หมายเหตุ: ซีรีส์นี้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อนึ่ง ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาถ่ายทอดเรื่องราวในแง่ลามกอนาจาร แต่ต้องการสะท้อนปรากฏการณ์เชิงสังคมและวัฒนธรรมที่อยู่ภายใต้ความวาบหวิว

 

คุณอาจรู้จักประเทศญี่ปุ่นเวอร์ชันวาบหวิวผ่านนักแสดงสาวคนโปรดอย่าง มาเรีย โอซาว่า, โซระ อาโออิ หรือ จูเลีย

อาจเคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แล้วเจอร้านเซ็กซ์ช็อป ที่ขายดิลโด้ จิ๋มกระป๋อง และหนังเอวี

แต่คุณอาจไม่รู้ว่าในซอกตึกบางย่านของญี่ปุ่นเป็นที่ตั้งสถานบันเทิงยามวิกาลที่ให้บริการสุดสยิว

เลาจน์ อาบอบนวด ร้านดีวีดีที่ให้เช่าหนังผู้ใหญ่เพื่อปลดปล่อยความใคร่ในห้องส่วนตัว หรือ Delivery Health บริการที่ให้ผู้ใช้โทรจองคนมาสำเร็จความใคร่ถึงที่!

คำถามคือ นอกจากหนังเอวี และ โซระ อาโออิ ทำไมญี่ปุ่นถึงเฟื่องฟูด้วยสถานเริงรมย์และบริการประเภทที่ว่า

‘นัทโตะ’ ชายหนุ่มผู้ช่ำชองเรื่องราวแดนอาทิตย์อุทัยที่เคยปรากฎตัวในความเป็นมาอุตสาหกรรม AV หนังผู้ใหญ่ที่เราไม่เคยดูจนจบ และเป็นผู้ประสานงานกองถ่ายกราเวียร์ (ถ่ายแบบเซ็กซี่) ที่มาถ่ายทำที่เมืองไทย จะมาเผยเรื่องราวลับๆ ในเชิงวัฒนธรรม บทบาท และการมีอยู่ของ 10 ที่เที่ยวติดเรต 18+ ในญี่ปุ่น

ที่มีเพียง The Momentum ที่แรกและที่เดียว และคุณผู้อ่านเท่านั้นที่รู้!

Photo: wikimedia commons​​

1. Soapland: ソープランド (โซปุรันโดะ)

ราคาบริการ: 30,000-80,000 เยน (แล้วแต่ร้าน เวลาที่ใช้บริการ และออปชันเสริม)
กฎหมาย: ถูกกฎหมาย

หนึ่งในสถานบันเทิงสุดสยิวยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น มีรูปแบบการให้บริการที่คล้ายคลึงกับอาบอบนวดทั่วๆ ไป แต่ต่างกันที่รายละเอียดบางประการ เช่น ขั้นตอนการเลือกหมอนวดผ่านอัลบั้มรูปแทนการเลือกจากตู้กระจก ออปชันเสริมพิ เศษอย่างแพยางราดออยล์

สมัยก่อนหลายร้านๆ จะไม่เข้มงวดเรื่องการใช้ถุงยางอนามัย แต่ช่วงหลังๆ ใส่ใจกับการป้องกันมากขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อหลังเปิดรับลูกค้าต่างชาติ)

ค่าบริการขั้นต่ำเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 กว่าบาท (ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของพลเมือง) และ 20,000 กว่าบาท เพื่ออัพเกรดคุณภาพงานบริการให้สูงขึ้น ทั้งยกนวดที่เพิ่มขึ้น และการประกันคุณภาพความเป๊ะของหมอสาวตรงตามอัลบั้มรูป

แต่ใช่ว่าธุรกิจประเภทนี้จะทำได้อย่างโจ๋งครึ่มและแพร่หลาย ด้วยนโยบายกีดกันให้ธุรกิจประเภทนี้ค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคม รัฐบาลจึงกำหนดให้ Soapland อยู่ในย่านที่เข้าถึงลำบาก ห้ามให้มีการรีโนเวต ร้านส่วนใหญ่จึงตั้งอยู่ในย่านลับ ซ่อนตัวอยู่ในตึกเก่าคร่ำครึหลายคูหา

นอกจากนี้ Soapland ทุกแห่งจะมีเครื่องซาวน่าประดับไว้ต่างหน้าเพื่อให้ร้านอยู่ในรูปลักษณ์ของบริการซาลอนมากกว่าธุรกิจค้าประเวณีเหมือนอาบอบนวดประเทศใกล้ๆ บ้านเราที่มักจะติดสติกเกอร์ห้ามค้าประเวณีไว้ที่หน้าร้าน

