คว่ำบาตร เบี้ยวหนี้ เรียกค่าเสียหาย เป็นมาตรการตอบโต้ที่รัฐบาลทรัมป์อาจใช้เล่นงานจีนหลังจากชี้นิ้วโทษปักกิ่งว่าเป็นต้นเหตุทำให้คนอเมริกันเสียชีวิตด้วยไวรัสจ่อหลักแสน นักวิเคราะห์เตือนว่า ถ้าอเมริกาเล่นไม้แข็ง โลกอาจถลำสู่สงครามเย็นรอบใหม่

ในขณะที่กำหนดการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนกำลังงวดเข้าทุกที คาดกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์จะโหมรณรงค์ตำหนิติเตียนจีนหนักขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับโจมตีคู่ท้าชิง โจ ไบเดน ว่า อ่อนปวกเปียกกับจีน 

จนถึงขณะนี้ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 78,000 ราย ติดเชื้อกว่า 1.3 ล้านราย มาตรการป้องกันโรคทำให้คนอเมริกันตกงานแล้ว 20.5 ล้านคน อัตราว่างงานในเดือนเมษายนพุ่งถึง 14.7 เปอร์เซ็นต์ 

ทรัมป์ดูจะตระหนักดีว่า ถ้าตัวเองอยากชนะเลือกตั้ง ถ้าอเมริกาอยากรักษาเหลี่ยมลูกพี่ใหญ่ของโลก งานนี้ต้องมองหาแพะรับบาป 

จีนคือผู้ร้ายแพร่ไวรัส?

เท่าที่ประเมินสุ้มเสียงจากรอบด้าน นักสังเกตการณ์มองกันว่า จีนมีส่วนผิดพลาดในการรับมือ อย่างน้อยในช่วงแรกที่เริ่มพบคนจีนในเมืองอู่ฮั่นติดเชื้อไวรัสคล้ายซาร์ส ซึ่งดูจะมีความพยายามปิดข่าวเพราะกลัวคนแตกตื่น คุณหมอที่เตือนแพทย์พยาบาลให้กักกันโรคก็ถูกปราม 

อย่างไรก็ดี เมื่อไวรัสเริ่มระบาด ผู้คนเริ่มล้มตาย จีนได้ให้ความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก ประเมินความร้ายแรงของแนวโน้มการระบาด และแจ้งเตือนนานาประเทศ ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ค.) ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขของจีน หลี่ปิน ยอมรับว่า ระบบสาธารณสุขของจีนมีจุดอ่อน

ไม่ว่าจีนจะมีส่วนถูกส่วนผิดแค่ไหน อย่างไร คาดกันว่า ทรัมป์ ซึ่งอ้างว่ามีหลักฐานว่าไวรัสมีต้นตอจากห้องแล็บของจีน และกล่าวหาว่าจีนปกปิดข้อมูลการระบาด จะตอบโต้จีนค่อนข้างแน่นอน ส่วนรูปแบบการตอบโต้จะจำกัดขอบเขตอยู่แค่มาตรการทางเศรษฐกิจ หรือมากกว่านั้น ต้องคอยดูกัน 

ฟื้นคืนสงครามการค้า

มาตรการตอบโต้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ สงครามการค้า ทรัมป์พูดเปรยๆ ว่า เขาอาจจะกลับมาขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกครั้ง 

ท่าทีเช่นนี้สร้างความวิตกว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจระอุขึ้นใหม่ ทั้งๆ ที่ทรัมป์กับรองนายกรัฐมนตรีจีน หลิวเหอ ได้ลงนาม “ข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่ง” กันไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ทำเนียบขาว และรอคอยที่จะเจรจารายละเอียดของข้อพิพาทที่ยังค้างคาในระยะต่อไป 

นอกจากข้อตกลงระยะที่หนึ่งอาจกลายเป็นหมันเพราะทรัมป์ฉีกทิ้งแล้ว เกรงกันว่าจีนเองก็อาจเปลี่ยนใจ โควิด-19 ทุบเศรษฐกิจจีนอย่างรุนแรงเช่นกัน จึงยังไม่แน่ชัดว่า ปักกิ่งจะยังคงยึดถือกับคำมั่นที่จะสั่งซื้อสินค้าและบริการของอเมริกันเพิ่มขึ้นจากระดับก่อนหน้าอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้าหรือไม่ จีนจะขอเจรจาใหม่หรือเปล่า 

เรียกค่าปฏิกรรมเชื้อโรค

ทรัมป์ยังบอกเป็นนัยด้วยว่า เขาอาจเรียกร้องค่าเสียหายจากจีน เพราะเหตุว่า “ไวรัสจีน” คร่าชีวิตคนอเมริกัน ทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตอนนี้กำลังมองหาวิธีทำให้จีนต้องชดใช้ 

