Infographic: Karin Foxx

เมื่อเรานึกถึงคำว่า ‘คุณภาพชีวิตที่ดี’ ภาพที่ทุกคนมักนึกฝันคือ งานที่ดี อากาศที่ดี อาหารที่ดี ไปจนถึงเรื่องระดับชาติอย่างความโปร่งใสของรัฐบาล ความเท่าเทียมระหว่างเพศ สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของพลเมือง โอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ระบบขนส่งสาธารณะที่เอื้ออำนวยกับทุกคน หรือเมื่อมองไปในชุมชนแล้วคุณภาพชีวิตของคนจนกับคนรวยก็ไม่ได้แตกต่างซะจนโหดร้ายเกินไปนัก

ฟังดูเป็นสังคมอุดมคติ แต่สวีเดนคืออีกหนึ่งประเทศที่สะท้อนให้เราเห็นว่า มีประเทศที่สามารถพัฒนาชุมชนและสังคมของเขาให้ประชากรเข้าถึงคำว่า ‘คุณภาพชีวิตที่ดี’ ได้ ในปี 2016 สวีเดนถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆ หลายด้าน ทั้งด้านนวัตกรรม, การทำธุรกิจ, การศึกษา, ความเท่าเทียมระหว่างเพศ, ความโปร่งใสของรัฐบาล, ประเทศที่น่าอยู่สำหรับคนแก่

และชาวสวีเดนยังถือพาสปอร์ตที่เดินทางได้เกือบรอบโลกโดยไม่ต้องปวดหัวกับการขอวีซ่า!

Photo: TT News Agency, Reuter/Profile

ธุรกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรมที่ไม่เป็นที่สองรองใคร

นิตยสาร Forbes จัดอันดับให้สวีเดนเป็นประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจ ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่อันดับ 23 ญี่ปุ่นอันดับที่ 37 ส่วนสิงคโปร์คือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่อันดับสูงที่สุด คืออันดับที่ 12 ขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 67 โดยนิตยสาร Forbes วัดจากนวัตกรรม การเก็บภาษี เทคโนโลยี ระบบข้าราชการ และตลาดหุ้น

ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สวีเดนอยู่ที่อันดับ 17 แต่หลังจากสวีเดนเปลี่ยนนโยบายการบริหารงบประมาณของประเทศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สวีเดนก็กลายเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม และเจ้าของบริษัทระดับโลกอย่าง Volvo, Electrolux, Ericsson, IKEA และ H&M

สอดคล้องกับ European Commission ที่ยกให้สวีเดนเป็น ‘ผู้นำด้านนวัตกรรม’ ที่มีความสามารถด้านการคิดค้นและผลิตนวัตกรรมเหนือกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรป สวีเดนยังโดดเด่นในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ ที่พร้อมสรรพด้วยแรงงานที่มีทักษะ อีกทั้งงานวิจัยด้านวิชาการที่มีคุณภาพ ขณะที่ฟินแลนด์จะเป็นผู้นำด้านการเงิน เยอรมนีเป็นผู้นำด้านบริษัทที่มีการลงทุนด้านนวัตกรรมสูง เบลเยียมเป็นผู้นำด้านเครือข่ายและความร่วมมือด้านนวัตกรรม และไอร์แลนด์เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก

ด้านสภาเศรษฐกิจโลกจัดให้สวีเดนเป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันที่อันดับ 6 กระโดดขึ้นมาจากอันดับ 30 และอันดับ 22 เมื่อปีที่แล้ว สภาเศรษฐกิจโลกระบุว่า “ตลาดแรงงานของสวีเดนนั้นมีประสิทธิภาพ มีอัตราการจ้างงานสูง รวมถึงจำนวนผู้หญิงในตลาดแรงงานสูงเช่นกัน” ขณะที่จีนอยู่ที่อันดับ 14 มาเลเซียอยู่ที่อันดับ 25 ด้านไทยอยู่ที่อันดับ 34 จากทั้งหมด 138 ประเทศ

