่ปัญหาที่ทั้งสามกังวล

ซึ่งหลังจากเปิดร้านมาได้ระยะหนึ่งก็พิสูจน์ได้แล้วว่า มีคนจำนวนมากกำลังโหยหาบาร์ประเภทนี้อยู่

บาร์ที่ให้ความสำคัญกับการพูดคุย

ด้วยคอนเซปต์ของ Bar Dusk จึงเป็นเรื่องปกติมากที่ในแต่ละวัน ลูกค้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อนกลับนั่งพูดคุยกันอย่างออกรสอยู่ภายในร้าน เพราะรสนิยมที่คล้ายคลึงกัน จึงง่ายที่บทสนทนาจะลื่นไหลไปได้ตลอดทั้งคืน

แน่นอนว่า ‘บาร์เทนเดอร์’ และ ‘เจ้าของร้าน’ ก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้บทสนทนาคละคลุ้งอยู่ในร้าน เพราะทั้งสามตั้งใจให้ Bar Dusk เป็นบาร์สไตล์ญี่ปุ่นที่ลูกค้าสามารถพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ได้ ซึ่งลูกค้าหลายคนเปิดใจว่า พวกเขารอบาร์แบบนี้เปิดในไทยมานานแล้ว จากที่ฟังเพลงอยู่ในบ้านคนเดียว วันนี้ก็ได้ออกมาฟังในสถานที่และบรรยากาศแปลกใหม่ ได้เจอผู้คน และได้รู้ว่ายังมีคนชอบเพลงแนวเดียวกับตนเองอยู่

นอกจากเสียงดนตรี บรรยากาศ และบทสนทนาแล้ว Bar Dusk ยังมีเมนูซิกเนเจอร์ 2 อย่างคือ

Vampire’s Tears – เครื่องดื่มที่ได้คอนเซปต์มาจากน้ำตาของแวมไพร์ เสิร์ฟเป็นเนโกรนี (Negroni) ผสมกับจินส้ม แต่งสีและกลิ่นด้วยสตรอว์เบอร์รี กลายเป็นเครื่องดื่มสีแดงสด แต่รสออกหวานดื่มง่าย

Metallic Dream – เครื่องดื่มสีดำที่สร้างสรรค์มาล้อกับ Vampire’s Tears ที่มีสีแดงและมีจำหน่ายก่อนหน้า จึงเกิดเป็นวอดก้าผสมกับเหล้ารัม เพิ่มรสด้วยลิเคียวร์ (Liqueur) บลูเบอร์รี ได้ผลลัพธ์ที่รสชาติหนักแน่นและเตะปาก เข้มไม่แพ้สีของเครื่องดื่มแก้วนี้แม้แต่น้อย

ส่วนทางด้านอาหาร Bar Dusk มีสเต๊กเนื้อชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟพร้อมกับกระเทียมและพริกไทยไว้บริการด้วยเช่นกัน

Vampire Theme

นอกจากแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อมองไปรอบร้านจะพบว่าบรรยากาศทั้งหมดปกคลุมไปด้วยสีแดงสด และผนังติดของตกแต่งเกี่ยวกับแวมไพร์เป็นจำนวนมาก

จุดนี้เป็นความตั้งใจของรติพรที่อยากให้บาร์มีสีแดงเป็นธีมหลัก และสอดแทรกด้วยเรื่องราวของแวมไพร์ที่เข้ากับดนตรีร็อกหลากหลายแนว ทั้งหมดนี้เพื่อให้บรรยากาศของบาร์ดูมีความสง่างามอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ดูดิบจนเกินไปแบบที่บาร์ร็อกส่วนใหญ่เป็น

บาร์ที่ยืนยันว่าจะไม่มีดนตรีสด

Bar Dusk ยืนยันว่าจะไม่มีดนตรีสดในร้าน เหตุผลข้อแรกคือด้วยแนวเพลงที่เอ็กซ์ตรีม เฉพาะทางมาก จึงเป็นเรื่องยากในการหาวงดนตรีที่เล่นเพลงแนวนี้มาเล่น ข้อต่อมาคือบาร์แห่งนี้ต้องการเปิดพื้นที่ให้คนที่เข้ามาได้พูดคุยระหว่างกันมากกว่าจดจ่ออยู่กับวงดนตรีสดที่เล่นอยู่ตรงหน้า และสุดท้ายคือทั้งสามยังเชื่อว่าลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่อยากฟังเพลงร็อกแบบออริจินัล ที่เล่นโดยวงดนตรีที่พวกเขารักและชื่นชอบมากกว่า

คนไม่ฟังเพลงร็อกมา Bar Dusk ได้ไหม

ถือเป็นคำถามที่ Bar Dusk ต้องตอบลูกค้าบ่อยมากที่สุดคำถามหนึ่ง ซึ่งทั้งสามยืนยันว่ามาได้แน่นอน โดยที่ผ่านมามีหลายคนทักไปทางเพจเฟซบุ๊กของร้านว่า ตนไม่ได้เป็นคนฟังดนตรีร็อก แต่อยากลองมาที่ Bar Dusk ซึ่งทางร้านก็จะแนะนำให้เริ่มมาในวันที่เปิดดนตรีร็อกที่ไม่หนักมาก เช่น Classic Rock หากชื่นชอบและติดใจก็มาวันที่เปิดแนวดนตรีที่หนักมากขึ้นได้

สำหรับการทำร้านที่ตรงตามแพซชั่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ Bar Dusk สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องมีคือความหนักแน่นในแนวทาง ไม่สนใจข้อครหาอื่นใดจากใครอื่น อีกทั้งต้องเป็นผู้ริเริ่มและทดลองอะไรบางอย่างด้วยความเชื่อมั่น ซึ่งเมื่อร้านถ่ายทอดสิ่งนี้ออกมาได้ ลูกค้าที่เข้ามาก็จะเชื่อในตัวร้านและเจ้าของ และสุดท้ายจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันมาพบเจอกันได้ในท้ายที่สุด

Fact Box

Bar Dusk เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ ร้านตั้งอยู่ชั้น 2 ของโครงการ The HUB Phahol – Ari สามารถดูตารางการเปิดเพลงและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่เฟซบุ๊กเพจ Bar DUSK หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-1309-1867

Tags: , , , , , , ,