“ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง!” สาวๆ น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินวลีประจำตัวนี้ของเซเลอร์มูน ตัวการ์ตูนโด่งดังจากญี่ปุ่น ที่สาวๆ หลายคนต่างมีความทรงจำในวัยเด็กกับตัวการ์ตูนตัวนี้ วันนี้เธอเพิ่งได้รับหน้าที่ใหม่ นั่นคือเซเลอร์มูนจะมาปราบโรคร้ายที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่น โดยเฉพาะกับสาวๆ อย่างโรคเอดส์ หรือซิฟิลิส ซึ่งเซเลอร์มูนประกาศแล้วว่า “หากใครไม่ยอมไปตรวจโรค ฉันจะลงทัณฑ์พวกเธอเอง”
ภารกิจใหม่ของเซเลอร์มูน
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตัดสินใจเลือกเซเลอร์มูนเป็นตัวแทนในการต่อสู้กับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งได้ร่วมงานกับ
นาโอโกะ ทาเคอุจิ (Naoko Takeuchi) นักวาดการ์ตูนญี่ปุ่น เจ้าของตัวการ์ตูนเซเลอร์มูน เพื่อออกโครงการรณรงค์ให้วัยรุ่นญี่ปุ่นตระหนักถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีมากขึ้น ทั้งโรคเอดส์ และซิฟิลิส โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นผู้หญิง
เซเลอร์มูนจะได้รับมอบหมายให้เป็นเสมือนนักรบหญิงในการแจกจ่ายถุงยาง และใบปลิวตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงให้การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเพศกับวัยรุ่นด้วย โดยญี่ปุ่นวางแผนว่าจะออกโครงการเกี่ยวกับเพศศึกษาผ่านคาแรกเตอร์เซเลอร์มูนถึง 60,000 โครงการ เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้สนใจฟังการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้น และรณรงค์ให้พวกเขาไปตรวจโรคตั้งแต่เนิ่นๆ หากมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะติดโรคเหล่านี้
บรรดาแฟนๆ ของเซเลอร์มูนต่างตื่นเต้นกับภารกิจใหม่นี้ และยินดีจะสนับสนุนเซเลอร์มูนในการสอนเพศศึกษากับวัยรุ่นอย่างเต็มที่ “ฉันคิดว่ามันดีสำหรับวัยรุ่น ที่ตัวแทนแห่งดวงจันทร์อย่างเซเลอร์มูน จะมาปกป้องพวกเขาจากโรคร้ายที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์” จอช เฮสติงส์ (Josh Hastings) เขียนลงบนเฟซบุ๊ก
ขณะที่แฟนของเซเลอร์มูนอีกคนบอกว่า “พลังของดวงจันทร์ เป็นข้อความที่ดีมากที่จะส่งถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างวัยรุ่นสาวๆ”
Photo: Kim Kyung Hoon, Reuters/profile
‘โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์’ ภัยคุกคามใหม่ของวัยรุ่นญี่ปุ่น
การต่อสู้กับโรคเอดส์ขององค์กรนานาชาติมักพุ่งเป้าหมายไปที่ประเทศกำลังพัฒนา แต่หารู้ไม่ว่าวัยรุ่นในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลับมีความตระหนักต่อโรคเอดส์น้อยมาก และพฤติกรรมทางเพศของพวกเขาก็มีความเสี่ยงที่จะติดโรคมากขึ้น
แม้ว่าอัตราการติดเชื้อโรคเอดส์ในญี่ปุ่นจะยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนา แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ ความเข้าใจผิดของคนญี่ปุ่นที่คิดว่า โรคเอดส์นั้นจะติดต่อแค่ในหมู่ชาวต่างชาติเท่านั้น ซึ่งทำให้วัยรุ่นจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะไม่เคยได้รับการตรวจเลือด
คุกิ อุชิกาวะ (Kuki Uchikawa) นักศึกษามหาวิทยาลัยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า “มันเป็นเรื่องที่ฉันกังวลใจลึกๆ อยู่เสมอ แต่ฉันไม่เคยไปตรวจเลือดเลย และพฤติกรรมทางเพศที่ผ่านๆ มาของฉันก็เสี่ยงมาก ฉันไม่เคยป้องกัน”
