เมื่อวานนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2017) ตำรวจมาเลเซียระบุผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือเพิ่มอีก 4 คน จากเหตุที่ คิมจองนัม พี่ชาวของคิมจองอึนถูกสังหารที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย
Channel NewsAsia รายงานว่า ชาวเกาหลีเหนือ 4 คนนี้ได้เดินทางหลบหนีกลับไปยังเกาหลีเหนือตั้งแต่วันที่เกิดเหตุสังหาร โดยใช้สายการบินเอมิเรตส์เดินทางไปกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ดูไบ และเมืองวลาดีวอสตอค (Vladivostok) ของรัสเซีย ก่อนจะกลับเข้าเกาหลีเหนือ
ตำรวจมาเลเซียเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คนเป็นชายทั้งหมด อายุระหว่าง 33-57 ปี
“ขั้นตอนต่อไปคือต้องจับกุมพวกเขามาให้ได้ เราจะร่วมมือกับต่างชาติ โดยเฉพาะกับองค์การ Interpol และร่วมมือกับตำรวจของประเทศต่างๆ”
ตำรวจมาเลเซียเชื่อว่าคิมจองนัมถูกผู้หญิงสองคนวางยาพิษเมื่อเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ที่อาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินกัวลาลัมเปอร์ เพราะมีรายงานว่า คิมจองนัมได้ไปที่แผนกบริการลูกค้าเพื่อแจ้งว่ามีผู้หญิงสองคนเอาของเหลวมาเช็ดหน้าเขา ซึ่งขณะนี้ตำรวจมาเลเซียกำลังสืบสวนว่าของเหลวนั้นคืออะไร
การที่คนร้ายลงมือสังหารนอกประเทศและในที่สาธารณะนั้น
เป็นการกระทำที่โหดร้ายและไม่สามารถให้อภัยได้
และยิ่งสะท้อนความโหดเหี้ยมของเกาหลีเหนือ
ที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อสืบทอดอำนาจของตัวเอง
ชายเกาหลีเหนือ 5 คนที่ถูกเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่เกาหลีเหนือกล่าวหาว่ามาเลเซียใส่ร้าย
ตอนนี้ชาวเกาหลีเหนือที่ถูกเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารคิมจองนัมมีทั้งหมด 5 คน เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2017 ทางการมาเลเซียได้จับกุมตัว รี จอง-โชล (Ri Jong-Chol) ชายชาวเกาหลีเหนือวัย 47 ปี ทำงานด้านไอทีในมาเลเซีย โดยเขามีบัตร i-Kad ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างชาติ
แม้เกาหลีใต้จะออกมาระบุว่า เกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารครั้งนี้ เพราะคิมจองอึนเคยมีคำสั่งให้สังหารคิมจองนัมตั้งแต่เขาขึ้นสู่อำนาจตั้งแต่ปี 2011 แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกาหลีเหนือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุสังหารครั้งนี้จริง
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2017 ทูตเกาหลีเหนือเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นของมาเลเซียว่า มาเลเซียบังคับให้มีการชันสูตรศพกับชายที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นคิมจองนัม และกล่าวหามาเลเซียว่าปกปิดข้อมูลและสมรู้ร่วมคิดเพื่อโจมตีเกาหลีเหนือ เพราะแท้จริงแล้วมาเลเซียยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นคิมจองนัมหรือไม่จนกว่าผลพิสูจน์ดีเอ็นเอจะออกมา
เกาหลีใต้กังวลจะเห็นเกาหลีเหนือปฏิบัติการก่อการร้ายนอกประเทศมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีฮวาง คโย-อัน ของเกาหลีใต้ระบุว่า “กลยุทธ์การก่อการร้ายนั้นชัดเจนมากขึ้น การที่คนร้ายลงมือสังหารนอกประเทศและในที่สาธารณะนั้น เป็นการกระทำที่โหดร้ายและไม่สามารถให้อภัยได้ และยิ่งสะท้อนความโหดเหี้ยมของเกาหลีเหนือ ที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อสืบทอดอำนาจของตัวเอง”
นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ยังกังวลว่า เกาหลีเหนือจะก่อเหตุก่อการร้ายกับประชาชนและรัฐบาลเกาหลีใต้ เพราะมองว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนว่าเกาหลีเหนือเริ่มปฏิบัติการนอกประเทศ
มีการคาดการณ์ว่าเหตุสังหารครั้งนี้จะเป็นการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับจีนด้วย เพราะก่อนหน้านี้คิมจองนัมใช้ชีวิตอยู่ที่มาเก๊า ซึ่งหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุว่า เขาใช้ชีวิตในมาเก๊ากับภรรยาคนที่สองในการคุ้มครองดูแลของจีน
นอกจากนี้การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือล่าสุด ทำให้จีนซึ่งเป็นประเทศที่ต่อต้านเกาหลีเหนือน้อยที่สุดในภูมิภาค ตัดสินใจไม่นำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือ ซึ่งถ่านหินที่เกาหลีเหนือส่งออกให้จีนนั้นเป็นรายได้หลักของเกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือถูกสหประชาชาติคว่ำบาตรตั้งแต่ทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกเมื่อปี 2006 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการคว่ำบาตรใดที่ยับยั้งเกาหลีเหนือได้
ติดตามข่าวการถูกลอบสังหารของคิมจองนัมได้ที่ เกาหลีใต้ระบุ คิมจองนัมถูกวางยาพิษ และเป็นคนที่เกาหลีเหนืออยากสังหารมาตลอด 5 ปี
อ้างอิง:
- english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2017/02/19/0401000000AEN20170219003652320.html
- www.channelnewsasia.com/news/asiapacific/murder-of-leader-s-half-brother-shows-north-korea-getting-bolder/3533570.html
- www.channelnewsasia.com/news/asiapacific/malaysia-searching-for-4-more-north-korean-suspects-in-kim-jong/3531826.html