เราอาจจะคุ้นลิ้นกับซิงเกิลมอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ ที่มีกลิ่นสโมค สไปซี และวนิลา มากกว่าจะมีกลิ่นความเค็มอ่อนๆ จากไอทะเล อันเป็นเอกลักษณ์ของ โอลด์ พุลท์นีย์ (Old Pulteney) ซิงเกิลมอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ แบรนด์เก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1826 ที่เมืองวิค (Wick) เมืองชายฝั่งไฮแลนด์ของสกอตแลนด์
แต่เพราะกลิ่นไอทะเลนี่แหละ ที่ทำให้ โอลด์ พุลท์นีย์ มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร จนได้รับฉายาว่า Maritime Malt หรือมอลต์แห่งท้องทะเล อันเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงแหล่งกำเนิด เพราะโรงกลั่นของโอลด์ พุลท์นีย์ นอกจากจะตั้งอยู่บนที่ราบสูงแล้ว ยังอยู่ติดกับชายฝั่งแคทเนส (Caithness) ทำให้มีลมทะเลพัดผ่านโรงบ่มจนรสชาติวิสกี้มีกลิ่นความเค็มจากทะเล
มัลคอล์ม แวร์ริง (Malcolm Waring) ผู้จัดการโรงกลั่น
มัลคอล์ม แวร์ริง (Malcolm Waring) ผู้จัดการโรงกลั่น หัวเรือใหญ่ที่เปรียบเสมือนเชฟผู้ปรุงรสชาติซิงเกิลมอลต์ให้กลมกล่อม และถูกปากนักดื่มในแต่ละยุคสมัย
เขาเป็นคนเมืองวิคโดยกำเนิด เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนักต่อเรือ ก่อนเข้ามาทำงานกับโอลด์ พุลท์นีย์ ในปี 1990 รับผิดชอบทุกกระบวนการทำงานในโรงกลั่นตั้งแต่การบ่ม การผสม ไปจนถึงการกลั่น และด้วยประสบการณ์และการสร้างสรรค์วิสกี้ จึงได้เลื่อนขั้นเป็น Brewing Manager จนปี 2000 เขาย้ายไปทำงานเป็นผู้จัดการโรงกลั่น Knockdhu โดยดูแลการผลิตภายใต้แบรนด์ anCnoc เป็นเวลานานถึง 6 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานเป็นผู้จัดการโรงกลั่นพุลท์นีย์ในปี 2006 จนถึงปัจจุบัน
มัลคอล์มเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่หลงใหลในวิสกี้ เขาแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบประจำชาติของสกอตแลนด์พร้อมหอบหิ้ว โอลด์ พุลท์นีย์ คอลเลกชั่นใหม่ 4 รุ่นมาให้เราได้ลิ้มลอง
โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 12 ปี
ตัวแรกเป็น โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 12 ปี ถือเป็นรุ่นซิกเนเจอร์ก็ว่าได้ สำหรับตัวปี 2019 บ่มในถังไม้โอ๊คอเมริกัน Bourbon มีสีเข้มชัดเจน ให้รสชาติคลาสสิกจากวนิลาและคาราเมล หอมกลิ่นซิตรัสอ่อนๆ และโดดเด่นด้วยความเค็มจากไอทะเล เหมาะกับคนที่ยังไม่เคยดื่มโอลด์ พุลท์นีย์ และอยากรู้จักแบบรวดเร็ว
โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น Huddart
ตัวที่สองเป็น โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น Huddart โดยความพิเศษของรุ่นนี้คือตั้งชื่อตามถนนที่ตั้งโรงกลั่นของโอลด์ พุลท์นีย์ และใช้การบ่มถึง 2 ถังด้วยกัน ได้แก่ ถังไม้โอ๊คอเมริกัน Bourbon และจบด้วยถัง ex-peated cask ทำให้มีกลิ่นและรสชาติที่ซับซ้อนกว่าตัวแรก โดยจะได้กลิ่นสโมคชัดเจน แต่บอดี้จะได้ความเป็นฟรุตตี้ หอมหวาน แต่อาจจะแสบคอเล็กน้อย และจบด้วยความสไปซีในช่วงท้าย
โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 15 ปี
ตัวที่สามเป็น โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 15 ปี จะมีสีใสกว่าสองตัวแรก แต่บอดี้มีความหนักแน่น รสชาติค่อนข้างนุ่มนวลดื่มง่าย เราได้กลิ่นผลไม้หลายชนิด ช็อกโกแลต และรู้สึกได้ถึงความหวานของน้ำผึ้ง มีความอโรมาจากกลิ่นวนิลา หลังจากดื่มเรารู้สึกได้ถึงความเร่าร้อน รสชาติไม่กระแทกคอเท่าสองตัวแรก ดื่มง่าย และรสชาติติดทนนานกว่า
โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 18 ปี
ตัวที่สี่เป็น โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 18 ปี มีความซับซ้อนมากที่สุดในแง่ของรสชาติ เนื่องจากบ่มในถังไม้โอ๊คอเมริกันและถังไม้เชอร์รีสเปน บอดี้มีความแน่นและเข้มข้น ขณะเดียวกันก็ได้กลิ่นช็อกโกแลต วนิลา และน้ำผึ้ง แถมยังได้กลิ่นเครื่องเทศหอมๆ จบด้วยความสไปซี
ทั้ง 4 รุ่นเป็นคอลเลกชันใหม่ในปี 2019 ที่มีคาแรกเตอร์แตกต่างกัน เราแนะนำว่าอยากรู้จักวิสกี้แบบโอลด์ พุลท์นีย์ให้ลองดื่มรุ่น 12 ปี เพราะจะได้กลิ่นไอเค็มจากทะเลแบบชัดเจน ส่วนคนที่ชอบความนุ่มนวล เน้นดื่มง่ายเราแนะนำเป็นรุ่น 15 ปี ส่วนรุ่น Huddart และ 18 ปี เหมาะกับคนที่ชอบความร้อนแรง รู้สึกได้ถึงบอดี้ที่หนักแน่นและกระแทกคอ
Fact Box
- โอลด์ พุลท์นีย์ เป็นซิงเกิลมอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ ที่มีความเฉพาะตัวแบรนด์หนึ่งในโลก โดยโรงกลั่นก่อตั้งขึ้นในปี 1826 ใจกลางเมืองวิค ย่านพุลท์นีย์ เมืองชายฝั่งไฮแลนด์ของสกอตแลนด์ ซึ่งในตอนนั้นเมืองวิคถือเป็นเมืองท่าเรือประมงขนาดใหญ่ และเป็นที่รู้จักในนามเมืองหลวงแห่งปลาแฮร์ริง
- เนื่องจากโรงกลั่นตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งแคทเนส (Caithness) ทำให้ลมทะเลพัดผ่านโรงกลั่น ส่งผลต่อรสชาติของวิสกี้ที่ได้กลิ่นอายทะเล จนได้ฉายาว่าได้รับฉายาว่า Maritime Malt หรือมอลต์แห่งท้องทะเล
- มัลคอล์ม แวร์ริง เป็นผู้จัดการโรงกลั่นของโอลด์ พุลท์นีย์มานานหลายสิบปี ด้วยหัวใจในการทำงานที่ต้องรักษามาตรฐานในทุกคอลเลกชัน
- โอลด์ พุลท์นีย์ รุ่น 15 ปี เพิ่งได้คะแนนสูงถึง 95.5 จาก Whisky Bible 2019 โดย Jim Murray (จิม เมอร์เรย์) กูรูด้านวิสกี้ระดับโลก