นิสสันถือเป็นค่ายรถยนต์รายแรกที่นำเสนอรถอีโคคาร์ประหยัดน้ำมัน โดยในปี 2010 นิสสัน มาร์ช รถอีโคคาร์คันแรกก็ออกสู่ท้องถนน จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สร้างยอดขายถล่มทลาย หลังจากนั้นตลาดรถอีโคคาร์ก็มีแต่โตกับโต

แต่ถ้าพูดถึงรถอีโคคาร์แล้วบอกว่าประหยัดน้ำมันอย่างเดียว คงฟังดูน่าเบื่อ เพราะนี่มันปี 2018 ที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นรถประหยัดน้ำมัน นิสสันเลยจัดกิจกรรรม Let’s Move พาสื่อมวลชนไปทดสอบสมรรถนะของโน้ตและอัลเมร่าที่จังหวัดตรัง เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่ประหยัดน้ำมัน แต่ขับสนุก มีฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ตอบสนองความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่

แต่ก่อนที่เราจะได้ไปทดสอบสมรรถนะของรถ สุรีทิพย์ โฉมทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยภาพรวมรถอีโคคาร์ของนิสสันว่าแบ่งเป็นสามโมเดล ได้แก่

  1. นิสสัน มาร์ช เน้นกลุ่มนักศึกษาและคนเริ่มทำงาน ในราคาที่จับต้องได้
  2. นิสสัน อัลเมรา เน้นกลุ่มคนมีครอบครัวที่ต้องการรถยนต์ที่มีห้องโดยสารกว้าง ได้ความสะดวกสบาย ในรูปลักษณ์แบบสปอร์ต
  3. นิสสัน โน้ต รถยนต์อเนกประสงค์ เป็นรุ่นพรีเมียมสุด เน้นขับขี่คล่องตัวในเมือง และมีพื้นที่กว้างพอจะขนสัมภาระได้

สำหรับทริปนี้ เราทดลองขับนิสสันโน้ตและอัลเมร่า รุ่นปี 2018 โดยเฉพาะรุ่นโน้ตที่ใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาตั้งแต่ระบบเครื่องเสียงใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง iOS และ Android ผ่านบลูทูธ มีการควบคุมการโทรออก รับส่งข้อความ เล่นเพลง วิดีโอ และมีแอปพลิเคชั่นนำทางที่แม่นยำ

ส่วนระบบความปลอดภัยก็หายห่วงด้วยแนวคิดของ Nissan Intelligent Mobility (NIM) มาครบทั้ง กล้องรอบคัน (Moving Object Detection) กระจกมองหลังแสดงผล (Rear-View Mirror Monitoring) ระบบเตือนภัยเมื่อออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Emergency Braking)

กิจกรรมของทริปนี้แบ่งเป็นสองช่วง เริ่มแรกเป็นการทดสอบสมรรถนะของนิสสันโน้ต ที่ลานสนามกีฬาจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นการทดสอบแบบไดนามิก มีทั้งการฝึกใช้กล้องมองหลังสำหรับเข้าเทียบจอด และกลับรถในพื้นที่แคบๆ รวมไปถึงการขับรถบนเส้นทางคดเคี้ยวเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถมีวงเลี้ยวที่แคบแต่ไม่มีอาการปัดแต่อย่างใด และเบรกในระยะประชิดแม้จะขับมาด้วยความเร็วสูง

ส่วนช่วงสองเป็นกิจกรรมขับรถไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งเราได้ขับรถนิสสัน อัลเมร่า ที่แม้จะไม่ได้มีระบบ Nissan Intelligent Mobility แบบจัดเต็มเท่านิสสัน โน้ต แต่ได้ความกว้างห้องโดยสาร และดีไซน์ที่ดูสปอร์ตมากกว่า โดยเราขับนิสสัน อัลเมร่าได้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดตรัง เช่น วงเวียนปลาพะยูน ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นจังหวัดที่มีปลาพะยูนและช่วยกันอนุรักษ์ไว้ วิหารคริสต์ศาสนาสีเหลืองที่สร้างขึ้นในปี 1915 เป็นหนึ่งใน 20 โบราณสถานของจังหวัด และขับรถออกนอกเมืองไปนั่งชิลล์ที่ ภูหลวง ลูกลม ร้านข้าวแกงพื้นบ้านกลางทุ่งนา ก่อนจะกลับเข้าเมืองปิดทริปกันที่ Gray 18 Cafe ร้านกาแฟสุดชิคของจังหวัดตรัง

นอกจากเรื่องประหยัดน้ำมันแล้ว ทั้งนิสสันโน้ตและอัลเมร่าต่างก็เป็นรถที่ตอบโจทย์คนเมือง ด้วยเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาในตัวรถ ช่วยให้คนขับรถกับรถยนต์ดูเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ฟีเจอร์ต่างๆ ล้วนแต่ช่วยการขับขี่ในเมือง ซึ่งบางครั้งรถใหญ่อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป

Fact Box

  • บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง ฐานการผลิตรถยนต์ 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง มีรถยนต์ในทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่นทั้งอีโคคาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมียมซีดาน กระบะ และรถตู้
  • ปี 2561 นิสสันมีส่วนแบ่งการตลาดในอีโคคาร์อยู่ที่ 21% โดยมียอดขายของโน้ตอยู่ที่ 800-1,000 คัน อัลเมร่าอยู่ที่ 1000-1,800 คัน ส่วนนิสสัน มาร์ช อยู่ที่ 800-1,000 คัน
Tags: , , , ,