5 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Fantastic Beasts and Where to Find Them

เชื่อว่าบรรดามักเกิ้ลและแฟนคลับทั่วไปน่าจะตื่นเต้นไม่น้อยกับการเดินทางกลับสู่โลกเวทมนตร์อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่

แม้ครั้งนี้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นพ่อมดน้อยแฮร์รี่กลับมาโลดแล่นร่ายเวทมนตร์ กวัดแกว่งไม้กายสิทธิ์ปะทะกับคนที่คุณก็รู้ว่าใคร แต่การมีโอกาสได้เห็นนักแสดงหนุ่มมากบทบาทและความสามารถอย่าง เอ็ดดี้ เรดเมย์น ก็น่าจะทำให้ใครต่อใครกระชุ่มกระชวยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ก่อนที่คุณจะเข้าไปร่วมด้วยช่วย นิวท์ สคามันเดอร์ ตามจับสัตว์มหัศจรรย์ที่หลุดออกมาสู่โลกภายนอก The Momentum ได้รวบรวม 5 เรื่องน่ารู้ก่อนดู สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของโลกเวทมนตร์

Photo: Youtube -Warner Bros. Pictures

ครั้งแรกในแฟรนไชส์หนังแฮร์รี่ที่มี ‘โนแมจ’ No-Majes (มักเกิ้ล) เป็นตัวละครนำ

เรื่องราวในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มักจะให้น้ำหนักสำคัญไปกับความลุ้นระทึกและภัยอันตรายของโลกเวทมนตร์ กับเหล่าบรรดาพ่อมดแม่มดฝึกหัดเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ จะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีตัวละครหลักเป็น ‘โนแมจ’ หรือมักเกิ้ลโลดแล่นขนาบข้างไปกับผู้มีเวทมนตร์อย่าง นิวท์ สคามันเดอร์ (เอ็ดดี้ เรดเมย์น) นักสัตว์วิเศษวิทยา โดยตัวละครดังกล่าวคือ จาคอบ โควัลสกี้ (แดน ฟอกเลอร์) หนุ่มโรงงานและชายทำขนมปังผู้ที่มาช่วยนิวท์ในการติดต่อประสานงานต่างๆ ในระหว่างที่เขามาผจญภัยอยู่ในอเมริกา

การจับพลัดจับผลูเข้ามาข้องแวะในโลกเวทมนตร์ครั้งนี้ของจาคอบน่าจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล…

ทั้งนี้มักเกิ้ลและโนแมจมีความหมายถึง ผู้ที่ไม่มีความสามารถด้านการใช้เวทมนตร์ โดยคำว่ามักเกิ้ลจะใช้ในประเทศอังกฤษ ขณะที่คำว่าโนแมจจะใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา และเนื่องจากเรื่องราวในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เกิดขึ้นในประเทศอเมริกา เราจึงเรียกผู้ที่ไม่มีเวทมนตร์ในเรื่องนี้ว่า ‘โนแมจ’ นั่นเอง

Photo: Youtube -Warner Bros. Pictures

แม้นิวท์จะเป็นตัวละครเอก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครหลักมากกว่า 4 คน    

นับตั้งแต่วันที่มีการประกาศสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้โดยอิงเนื้อหาบางส่วนจากผลงานการประพันธ์หนังสือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ของ เจ. เค. โรว์ลิง ในปี 2001 แฟนๆ ทั้งหลายต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือเรื่องราวการผจญภัยของ นิวท์ สคามันเดอร์ ที่มีเจ้าตัวเป็นดารานำ

แต่เมื่อใครหลายคนได้เห็นตัวอย่างหนังก็กลับพบว่า นิวท์ไม่ได้มาคนเดียวอย่างที่เราเข้าใจ เขายังมีเพื่อนร่วมเผชิญชะตากรรมอีก 3 คน ได้แก่ พี่น้องทีน่า-ควีนนี่ โกลด์สไตน์ (แคทเธอรีน วอลเตอร์สตัน และ อลิสัน ซูดอล) และ จาคอบ โควัลสกี้ (แดน ฟอกเลอร์) ซึ่งการมีตัวละครหลักเพิ่มเข้ามาก็ยังเป็นผลดีต่อตัว เอ็ดดี้ เรดเมย์น อีกด้วย เนื่องจากเขามองว่าเป็นการช่วยลดความกดดันที่ต้องแบกรับไว้จากการแสดงในเรื่องนี้

มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ทีน่าจะทำงานที่สภาเวทมนตร์สูงสุดอเมริกา (MACUSA) (แน่นอนว่าเธอมีเวทมนตร์) ขณะที่ควีนนี่ก็อาจมีเวทมนตร์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเธอมีความสามารถในการพินิจใจคนได้ (อ่านใจคน) งานนี้เห็นทีจาคอบอาจจะต้องอดร่ายมนตร์อยู่คนเดียว