Photo: Reuters Photographer, Reuters/profile
เพศศึกษาคือรากเหง้าของปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
นอกจากเรื่องเพศจะเป็นเรื่องต้องห้ามในประเทศไทยแล้ว ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่อุตสาหกรรมทางเพศของทั้งสองประเทศนี้จัดว่าเฟื่องฟูอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก แต่เมื่อผู้ใหญ่ต้องมาสอนเรื่องเพศให้กับบุตรหลาน ก็กลับจะดูเป็นเรื่องกระอักกระอ่วนไป จนวัยรุ่นไม่เคยได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์
“เราไม่เคยมีวิชาเพศศึกษาที่โรงเรียน เราถูกสอนน้อยมากเกี่ยวกับการป้องกัน การติดเชื้อโรคเอดส์ หรือโรคติดต่ออื่นๆ ครูมักจะรู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดเรื่องเพศ” มารุโกะ วัยรุ่นสาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวบีบีซี
สอดคล้องกับ มาโดกะ อิซุมิ (Madoka Izumi) นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่เปิดเผยว่า “ฉันอยู่โรงเรียนหญิงล้วน และเราไม่เคยเรียนว่าเด็กผู้ชายคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ พวกเขาสอนเราเกี่ยวกับด้านกายภาพ แต่ไม่เคยสอนด้านอารมณ์ทางเพศ ซึ่งพวกเราไม่เคยได้รับการเตรียมพร้อมต่อเรื่องนี้”
“ผู้ปกครองมักจะนึกภาพลูกตัวเองมีเพศสัมพันธ์หรือไปทำแท้งไม่ออก พวกเขานึกภาพออกแต่ภาพลูกๆ ตั้งใจเรียน” มารุโกะพูดถึงผู้ปกครองในญี่ปุ่น
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สถิติระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของวัยรุ่นญี่ปุ่นอายุ 17 ปี มีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยแล้ว 1 ครั้ง
ความกระอักกระอ่วนที่จะพูดเรื่องเพศในสังคมญี่ปุ่นสะท้อนในคำให้สัมภาษณ์ของ อิดะ มามิ (Ida Mami) จากหน่วยงานด้านสาธารณสุขของญี่ปุ่นที่บอกว่า “มันเป็นเรื่องอ่อนไหว และเราต้องการหลีกเลี่ยงการตื่นตกใจของพวกหัวเก่า ถ้าเราสอนเรื่องพวกนี้เปิดเผยเกินไปเกี่ยวกับเรื่องการใช้ถุงยาง และเรื่องเพศสัมพันธ์ พวกเขาอาจจะเรียกร้องให้เราหยุดการสอนเพศศึกษาทั้งหมดเลยก็ได้”
สิ่งเหล่านี้ย้อนแย้งกับโทรทัศน์ช่องเคเบิลของญี่ปุ่นที่ฉายหนังโป๊กันอย่างเปิดเผย
ด้าน สึเนโอะ อะกาเอดะ (Tsuneo Akaeda) นรีแพทย์ต้องเจอกับข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งกว่า นั่นคือ วัยรุ่นผู้หญิงมีพฤติกรรมมีคู่นอนหลายคน และคู่นอนของพวกเธอไม่เคยสวมใส่ถุงยางเลย เพราะวัยรุ่นรู้สึกว่าการใช้ถุงยางนั้นไม่ปกติ จึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้มัน ทั้งๆ ที่การไม่ป้องกันเลยนั้นอันตรายกว่ามาก
“วัยรุ่นปัจจุบันมีพฤติกรรมทางเพศที่ประมาทและเสี่ยงมาก พวกเขามีความสุขที่จะมีเพศสัมพันธ์กับใครก็ได้ โดยจะใช้ประโยคฮิตนั่นคือ ‘Let’s play together?’ (มาเล่นสนุกด้วยกันไหมล่ะ?)”
เมื่อเพศศึกษาในโรงเรียนใช้การไม่ได้ ก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเซเลอร์มูนแทน
“ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง!” บางทีวลีนี้ก็อาจจะไม่ควรใช้กับแค่วัยรุ่น แต่ควรใช้กับผู้ใหญ่ในสังคมด้วยก็เป็นได้
อ้างอิง:
– http://www.bbc.com/news/world-asia-38060621
– http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/3890689.stm
