เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2017 วิกิลีกส์เปิดเผยเอกสารหลายพันหน้า (Vault 7) ที่ระบุว่าแฮกเกอร์ของหน่วยงาน CIA ของสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงข้อมูลของไอโฟน อุปกรณ์ที่ใช้ระบบกูเกิลแอนดรอยด์ คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงสมาร์ตทีวี เพื่อดักฟังเสียงและข้อความสื่อสารผ่านโทรศัพท์
เอกสารของวิกิลีกส์ระบุว่า CIA จะเจาะข้อมูลผ่านโปรแกรมอย่าง Skype เครือข่าย W-Fi หรือเอกสารที่เป็น PDF File หรือแม้กระทั่งโปรแกรมต่อต้านไวรัส
หากข้อมูลของวิกิลีกส์ล่าสุดได้รับการยืนยัน จะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการเทคโลยีอย่างมาก เพราะวิกิลีกส์เปิดโปงว่า CIA และหน่วยงานความมั่นคงพันธมิตรได้เข้าถึงข้อมูลข้อความและเสียงผ่านสมาร์ตโฟนทั้ง Apple และสมาร์ตโฟนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ ก่อนที่ข้อความจะถูกเปลี่ยนเป็นรหัสโดยเฉพาะผ่านแอปพลิเคชันชื่อดังอย่าง WhatsApp, Signal, และ Telegram
มากไปกว่านั้นคือ เอกสารของวิกิลีกส์เปิดโปงว่า CIA กำลังพิจารณาการเข้าถึงข้อมูลของรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต หรือรถที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม
โดยวิกิลีกส์ไม่ได้ระบุถึงแหล่งที่มาของเอกสารชิ้นนี้ เพียงแต่เปิดเผยว่า เอกสารรั่วไหลภายในบรรดาอดีตเจ้าหน้าที่แฮกเกอร์ของสหรัฐฯ และหนึ่งในนั้นเป็นคนส่งต่อข้อมูลให้กับวิกิลีกส์
หน่วยงาน CIA ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข้อมูลที่วิกิลีกส์ออกมาเปิดโปง พร้อมย้ำว่า ตามหน้าที่ของ CIA นั้นคือการสอดส่องดูแลต่างชาติ และถูกห้ามไม่ให้สอดส่องข้อมูลภายในสหรัฐฯ เอง และ CIA ไม่ได้ทำอย่างที่วิกิลีกส์กล่าวหา
ท่าทีของทำเนียบขาวต่อข้อมูลใหม่ของวิกิลีกส์
ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นคิดว่า ข้อมูลที่วิกิลีกส์เปิดโปงล่าสุดนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ที่บ่งบอกว่าหน่วยงาน CIA นั้นละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และ ฌอน สไปเซอร์ (Sean Spicer) โฆษกประจำทำเนียบขาวบอกว่า “นี่ควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกโกรธต่อประเทศนี้อย่างรุนแรง”
ในช่วงระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง วิกิลีกส์เคยออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับอีเมลของ จอห์น โปเดสตา (John Podesta) หัวหน้าการหาเสียงเลือกตั้งของฮิลลารี คลินตัน ที่ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกลับออกมาบอกว่า “ผมรักวิกิลีกส์”
สหรัฐฯ เสาะหาคนเปิดเผยข้อมูลนี้ให้กับวิกิลีกส์
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เปิดเผยกับ Reuters ว่า CIA น่าจะใช้วิธีการนี้ในการแฮกข้อมูลในช่วงระหว่างปี 2013-2016 และตอนนี้บริษัทที่ทำงานร่วมกับ CIA กำลังสืบค้นว่า มีพนักงานคนไหนบ้างที่เป็นคนดูแลข้อมูลเหล่านี้ ที่เป็นข้อมูลส่วนที่วิกิลีกส์เอาไปเผยแพร่ เพราะเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อมูลนี้ไม่น่าจะถูกส่งต่อโดยเจ้าหน้าที่ CIA แต่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเทคโนโลยีที่ให้ความร่วมมือกับ CIA มากกว่า
ด้าน FBI เตรียมสืบสวนทุกคนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ ซึ่งมีจำนวนอย่างน้อย 200-300 คน หรืออาจจะมากกว่า 1,000 คน
บริษัทเทคโนโลยีกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
บริษัทที่เกี่ยวข้องอย่าง Apple, Alphabet Inc (GOOGL.O), Cisco Systems Inc. (CSCO.O) และ Oracle Corp (ORCL.N) ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นทันทีต่อการเปิดโปงครั้งนี้ของวิกิลีกส์ มีแต่ผู้บริหารกูเกิล ที่ชี้แจงว่า “เรามั่นใจว่าเราอัพเดตด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และมีระบบป้องกันการแฮกข้อมูลทั้งใน Chrome และแอนดรอยด์ และเรากำลังจะทำให้ผู้ใช้งานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปอีก”
ก่อนหน้านี้ในปี 2015 ซัมซุงเคยออกมาเตือนผู้ใช้งานว่า สมาร์ตทีวีนั้นสามารถเก็บเสียงบทสนทนาในห้องได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การดักฟังได้เช่นกัน “จงระวังหากคุณกำลังพูดเรื่องที่เป็นส่วนตัวหรือเป็นข้อมูลลับ เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกดักฟังได้ และส่งต่อให้หน่วยงานใดก็ตามที่ใช้ระบบการดักฟังจากน้ำเสียง”
ข้อมูลรั่วไหลเกี่ยวกับการทำงานของ CIA สหรัฐฯ ครั้งนี้จึงสะท้อนคำถามให้กับทุกคนอีกครั้งว่า การป้องกันการก่อการร้ายในยุคดิจิทัลควรจะอยู่ตรงไหน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของประชาชนไปพร้อมๆ กัน
อ้างอิง:
- http://uk.reuters.com/article/uk-cia-wikileaks-idUKKBN16F2AC
- www.nytimes.com/2017/03/08/us/wikileaks-cia.html?_r=0
- www.nytimes.com/2017/03/07/world/europe/wikileaks-cia-hacking.html