ส่วนจะใช้วิธีการอย่างไร ค่าปฏิกรรมจะเป็นเท่าไหร่ ผู้นำวอชิงตันยังไม่ระบุ

ราเชล เอสพลิน โอเดล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจากหน่วยงานคลังสมองที่รณรงค์นโยบายการทหารแบบมีขันติธรรม Quincy Institute for Responsible Statecraft ให้ความเห็นว่า ถ้าทรัมป์ฟื้นสงครามการค้า หรือแก้เผ็ดในทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก ตลาดโลก จะยิ่งพังพาบ 

หย่าร้างสองยักษ์เศรษฐกิจ 

มาตรการเอาคืนอีกรูปแบบ คือ คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เลิกค้าขาย เลิกลงทุน หรือถ้าหนักกว่านั้น ตัดขาดระบบเศรษฐกิจของมหาอำนาจทั้งสองออกจากกัน 

แดน บลูเมนธัล ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียศึกษา สถาบันอเมริกันเอ็นเตอร์ไพรส์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. บอกว่า ที่ผ่านมา ทรัมป์ดูจะระมัดระวังที่จะจัดหนักจีน เพราะอเมริกายังต้องพึ่งพาจีนในหลายด้าน แม้กระทั่งหน้ากากอนามัย 

อย่างไรก็ดี ในระยะยาว แวดวงนักการเมืองและสาธารณชนอาจเรียกร้องให้ลดการพึ่งพาจีน หรืออาจไปไกลถึงขั้นแยกทางกันในเชิงเศรษฐกิจ แต่นั่นแปลว่า คนอเมริกันจะต้องยินยอมพร้อมใจที่จะจ่ายแพงขึ้นหากเรียกอุตสาหกรรมอเมริกันกลับบ้านทั้งหมด เลิกซื้อสินค้าเมดอินไชน่า

จุดชนวนสงครามเย็น

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงวิตกว่า วิกฤตการณ์ระดับโลกที่จะตามมาหลังจากเสร็จศึกโควิด-19 อาจบ่มเพาะเชื้อของการคุมเชิงระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ความตึงเครียดระหว่างพันธมิตรของแต่ละฝ่าย ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะปะทุเป็นสงครามร้อน

หยงหวัง ผู้อำนวยการศูนย์อเมริกันศึกษา มหาวิทยาลัยปักกิ่ง บอกว่า ถ้อยคำกล่าวโทษจีนไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ อาจนำไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ แต่ก่อนจีนมองระบบการเมืองของสหรัฐฯ ว่าเชื่อถือได้ แต่ระยะหลังเริ่มไม่แน่ใจแล้ว 

หยงหวังมองว่า วาทกรรมของทรัมป์เป็นเพียงลูกไม้ที่จะปัดป้องให้ตัวเองพ้นจากเสียงวิจารณ์ของประชาชนในเรื่องการรับมือโรคระบาดหลังจากผลโพลชี้ว่า คะแนนนิยมของเขาลดลง ขณะที่ไบเดนเริ่มทำแต้มนำในหลายมลรัฐที่รีพับลิกันกับเดโมแครตผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ 

ขณะที่ฝ่ายอเมริกันโยนบาปให้จีน จนถึงขณะนี้ ผู้นำปักกิ่งยังคงอุบเงียบ ชาวโลกได้เห็นการตอบโต้แค่ในรูปแบบของแอนิเมชั่น ตัวละครซึ่งเป็นตัวต่อเลโก้ 2 ตัวทุ่มเถียงกัน ข้างหนึ่งเป็นเทพีเสรีภาพ ซึ่งหมายถึงผู้นำสหรัฐฯ อีกข้างดูคล้ายหุ่นนักรบดินเผาจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ สวมหน้ากากอนามัย ข้างฝ่ายจีนพยายามบอกว่า ทั้งหมดนี้เป็นความบกพร่องของรัฐบาลอเมริกันเองต่างหาก

ถ้าทั้งสองฝ่ายตอบโต้กันแค่ในระดับข้อมูลข่าวสาร ทำสงครามพีอาร์ประชันภาพลักษณ์กันเฉยๆ โลกคงไม่รุ่มร้อนมากไปกว่านี้.

อ้างอิง:

Reuters via Japan Times, 3 May 2020

USA Today, 5 May 2020 

Reuters, 7 May 2020

BBC News, 10 May 2020 

ภาพ: MANDEL NGAN / AFP

 

Tags: , , ,