คณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด นำโดย เรวัติ ฉ่ำเฉลิม ประธานกรรมการ, ธงทอง จันทรางศุ กรรมการ รวมถึง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ในขณะนั้น ร่วมกันแถลงข่าวระงับสัญญาเช่าเวลาการจัดรายการ ‘เมืองไทยรายสัปดาห์’ ซึ่งจัดรายการโดย สนธิ ลิ้มทองกุล และ สโรชา พรอุดมศักดิ์ และปลดรายการออกจากผัง โดยให้มีผลทันที 

คณะกรรมการอสมท ให้เหตุผลว่าเนื้อหาของรายการมักพาดพิงบุคคลภายนอกในลักษณะกล่าวอ้างฝ่ายเดียว โดยไม่เปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบชี้แจง อีกทั้งตลอด 1 เดือนท่านมา สนธิ ยังได้กล่าวอ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์หลายครั้ง

เช่น ในกรณีของรายการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 มีการพูดถึงกรณีการแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เป็นรักษาการสมเด็จพระสังฆราชนั้น เป็นการละเมิด หรือขัดพระราชอำนาจ รวมถึงยังมีการอ่านบทความไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน เรื่อง ‘พ่อของแผ่นดิน’ พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในรายการ โดยเมื่อผู้บริหาร อสมท. ได้เข้าหารือกับนายอาสา สารสิน ราชเลขาธิการในขณะนั้น ก็ได้รับการยืนยันว่า สถาบันฯ และ สำนักราชเลขาธิการนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างที่สนธิกล่าวอ้าง จึงได้ปลดรายการออกจากผัง

ทั้งนี้ รายการ ‘เมืองไทยรายสัปดาห์’ เริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2546 โดยในตอนแรก สนธิ มักกล่าวชื่นชม ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ครั้งหนึ่ง ในปี 2547 สนธิ เคยกล่าวชื่นชมทักษิณว่า ทักษิณ เป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา

แต่ในระยะหลัง เกิดความขัดแย้งระหว่าง สนธิ และ ทักษิณ ในหลายเรื่อง โดยสนธิ โจมตีทักษิณในรายการ ทั้งเรื่องการไม่ต่ออายุกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารกรุงไทยในเวลานั้น หรือเรื่องการแต่งตั้ง ‘สมเด็จฯ เกี่ยว’ ขึ้นมาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราช ทรงพระประชวร ซึ่งสนธิ รวมถึง หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ในเวลานั้น ไม่เห็นด้วย 

9 กันยายน 2548 สนธิ ได้อ่านข้อเขียนเรื่อง ‘ลูกแกะหลงทาง’ ออกอากาศในรายการ ตอนหนึ่ง เปรียบเทียบ ‘ทักษิณ’ เป็นลูกแกะหลงทาง เนื้อความว่า 

“ลัทธิรวยแล้วโก้ รวยแล้วเท่ รวยแล้วกร่างก็เริ่มแพร่หลายในสังคม จากลูกแกะเซื่องที่มาจากศรัทธาของพี่น้อง ไหว้แม้แต่พี่น้องที่อาศัยอยู่ข้างถนน กลายเป็นคนใจร้อน กำแหง เกรี้ยวกราดกับทุกคน จากคนเดิมๆ ที่พ่อยอมให้เข้ามาบริหารครอบครัวแม้มีความไม่โปร่งใสในทรัพย์สิน จากผู้นอบน้อมกลายเป็นศาสดาซึ่งมอบความกลัว ความเกลียดชัง การหยาบหลู่และข้อกล่าวหาว่าโง่ แก่พี่น้องทุกคนที่เห็นตรงกันข้าม กลายเป็นศาสดาที่กำแหงถึงขนาดกล้าชี้ผิดชี้ถูก รุกคืบในสิทธิมนุษยชนของพี่น้องคนอื่นๆ เข้าไปในความคิด ในวิถีชีวิตของพี่น้องอีก 60 ล้านคน  

“จากผู้ที่ดูเหมือนจะบริสุทธิ์ผุดผ่องกลายเป็นบุคคลปริศนาที่ไม่ยอมตอบคำถามใด กลัวการตอบคำถาม และยึดครองสมบัติของครอบครัวเป็นของตนแต่ผู้เดียว พ่อบอกว่าพ่อเกลียดคนโกง ลูกแกะหลงทางบอกว่าไม่ต้องตรวจสอบผมรับประกัน ผมใหญ่ที่สุดแล้วในครอบครัว ถ้าใครมีปัญหาระวังจะไม่มีงานทำ