Photo: flickr​

2. Lounge: キャバクラ (เคียะบะคุระ)

ราคาบริการ: 40-50 นาที 5,000-10,000 เยน (ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเครื่องดื่มเด็ก ค่าเซอร์วิส VAT ค่าเลือกเด็ก เป็นต้น)
กฎหมาย: ถูกกฎหมาย

ธุรกิจบันเทิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดธุรกิจประเภทเดียวกัน เนื่องจากเด็กเลาจน์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีทักษะความเป็นมืออาชีพในการดูแลเอาใจใส่ลูกค้า เลาจน์จึงตอบโจทย์ความตึงเครียดจากการทำงานของหนุ่มญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน และอยากหาใครสักคนคอยเอาใจใส่ดูแลมากกว่าการปลดปล่อยความกำหนัดทางเพศก็มักจะเลือกใช้บริการที่แห่งนี้

บรรยากาศเลาจน์ญี่ปุ่นจะเปิดไฟสีแดงสลัวๆ เคล้าคลอเสียงเพลงอึกทึกครึกโครม อันดับแรกที่คุณต้องทำหลังเข้าร้านคือการหาที่นั่งเจ๋งๆ สั่งดริงก์แพ็กเกจบุฟเฟต์ตามเวลา (ทั่วไป 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,800-3,600 กว่าบาท เมื่อได้เครื่องดื่มพร้อมจุดหย่อนกาย เด็กเลาจน์ก็จะมานั่งข้างๆ พร้อมปรนนิบัติเอาใจคุณ (ไม่สามารถเลือกคนได้ ถ้าเลือกคนต้องเสียเงินเพิ่ม หากไม่ถูกใจต้องต่อรอบเพื่อหมุนคนใหม่)

งานบริการของเด็กเลาจน์จะเป็นการเติมเครื่องดื่ม ชวนเล่นเกม ชวนพูดคุย ข้อห้ามเด็ดขาดของการใช้บริการ คือห้ามลวนลามมือปลาหมึกใส่สาวๆ! แตะมือได้บ้าง แต่ไม่สามารถจับมือ โอบไหล่ หรือจูบ ที่สำคัญกว่า 90% ของเลาจน์ญี่ปุ่นจะไม่มีการขายบริการแอบแฝง หรือการยินยอมให้เด็กในร้านออกไปต่อกับลูกค้า จึงทำให้ธุรกิจเลาจน์ไม่ผิดกฎหมายนั่นเอง

เลาจน์ตอบโจทย์ความตึงเครียดของหนุ่มออฟฟิศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน และอยากหาใครสักคนมาคอยเอาใจ มากกว่าจะปลดปล่อยความกำหนัดทางเพศ

Photo: blognagaoka

3. ร้านเช่า DVD: DVD 鑑賞店 (ดีวีดี คังโชเต็น)

ราคาบริการ: 1,500-3,000 เยน (2 ชั่วโมง)
กฎหมาย: ถูกกฎหมาย

เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นเคยสังเกตเห็นร้านที่มีป้ายใหญ่ๆ สีสันต่างๆ ที่เขียนว่า DVD ไหมครับ ดูผิวเผินก็อาจจะเป็นร้านเช่าหนังทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันคือร้านที่ให้เราเช่าหนังเอวีเพื่อเข้าไปช่วยตัวเองในห้องส่วนตัว!

ร้านแบ่งห้องออกเป็น 3 ประเภท จำแนกตามเก้าอี้ที่ใช้นั่ง ห้องที่เต็มเร็วที่สุดจะเป็นห้องที่เก้าอี้ปรับเอนนอนได้ ส่วนห้องที่ราคาถูกจะมีแค่เบาะนั่งธรรมดา สามารถกำหนดระยะเวลาในการใช้บริการได้ ทั้งชั่วโมงเดียว สองชั่วโมง หรือเหมาวัน สิ่งอำนวยความสะดวกที่คุณจะได้รับคือ ทีวีขนาด 29 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี ห้องน้ำรวม ถุงยางจำนวน 2 ซอง และกระดาษทิชชู่ หากอยากได้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น เจลหล่อลื่นก็ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม และนอกจากหนังเอวีแล้วก็ยังมีหนังประเภทอื่นๆ ให้คุณได้เลือกชมอีกด้วย

ที่มาของธุรกิจประเภทนี้เกิดจากการที่รถไฟญี่ปุ่นจะหยุดวิ่งในเวลาเที่ยงคืน คนทำงานส่วนใหญ่ที่กลับบ้านไม่ทันก็จะไม่เลือกกลับแท็กซีเพราะค่ารถแพง ประกอบกับธุรกิจเอวีในญี่ปุ่นเป็นเรื่องถูกกฎหมาย หากปล่อยให้มีการลักลอบดูฟรีบนเว็บออนไลน์ หรือโหลดบิต ผู้ประกอบการแต่ละรายก็จะเสียผลประโยชน์ ทางออกในการแก้ปัญหาของคนอยากดูหนังเอวีคือต้องซื้อแผ่นแท้เท่านั้น หรือไม่ก็ต้องเลือกใช้บริการร้านเช่าดีวีดีประเภทนี้เพื่อเสพหนังเอวีแทน และยังเป็นการเช่าห้องพักค้างคืนไปในตัวด้วย

