วันที่ 4 มิถุนายน ปี 1989 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน รัฐบาลจีนโดยมีเติ้ง เสียวผิง เป็นผู้นำ ได้ใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าปราบปรามนักศึกษา ประชาชน ที่ต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน เรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ โดยการเคลื่อนไหวประท้วงรัฐบาลจีนนั้นเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน 1989 จนถึงต้นเดือนมิถุนายน ในการสลายการชุมนุมครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แต่จนถึงปัจจุปันรัฐบาลจีนไม่เคยเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริง
และในวันครบรอบ 30 ปี ของเหตุการณ์นี้ วันนี้(4 มิย.) ที่ฝั่งตรงข้ามสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพจมนุษยชาติไร้พรมแดน(Humanity Beyond Borders) นำโดย เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมด้วยเพื่อนนิสิต ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวฮ่องกงราว 30 คน เข้าร่วมรำลึกเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังมีอดีตผู้สื่อข่าวชาวไทยที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เล่าถึงเหตุการณ์ขณะนั้นให้ผู้ร่วมกิจกรรมฟัง
เนติวิทย์ ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ระบุว่า การต่อสู้ของชาวจีนที่จตุรัสเทียนอันเหมินเป็นตัวแบบของจิตวิญญานที่แข็งแกร่ง การเสียสละ และการไม่ยอมแพ้ การมาในวันนี้เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์การใช้ความรุนแรงที่โหดเหี้ยมของรัฐบาลจีน และต่อหน้าสถานทูตจีน ทางกลุ่มขอประฌามการใช้กำลังทหาร อาวุธปืน ของรัฐบาลจีนในขณะนั้น และขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีนขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอให้รัฐบาลจีนเคารพและให้เสรีภาพกับประชาชน ยุตินโยบายและการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกกรณี รวมถึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวอุยกูร์ ยกเลิกการกักกันชนกลุ่มน้อย และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ โจชัว หว่อง และนักศึกษา ประชาชน ที่ถูกคุมขังจากคดีทางการเมืองในฮ่องกง
หลังอ่านแถลงการณ์แล้ว ทั้งหมดได้ร่วมกันยืนสงบนิ่ง 30 วินาที ให้กับผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และร่วมกันวางดอกกุหลาบขาวและกางร่มเพื่อรำลึกถึงจิตวิญณาญการต่อสู้ของขบวนการร่มในฮ่องกง ก่อนที่จะยุติกิจกรรมในเวลาประมาณ 17.00น. โดยมีตำรวจในเครื่องแบบประมาณหนึ่งกองร้อยยืนรักษาการณ์อยูด้านฝั่งสถานทูตจีน ส่วนด้านฝั่งที่ทำกิจกรรมมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายสิบนายคอยสังเกตุการณ์และคอยบันทึกภาพผู้เข้าร่วมกิจกรรม