Photo: TT News Agency, Reuter/Profile

ไม่มีเพดานอาชีพสำหรับผู้หญิง รัฐบาลมีความโปร่งใสสูง และน่าอยู่สำหรับคนแก่

จำนวนผู้หญิงในตลาดแรงงานที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ สะท้อนว่าสวีเดนเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศสูง สภาเศรษฐกิจโลกจัดให้สวีเดนเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศสูงเป็นอันดับที่ 4 สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางเพศได้มากกว่า 81% ปัจจุบันพบนักกฎหมาย เจ้าหน้าที่ระดับสูง และพนักงานระดับผู้จัดการที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นในสวีเดน นอกจากนี้รัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงยังมีจำนวนเท่าๆ กับผู้ชาย

ฟิลิปปินส์คือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่สูงถึงอันดับ 7 สหรัฐอเมริกาอยู่ที่อันดับ 45 และไทยอยู่ที่อันดับ 71

เมื่อมาดูเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน แม้ Transparency International จะระบุว่า ไม่มีประเทศใดในโลกที่ปราศจากคอร์รัปชัน และมีประชากรโลกกว่า 6 พันล้านคน ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีการฉ้อโกงสูง แต่สวีเดนก็ยังเป็นประเทศที่มีความโปร่งใสมากกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก องค์กร Transparency International จัดให้สวีเดนเป็นประเทศที่มีความโปร่งใสมากเป็นอันดับ 4 ได้ 89 คะแนน จากบรรดาทั้งหมด 168 ประเทศ ส่วนสิงคโปร์อยู่ที่อันดับ 8 ขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 76 ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันสูง

ในฐานะประชากรสวีเดน พาสปอร์ตของชาวสวีเดนยังทำให้พวกเขาเข้าประเทศอื่นๆ ได้มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองลงมาจากเยอรมนี โดยพาสปอร์ตของชาวเยอรมันสามารถเข้าได้ 177 ประเทศ ขณะที่พาสปอร์ตของชาวสวีเดนเข้าได้ 176 ประเทศ พวกเขาจึงไม่ต้องมาปวดหัวหรือเสียเวลากับการขอวีซ่าดังเช่นประชากรของประเทศอื่นๆ ส่วนสิงคโปร์อยู่ที่อันดับ 5 และประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 67

และเมื่อประชากรแก่ตัวลง สวีเดนก็ยังเป็นประเทศที่ถูกจัดให้เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเป็นอันดับ 3 ของโลก อัตราการจ้างงานของผู้สูงอายุในสวีเดนนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย รวมถึงการศึกษาของพวกเขาด้วย นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังรู้สึกพึงพอใจกับความปลอดภัยของประเทศถึง 73% และอิสรภาพของพลเมือง 94%

ชาวสวีเดนยังฟุดฟิดฟอไฟภาษาอังกฤษได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ เพราะการศึกษาของพวกเขาไม่ได้จำกัดว่าต้องแตกฉานแค่ภาษาของตัวเอง ทักษะการพูดภาษาอังกฤษของชาวสวีเดนจึงถูกจัดอยู่ในหมวดมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษสูงมาก (Very High Proficiency) โดยวิชาภาษาอังกฤษถูกบรรจุอยู่ในวิชาบังคับตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษาเป็นเวลามาถึง 40 ปีแล้ว นอกจากนี้สื่อต่างๆ อย่างเช่นรายการโทรทัศน์ที่เป็นภาษาอังกฤษยังไม่มีการพากย์ทับ จึงทำให้ชาวสวีเดนคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

อันดับข้างต้นส่งผลให้สวีเดนเป็นประเทศที่มีภาพลักษณ์ที่ดีที่สุดในโลก ทั้งด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ธรรมชาติ สวัสดิการรัฐ และสิทธิของผู้หญิง

อย่างไรก็ตามการจัดอันดับในแต่ละด้านไม่ได้สะท้อนภาพฉาบฉวยว่าการพัฒนาในด้านใดด้านหนึ่งจะต้องมุ่งมั่นอยู่แค่ด้านนั้นด้านเดียว ความเป็นที่สุดในหลายด้านของสวีเดนบอกกับเราว่า ทุกๆ อย่างนั้นจำเป็นต้องเดินไปด้วยกันทั้งโครงสร้าง อย่างเช่น การศึกษาที่ดี และสิทธิการแสดงออกของพลเมืองย่อมส่งผลให้เยาวชนมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และการถูกฝึกให้ตระหนักในหน้าที่พลเมือง ย่อมนำไปสู่การตรวจสอบรัฐบาลที่เข้มแข็ง

อ้างอิง:

Tags: , , ,