ที่สำคัญเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็พร้อมออกไปทำงานได้ทันที

4. Delivery Health: デリヘル (เดริเฮรุ) และร้าน นกป. (ฟัชชั่นเฮรุซึ หรือ เฮรุซึ)

ราคาบริการ: ราคาไม่แน่นอน
กฎหมาย: ถูกกฎหมาย

‘บริการนวดกระปู๋ทันใจ โทรสั่งได้เพียงปลายนิ้ว’

รูปแบบของบริการคือ การโทรจองเพื่อให้ผู้หญิงมาช่วยสำเร็จความใคร่ให้ถึงสถานที่ ค่าใช้จ่ายต่อครั้งเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณหมื่นกว่าบาท โดยที่ผู้ให้บริการจะใช้ได้ทั้งมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเสร็จสมอารมณ์หมาย แต่ห้ามให้มีการค้าประเวณี หรือล่วงละเมิดผู้ให้บริการเด็ดขาด ธุรกิจประเภทนี้จึงถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการทำให้ผู้รับบริการมีความสุขโดยไม่ผิดศีลธรรม

ปัจจุบันเดลิเวอรีเฮลท์ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เปิดรับชาวต่างชาติมากขึ้น ถึงขั้นมีการทำเว็บไซต์สำหรับการบุ๊กกิ้งบริการในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ

ส่วนร้านนวดกระปู๋ทั่วไปจะมีรูปแบบการให้บริการที่คล้ายคลึงกับร้านประเภทนี้ในบ้านเรา แตกต่างจากเดลิเวอรีเฮลท์ที่สามารถให้บริการได้ทั้งมือ และปาก แต่คุณจะต้อง walk-in เข้าไปใช้บริการที่หน้าร้านโดยตรงเท่านั้น

5. Pink Salon: ピンクサロン (ปิงกุซาลอน)

ราคาบริการ: 5,000-8,000 เยน
กฎหมาย: ถูกกฎหมาย

กำเนิดขึ้นมาเนื่องจากกฎหมายของญี่ปุ่นห้ามให้มีบริการที่นำอวัยวะเพศชายเข้าไปในส่วนนั้นของเพศหญิง ญี่ปุ่นจึงต้องคิดรูปแบบบริการที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าโดยไม่ผิดกฎหมายได้ และเมื่อมีร้านสำเร็จความใคร่ด้วยการใช้มือ พิงก์ซาลอนจึงเป็นธุรกิจที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการใช้ปาก (ออรัลเซ็กซ์) และการนัว

รูปแบบของการให้บริการคือการจ่ายเงินเพื่อเข้าไปนั่งดริงก์กับสาวผู้ให้บริการในร้าน โดยเราจะนั่งบนโซฟาที่มีฉากกั้นระหว่างคนเล็กๆ ก่อนที่จะให้การบริการในส่วนที่สำคัญที่สุดในการออรัลขั้นตอนสุดท้าย บางร้านจะใช้ระบบเวียนผู้หญิงด้วย ทำให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา

ประเด็นที่น่าสนใจคือ Pink Salon ยังติดขัดเรื่องใบอนุญาตประกอบกิจการที่ไม่ชัดเจน บางครั้งเราจึงมักเห็นข่าวร้านพวกนี้ถูกยึดใบอนุญาตอยู่เป็นระยะ(แต่ลูกค้าเที่ยวไม่โดนจับนะ)

ติดตามอีก 5 ร้านที่เหลือได้ในตอนต่อไป

 

FACT BOX:

นัตโตะ เจ้าของบริษัทประสานงานธุรกิจไทยญี่ปุ่น JTbiz ผู้พัฒนา J-Doradic ดิกชันนารีไทย-ญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย และ เจ้าของร้านราเมง โยเนดะ & ไทโชวเคน (อารีน่าเทน ทองหล่อ 10) มีความสนใจธุรกิจบันเทิงในเชิงวัฒนธรรมเป็นพิเศษ เนื่องจากย่านโฮริโนะอุจิ (Horinouchi) เมืองคะวะซะกิ (Kawasaki) ที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ เป็นเมืองที่เฟื่องฟูด้านธุรกิจบันเทิงเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากโยชิวะระ (Yoshiwara) ในโตเกียว​