Photo: Youtube -Warner Bros. Pictures

เชื่อมโยงกับการล่าแม่มด

มีข้อมูลระบุว่าภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Beasts and Where to Find Them หรือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ จะมีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศอเมริกาอย่าง ‘การล่าแม่มด’ ที่เกิดขึ้น ณ การล่าอาณานิคมในรัฐแมสซาชูเซตส์ ช่วงยุค 60’s ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความหวาดกลัวของเหล่าผู้มีเวทมนตร์ที่มีต่อประชาชนคนปกติทั่วไป

โดยที่ความกลัวดังกล่าวยังส่งผลสำคัญต่อจำนวนประชากรพ่อมดแม่มดอีกด้วย ทั้งนี้พื้นที่ในห้องโถงของสภาเวทมนตร์สูงสุดอเมริกา (MACUSA) ยังแสดงความเคารพต่อเหล่าบรรดาพ่อมดแม่มด ผู้ที่ถูกทรมานจากเหตุการณ์การล่าแม่มดด้วยการตั้งรูปปั้นนกฟีนิกซ์จำนวน 4 ตัว ที่สื่อถึงการฟื้นคืนชีพจากกองเถ้าถ่านอีกด้วย

สำหรับเรื่องราวในภาพยนตร์ ซาแมนธา มอร์ตัน นักแสดงสาวชาวอังกฤษ จะเข้ามารับบทบาทเป็น ‘แมรี่ ลู แบร์โบน’ ผู้นำกลุ่มต่อต้านผู้ใช้เวทมนตร์ Second Salemers เธอพยายามจะปราบปรามเหล่าพ่อมดและแม่มดทั้งหลาย แมรี่ยังมีลูกบุญธรรมอีกหนึ่งคนชื่อ เครเดนซ์ (เอซรา มิลเลอร์) ที่เรายังคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะปรากฏตัวในมาดใด

Photo: Warner Bros. Pictures

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 90 ปีที่แล้ว แต่ให้ความทันสมัยกว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์!?

ในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ จะพาคุณย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1926 ณ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และถึงแม้จะฟังดูเป็นเรื่องที่แปลก เพราะเรื่องราวในหนังย้อนกลับไปถึง 90 ปีที่แล้ว แต่ทางฝั่งผู้ออกแบบงานสร้างอย่าง สจ๊วร์ต เคร็ก (Stuart Craig) กลับมองว่าเรื่องราวในภาพยนตร์นี้มีความล้ำสมัยกว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เสียด้วยซ้ำ เนื่องจากฉากเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นในเมืองที่จอแจไปด้วยผู้คน แตกต่างจากเรื่องราวของแฮร์รี่ที่เกิดขึ้นในปราสาทเก่าคร่ำครึจากสกอตแลนด์ที่มีอายุกว่า 1,100 ปี

“แฮร์รี่ พอตเตอร์ ให้ความรู้สึกเหมือนหนังโบราณอยู่ตลอดเวลา ต่อให้เด็กๆจะใส่เสื้อยืดและยีนส์อยู่ก็ตาม แต่กับเรื่องนี้ที่แม้จะเป็นหนังย้อนยุค แต่กลับให้ความร่วมสมัยได้มากกว่า ปัจจุบันทันด่วนกว่า และยังอ่อนช้อยกว่ามากในแง่ของสถาปัตยกรรม” เคร็กกล่าว

Photo: Youtube -Warner Bros. Pictures

โทนในการเล่าเรื่องที่หลากหลาย

ฝั่งผู้สร้างได้มีการออกมาเปิดเผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เล่าไปในโทนมืดหม่นหรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่เยือกเย็นเหมือนอย่างภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นสักเท่าไหร่ (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต 2)

เดวิด เฮย์เมน (David Heyman) โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เผยถึงสาเหตุที่เขาดึงตัว เดวิด เยตส์ (David Yates) กลับมานั่งแท่นผู้กำกับอีกครั้งไว้ว่า “ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้มีสีที่หลากหลายมากๆ เลยนะ ทั้งความมืดหม่น อารมณ์ขัน ความสนุก เรื่องราวการผจญภัย นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวของความอ่อนโยนและความตลกของตัวละครที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันอีกด้วย ผมมองว่าเยตส์เก่งมากๆ กับแนวทางที่หลากหลายเช่นนี้ เขาช่ำชองในการจัดการกับอารมณ์เหล่านั้นด้วยวิธีที่ซื่อสัตย์

“หนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมรักภาพยนตร์เรื่องนี้เนื่องจากมันมีโทนสีที่หลากหลาย มันไม่ใช่แค่หนังโทนดาร์ก หรือหนังประเภทนั้นประเภทนี้ มันเหมือนหนังสือเล่มเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย”

อ้างอิง 
     – http://www.cinemablend.com/new/7-Fantastic-Facts-We-Just-Learned-About-Fantastic-Beasts-Where-Find-Them-93027.html?story_page=2
– http://www.ew.com/article/2015/11/07/fantastic-beasts
– http://www.thewrap.com/5-things-we-learned-about-fantastic-beasts-and-where-to-find-them
– http://www.ign.com/articles/2016/09/12/11-things-we-learned-on-the-fantastic-beasts-and-where-to-find-them-set