“พ่อบอกว่า นี่คือลูกที่ดีของฉัน ลูกชายผู้หลงผิดบอกว่าต้องขับออกจากพรรค พ่อบอกว่าเราควรมีเศรษฐกิจแบบพอเพียง พวกลูกแกะหลงทางกลับบอกว่าจะเอาอะไรกินเราไปอยู่กระต๊อบกันดีไหมพวกโง่ทั้งหลาย พ่อบอกว่าเราต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน ก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน ลูกแกะหลงทางขายสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อทำกำไรแก่คณะตนเอง ลามไปถึงการจัดกองกำลังคุ้มกันบ้าน ลูกแกะหลงทางกล่าวกำแหง ผมจะเอาคนนี้ คนนั้นใครเปลี่ยนไม่ได้เพราะพ่อต้องอยู่ใต้กฎบ้าน ลูกแกะคนโตยังหลงทางต่อไป ต่อไป และต่อไป”

“ลูกๆ ทั้งหลายตื่นเถิด ตาสว่างได้แล้วชีวิตนี้ของพวกท่านเป็นของพ่อโดยที่ไม่ต้องมีกฎใดๆ มารองรับ กราบแทบเท้าพ่อของแผ่นดิน”

สนธิ แถลงข่าวภายหลังถูกถอดรายการว่า เลือกบทความดังกล่าวมาอ่านในฐานะ ‘ข้าของแผ่นดิน’ และ  สาธุชนที่ได้รับทราบข้อความเรื่องพ่อของแผ่นดินก็จะเห็นว่า เป็นบทความที่ลึกซึ้ง มีธรรมอยู่ในบทความนั้น และก็เป็นที่ประทับใจและก็เป็นสิ่งที่ทุกคนก็เห็นด้วยกับบทความเหล่านั้นเช่นกัน 

หลังถูกปลดรายการออกจากผัง สนธิ ได้จัดรายการ ‘เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร’ หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 23 กันยายน 2548 และยังได้ย้ายไปจัดรายการที่ สวนลุมพินี อีกหลายครั้ง ก่อนจะเคลื่อนไหวในนามกลุ่ม ‘พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย’ ร่วมกับแกนนำคนอื่น อาทิ พลตรี จำลอง ศรีเมือง, พิภพ ธงไชย, สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, สุริยะใส กตะศิลา, สมศักดิ์ โกศัยสุข โดยสวมเสื้อสีเหลืองพร้อมข้อความว่า ‘เราจะสู้เพื่อในหลวง’ โจมตีการ ‘คอร์รัปชัน’ ของทักษิณ ในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะการขายหุ้นชินคอร์ป ให้กับบริษัท เทมาเสก ของประเทศสิงคโปร์ รวมถึงพฤติกรรมของทักษิณ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ ‘ปฏิญญาฟินแลนด์’ ที่รัฐบาลทักษิณ และคณะรัฐมนตรีหลายคนซึ่งเป็น ‘คนเดือนตุลา’ ต้องการลดทอนพระราชอำนาจของสถาบันฯ ให้เหลือเพียงพิธีกรรมเท่านั้น

การชุมนุมของ สนธิ และพันธมิตรฯ กลายเป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งในการรัฐประหาร 19กันยายน 2549 ซึ่งหนึ่งเหตุผลที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) อ้างถึง ในประกาศคณะรัฐประหารฉบับที่ 1 ก็คือ รัฐบาลของทักษิณนั้น “มีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของปวงชนชาวไทยอยู่บ่อยครั้ง”

และที่สำคัญ การถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ยังเป็นต้นกำเนิดของการเมืองว่าด้วยความขัดแย้งเรื่อง ‘สีเสื้อ’ และจุดศูนย์กลางว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ยังดำรงอยู่เรื่อยมา จนถึงวันนี้ ผ่านมานานกว่า 16 ปี สังคมไทย ก็ยังคงหาทางออกจากวังวนนี้ไม่สำเร็จ…

ที่มา 

https://mgronline.com/daily/detail/9480000126498

https://www.youtube.com/watch?v=F-vJ6Ji8nWk&t=1s

Tags: , ,